ห้องวีไอพีของคลับมาวิน ในเวลาสองทุ่ม ประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามาด้านใน คนแรกเป็นเจ้าของคลับควงแขนมากับสาวสวยผมบลอนด์ ตามด้วยคนอื่น ๆ ที่ทยอยเข้ามา ทุกคนมีผู้หญิงควงแขนทุกคน
เหล่าพนักงานที่รับหน้าที่ดูแลห้องนี้มีเพียงสามคน หนึ่งในนั้นเป็นนภัสสร เธอยืนอยู่ด้านหลังชายหนุ่มที่มีรูปร่างสูงใหญ่ทว่าหล่อเข้ม โดยมีผู้หญิงนั่งเกาะแขนไม่ยอมปล่อย
ทุกคนแต่งตัวภูมิฐาน ดูก็รู้ว่ามีอันจะกินและยอมรับพวกเขาหน้าตาดีหล่อเหลากันทุกคน ทำให้นภัสสรต้องหลุบสายตามองพื้นแทน
“เธอชงเหล้าให้คุณหมอปัณหน่อยสิ ยืนบื้ออยู่ได้” หญิงข้างกายหันมาบอกนภัสสร
“ค่ะ” เธอขานรับและลงมือชงเหล้าให้ทันที
โชคดีที่ชั้นใส่ขวดเหล้าน้ำแข็งโซดามีครบจำนวนพนักงานเสิร์ฟจึงไม่ต้องเดินไปเดินมา
นภัสสรเดินผ่านตรงกลางระหว่างเก้าอี้นั่ง มันเป็นทางเดินเข้าออกไว้เดินเพื่อง่ายต่อการยกแก้วเหล้าไปวางบนโต๊ะให้ และเดินกลับมายืนที่เดิมคอยดูว่ามีใครต้องการอะไรเพิ่ม
เสียงเพลงเปิดให้ความตื่นเต้นสนุกสนานของนักท่องเที่ยวราตรี ได้โยกย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะเสียงเพลง ท่ามกลางแสงไฟหลากสีสลับไปมา ซึ่งไม่ต่างจากห้องวีไอพีโซนด้านบน แสงไฟวิบวับทำให้บรรยากาศฮึกเหิมตื่นเต้น
ยิ่งดึกยิ่งเมายิ่งมั่ว ช่วงหัวค่ำก็ยังนั่งดื่มกินกันตามปกติไม่ค่อยวุ่นวาย พอเริ่มดึกก็เริ่มเสียงดังขึ้นเรื่อยตามประสาคนเมา แก้วเหล้าชนกระทบกันเสียงดัง หนักเข้าบางคู่นั่งล้วงนั่งจับอย่างไม่อาย จนกระทั่งหนึ่งในนั้นเรียกนภัสสรให้ชงเหล้าให้ เธอทำตามอย่างว่องไวขืนช้ากลัวพวกเขาจะไม่พอใจ
“ได้แล้วค่ะ” เธอยื่นแก้วเหล้าให้แต่กลับถูกคว้าแขนล้มลงบนตักชายคนนั้น ซึ่งนั่งติดกับชายหนุ่มหน้าตาคมเข้ม
“ว้าย” นภัสสรร้องเสียงหลง มือเผลอดึงเสื้อตรงแขนชายหนุ่มที่นั่งติดกัน
“ชื่ออะไรครับคนสวย” กลิ่นเหล้าปะทะจมูกทำให้คนฟังเริ่มเวียนหัว
“ปล่อยเถอะค่ะ” เธอพยายามขืนตัวไม่ให้ชายคนนั้นแนบชิดตัวมากเกินไป
“คุณคะ อย่าแกล้งเด็กมันสิคะ” หญิงสาวปากแดงก้มจูบลงปากชายคนนั้นทันที นภัสสรได้แต่อ้าปากค้าง ไม่คิดว่าพวกเขาจะกล้าจูบต่อหน้าคนนับสิบกว่าคน
“ปล่อยเสื้อฉัน อยากร่วมวงก็บอกพวกเขาสิ” ชายหนุ่มเจ้าของแขนเสื้อที่โดนดึง มองด้วยความไม่พอใจ
“ว้าย” นภัสสรถูกผู้หญิงที่โดนจูบใช้หลังดันจนเธอล้มทับเกยบนตัวผู้ชายที่พึ่งดุเธอ
เต้าอวบเบียดต้นแขนแกร่งจนเขาสัมผัสถึงความอ่อนนุ่ม กลิ่นหอมแป้งเด็กเหมือนครั้งก่อน ทำให้เขาต้องมองหน้านภัสสร
“ดื่มหน่อยสิ” มือหนายกแก้วเหล้าจ่อปากหญิงสาว หลังจากเขากระชับเอวคอดให้นั่งลงบนตักเขา
“หนูดื่มไม่เป็นค่ะ” เสียงสั่นเครือพร้อมเนื้อตัวที่สั่นเทิ้ม
“ฉันจ่ายไม่อั้นสำหรับแก้วนี้” เขาพูดข้างใบหู ลมที่พ่นออกจากริมฝีปากมันมีแต่กลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่ ลิ้นเปียกชื้นแตะลงใบหู ทำนภัสสรสะดุ้งจนต้องย่นคอลง
