ปึก!
เพลงขวัญวางแก้วลงเสียงดังหลังจากที่ดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว ใบหน้าสวยหวานแปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงหลักจากมีบุคคลที่สามเข้ามาวุ่นวาย นอกจากเด็กนี่จะมายืนแทรกตรงกลางอย่างหน้าไม่อายแล้ว ยังพยายามเรียกร้องความสนใจจากอดีตคนรักของเธอตลอดเวลาอีกด้วย
“เอาแบบเดิมอีกแก้ว”
เสียงสั่งเครื่องดื่มที่ดังผิดปกติเรียกความสนใจจากหมอหนุ่มได้เช่นเคย เขาละสายตาจากเด็กสาวไปมองอดีตคนรักที่อยู่ถัดไปด้วยความเป็นห่วง
“พอเถอะเพลง ผมว่าคุณดื่มเยอะเกินไปแล้วนะครับ”
คีรินบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพ แล้วยกมือห้ามบาร์เทนเดอร์หนุ่มไม่ให้เอาเครื่องดื่มมาอีก จากนั้นก็ดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ
“ถ้าคีย์เบื่อ จะกลับก่อนเพลงก็ได้นะคะ” เพลงขวัญบอกหมอหนุ่มด้วยน้ำเสียงติดประชดแล้วหันไปสั่งเครื่องดื่มอีกครั้ง
“เอาแบบเดิมอีกสองแก้ว หรือเอาอะไรก็ได้ที่เมาเร็วที่สุด”
“ผมไม่ได้เบื่อ ผมแค่รู้สึกว่ามันดึกมากแล้ว”
คีรินยังคงบอกด้วยท่าทางใจเย็นและเป็นสุภาพบุรุษจนนาเดียรู้สึกหมั่นไส้ ผู้ชายอะไรจะเป็นคนดีได้ขนาดนี้ ตอนที่ได้ฟังจากคริสตัลเรื่องความเป็นสุภาพบุรุษของพี่หมอก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ ผู้ชายร้อยทั้งร้อยต้องทำดีเพื่อหวังเรื่องอย่างว่าในตัวผู้หญิงทั้งนั้น พอได้รู้จักและพูดคุยกับพี่หมอถึงได้รู้ว่าพี่หมอคนนี้เป็นคนดีจริงๆ แสนดีแบบที่เธอไม่เคยพบเจอมาก่อน
“กลับนะครับ เดี๋ยวผมไปส่ง”
“ไม่ค่ะ เพลงยังไม่อยากกลับ ถ้าคีย์อยากกลับก็กลับได้เลย เพลงกลับเองได้”
“ตอแหลจริงๆ”
คำพูดลอยๆ ของนาเดียทำเอาเพลงขวัญชักสีหน้าไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม
“พูดอะไรนะ?”
“หนูพูดว่าพี่คอแข็งจริงๆ ดื่มไปตั้งหลายแก้ว ยังนิ่งอยู่เลย ดื่มบ่อยเหรอคะ”
นาเดียพูดพร้อมรอยยิ้มแต่ความหมายของประโยคก่อนหน้าทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“น่าจะไม่บ่อยเท่าน้องหรอกค่ะ” เพลงขวัญตอบกลับทันควัน
“ใช่ค่ะ หนูดื่มบ่อย แต่ยังไม่นิ่งเท่าพี่เลย นี่ก็เริ่มจะนั่งไม่ไหวแล้วค่ะ” ร่างสวยแสร้งเสียหลักไปซบอกพี่หมอแล้วยิ้มให้เพลงขวัญอย่างผู้ชนะ อย่างน้อยเธอก็โสดเหมาะกับพี่หมอมากกว่าคนมีสามีแล้ว