“แต่ว่า” ริมฝีปากกำลังขยับที่จะบอก
“หนึ่งหมื่นบาท” เสียงทุ้มต่ำกระซิบ
ครั้นได้ยินจำนวนเงิน นภัสสรถึงกับตาโตลุกวาว เงินหนึ่งหมื่นบาททั้งเดือนเธอแทบไม่เคยได้จับ เหล้าแก้วเดียวได้ตั้งหมื่นบาท ใครไม่เอาก็โง่ละ เธอตกลงยอมรับข้อเสนอทันที ลืมคำเตือนของพี่โรซี่จนหมดสิ้น
“ค่ะ” มือสวยนุ่มรับแก้วเหล้าจากชายหนุ่มขึ้นดื่ม ปากโดนนิดเดียวเธอถึงเบ้หน้า แต่ก็กระดกพรวดเดียวหมดแก้ว
“แคก ๆ” นภัสสรไอจนน้ำตาไหล พอน้ำเมาไหลลงลำคอสู่ท้อง มันร้อนวูบวาบเกือบอาเจียน มือเรียวยาวลูบแผ่นหลังบอบบางให้ ก่อนจะยกมาวางบนหน้าขาขาวเนียนของหญิงสาว
เด็กสาวคนนี้คือเด็กสาวในคืนนั้น เขาจำกลิ่นนี้ได้ หญิงสาวคนนี้มีแรงดึงดูดและน่าสนใจ
เขาคุ้นหน้าเด็กสาวคนนี้เหมือนเจอที่ไหนมาก่อนแต่นึกไม่ออก
“นี่เธอทำอะไรหมอปัณ” ผู้หญิงที่กลับจากไปเข้าห้องน้ำเห็นเข้าพอดี เธอกำลังจะเดินมานั่งที่เดิม แต่กลับถูกดึงไปบดจูบจากผู้ชายคนอื่น
“เดี๋ยวฉันโอนให้” ปากหยักงับเข้าที่ใบหูเบา ๆ แต่เขายังไม่ยอมปล่อยหญิงสาวไปทำหน้าที่
“หมอปัณ” นภัสสรย้ำชื่อชายหนุ่ม เธอชายตาขึ้นมองกลับต้องหลบสายตาคู่นั้น ใจเต้นตึกตักเธอยอมรับว่าเขาหล่อราวกับเทพบุตรจริง ๆ
นายแพทย์ปัณณวัฒน์ ศิริเวชชัยกุล หรือ หมอปัณ อายุสามสิบหกปี ทายาทโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่ง
ขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานเริงร่าและกำลังนัวเนียกันอยู่ สาวที่ตอนแรกนั่งข้างหมอปัณลุกขึ้นไปยังชั้นบาร์วางเหล้าที่นภัสสรเป็นคนดูแล เธอเทผงสีขาวบางอย่างลงแก้ว และกลับมาที่นั่งเหมือนเดิม
“นี่เธอไปชงเหล้าแก้วใหม่ให้คุณหมอปัณใหม่”
คนฟังสีหน้างง แต่ก็ต้องรีบพยักหน้า
“แก้วนี้ผ่านปากเธอแล้ว” เธอใช้สะโพกบดเบียดกับเรียวขาของคุณหมอ
“ค่ะ ๆ” นภัสสรละล่ำละลัก รีบลุกขึ้นและไปชงเหล้าแก้วใหม่ทันที เธอนำกลับไปให้ชายหนุ่ม รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้หญิงข้างกายคุณหมอ เธอเบียดกายเข้าหา แต่หารู้ไม่ว่าการกระทำของผู้หญิงคนนั้น ถูกบันทึกโดยกล้องวงจรปิดขนาดจิ๋ว
เพียงแค่หนึ่งแก้วของน้ำเมา ส่งผลให้นภัสสรที่ไม่เคยดื่มถึงกับเวียนหัวตาลาย เธอกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงลำคอ ก่อนจะเดินเซไปหาเพื่อนที่ตอนนี้กำลังได้ที่กับแขก กำลังจะหมุนตัวออกจากห้อง กลับโดนมือหนาจับและบีบ
“อื้อ” เธอรีบเงยหน้าขึ้นมอง
“ภัสจะไปไหนเหรอครับ” มาวินที่ยืนเซถามเสียงยานคาง
“อ้อ ภัสจะไปดื่มน้ำค่ะ” ตอนนี้เธออยากดื่มน้ำมาก ๆ รู้สึกคอแห้ง
“เอาของพวกพี่ดื่มได้เลย”
เขาปล่อยแขนและชี้มือไปยังขวดน้ำที่อยู่ในชั้นบาร์ ไม่รู้มาวิน มองเห็นหรือไม่เห็น เพราะในห้องมีเพียงแสงไฟสลัวสาดส่องเท่านั้น
“ค่ะ ๆ” นภัสสรเดินกลับมายังชั้นบาร์ที่ตัวเองรับผิดชอบ