รอยยิ้มของนาเดียเหมือนเชื้อเพลิงชั้นดีที่ทำให้เกิดการฟาดฟันผ่านสายตาจนหมอหนุ่มที่มองดูอยู่อึดอัดใจไปด้วย
“เพลงอยากกลับบ้านแล้วค่ะ คีย์ช่วยไปส่งเพลงที่บ้านได้มั้ย” เพลงขวัญที่เริ่มจะเมาจึงลุกจากเก้าอี้ไปหาหมอหนุ่ม และใช้ร่างสูงเป็นที่ยึดเกาะไม่ให้เสียหลักล้ม
“ได้ครับ” คีรินตอบรับอย่างว่าง่ายเพราะเขาอยากจะกลับไปพักผ่อนเต็มที แต่ก็ไม่ลืมที่จะเทคแคร์หญิงสาวอีกคนที่ยังนั่งอยู่
“แล้วหนูหล่ะครับ จะกลับหรือไปดื่มกับเพื่อนต่อ”
เพลงขวัญรู้สึกหงุดหงิดกับความเป็นสุภาพบุรุษของคุณหมอขึ้นมา ทำไมต้องไปใจดีกับคนอื่นด้วย
“หนูจะนั่งไปเป็นเพื่อนพี่หมอค่ะ ไปกันสองต่อสองกับคนที่มีครอบครัวแล้วมันดูไม่ดีนะคะ หนูไม่อยากให้พี่ทั้งสองคนเสียหาย”
คำพูดเหมือนจะหวังดีแต่เพลงขวัญรู้ดีว่านังเด็กคนนี้มันร้าย ทำแบบนี้มันตั้งใจจะแกล้งกันชัดๆ
“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ”
คีรินเห็นด้วยกับความคิดของนาเดีย เพราะถ้าเขาไปกับเพลงขวัญสองคนคงดูไม่ดีเท่าไหร่และเขาก็ไม่อยากให้เพลงขวัญมีปัญหากับสามีไปมากกว่านี้อีก
“แต่ว่า…” เพลงขวัญที่ไม่เห็นด้วยรีบหันไปมองหน้ารุ่นน้องสาวด้วยสายตาไม่พอใจ แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรก็โดนรุ่นน้องพูดแทรกขึ้นมาก่อน
“รีบไปกันเถอะค่ะ นี่ก็ดึกแล้ว หนูช่วยประคองนะคะ”นาเดียเข้าไปกระชากร่างของเพลงขวัญออกมาจากพี่หมอแล้วพาเดินตรบออกไปจากเคาน์เตอร์บาร์ทันที
หมอหนุ่มได้แต่ส่ายหน้าเบาๆให้กับความขี้แกล้งของเด็กสาว ดูก็รู้ว่าเธอตั้งใจแกล้งเพลงขวัญ แต่ก็ต้องขอบคุณเธอนะที่มาช่วยเขาให้พาเพลงขวัญกลับบ้านได้เร็วกว่าทุกครั้ง
“ให้ผมไปส่งที่ไหนครับ?” คีรินหันไปถามเพลงขวัญที่นั่งอยู่เบาะหลัง แน่นอนว่านาเดียเป็นคนจัดการทุกอย่าง
“ส่งที่บ้านเพลงค่ะ” เพลงขวัญเลือกที่จะให้อดีตแฟนหนุ่มไปส่งที่บ้านตัวเอง เพียงเพราะยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าสามี
นาเดียนั่งมองการกระทำของทั้งสองคนอยู่เงียบๆ เธอแอบสงสารพี่หมออยู่ไม่น้อยที่ไม่รู้ทันมารยาของผู้หญิงคนนี้เลยสักนิด
ไม่นานรถคันหรูก็มาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่
“เพลงครับ ถึงบ้านแล้วครับ” คิรินหันไปเรียกเพลงขวัญที่หลับอยู่
“เดี๋ยวหนูปลุกให้ค่ะ”
พอได้ยินว่านาเดียจะมาปลุก ไม่ใช่หมอหนุ่มอย่างที่คิดไว้ เพลงขวัญก็รีบลืมตาขึ้นมาทันที
“ถึงแล้วเหรอคะ คีย์ช่วยไปส่งเพลงบนห้องหน่อยได้มั้ยคะ เพลงเวียนหัวมากเลยค่ะ” เพลงขวัญเดินไปซบอกแกร่งโดยไม่สนใจนาเดียที่กำลังเดินลงมา
“หนูไปส่งดีกว่าค่ะ ให้ผู้ชายไปส่งบนห้อง มันดูไม่ดีนะคะ”
นาเดียเน้นย้ำคำว่าดูไม่ดีจนเพลงขวัญมองแรงใส่ ไม่ทันที่ใครจะได้ไปส่ง เสียงคุณหญิงของบ้านก็ดังขึ้นมา
“ลูกสาวนี่เอง แม้นึกว่าใครมา”
“สวัสดีครับคุณน้า ผมมาส่งเพลงครับ”
“ไปดื่มมาอีกแล้วเหรอ?” คุณหญิงส่ายหน้าให้กับการกระทำของลูกสาว ไม่ต้องถามก็พอจะรู้ว่ามีปัญหากับสามีมาแน่ๆ
“ดื่มนิดหน่อยเองค่ะแม่” เพลงขวัญพูดแทรกขึ้นมาพร้อมปัดแขนของนาเดียออกแล้วเดินเข้าบ้าน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังบอกว่าเดินไม่ไหวอยู่เลย
“งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
“จ๊ะลูก ขอบใจมากนะที่มาส่งน้องเพลง”
“ยินดีครับ”
ยินดีครับ นาเดียขยับปากเลียนแบบพี่หมอด้วยท่าทางหมั่นไส้จนหมอต้องก้าวไปขวางหน้าไว้ ไม่ให้ผู้ใหญ่เห็นกริยาไม่ดีของเธอ
“ขับรถดีๆ นะลูก”
“ครับ”
คีรินยกมือไหว้แม่ของอดีตแฟนอย่างสุภาพก่อนจะพานาเดียกลับขึ้นรถ ปล่อยให้คุณหญิงมองตามด้วยความรู้สึกเสียดาย สมัยนี้หาคนดีๆ แบบนี้ยากมาก ถ้ารู้ว่าเด็กหนุ่มในวันนั้นจะโตมาเป็นหมอที่มีชื่อเสียง คงจะไม่บังคับให้ลูกสาวทิ้งไปแต่งงานกับคนอื่นหรอก น่าเสียดายจริงๆ
..
ภายในรถปกคลุมไปด้วยความเงียบ ที่เงียบจนทำเอานาเดียรู้สึกอึดอัดขึ้นมา นี่ไม่คิดจะพูดอะไรกับเธอเลยหรือไง ทีกับคนที่มีครอบครัวแล้วพูดเสียงอ่อนเสียงหวานเชียว น่าหมั่นไส้ชะมัด
“ให้พี่ไปส่งที่ไหนครับ”
“ไปส่งห้องพี่หมอได้มั้ย หนูเวียนหัวมากเลยค่ะ หนูเดินไม่ไหว” นาเดียแกล้งทำเสียงเลียนแบบเพลงขวัญแล้วยังแกล้งเอนตัวไปซบไหล่คนขับอีกด้วย
“ทำไมต้องไปแกล้งเพลงด้วยหื้ม เขาอายุมากกว่าเรานะ”
“หนูต้องถามพี่หมอมากกว่าว่าทำไมถึงไปยุ่งกับผู้หญิงที่มีครอบครัวแล้ว ทีกับหนูกับเพื่อนหนูทำเหมือนคนไม่รู้จักกัน”
“ตกลงจะให้พี่ไปส่งที่ไหนดีครับ”
“ไม่บอกหรอก งอนแล้ว”
นาเดียสะบัดหน้าเชิ่ดใส่พี่หมอที่ชอบทำตัวห่างเหินกับเธอตลอดเวลา รู้มั้ยว่ายิ่งทำแบบนี้ ยิ่งอยากแกล้ง
“พี่ไม่ได้เมินหนูหรอกครับ พี่แค่เห็นว่าไม่มีเหตุผลอะไรต้องเข้าไปสนิทด้วย”
นั่นคือเหตุผลรองที่เขาพึ่งจะคิดขึ้นมาได้ แต่เหตุผลจริงๆ คือเขายังทำใจไม่ได้ที่จะไปยุ่งเกี่ยวหรือพูดคุยกับเพื่อนของคนที่เคยรัก คงต้องใช้เวลาทำใจอีกนานเลย
…
น้องเดียคนแซ่บกับพี่หมอคนดีมาแล้วค่า