นังบ้าหายไป

1545 คำ
เมื่อก่อนชุยหยุนนับว่าเป็นที่หมายปองของสาวๆ ในหมู่บ้าน ตัวเขาร่ำเรียนมาตั้งแต่อายุเพียงสิบหนาว พอสูญเสียบิดาเมื่อห้าปีก่อน เพิ่งจะหยุดเรียนไป ด้วยไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าเรียนและเครื่องเขียนของเขาทุกปี แต่ก็นับว่าเขาเก่งไม่น้อย ถึงจะไม่ได้ร่ำเรียนก็ยังคงศึกษาตำราด้วยตนเองเสมอ ไหนจะรับงานคัดตำรามาเขียนที่เรือน ทำให้มีรายได้เข้ามาใช้จ่ายได้อย่างคล่องมือ แต่พออาการทรุดหนักลง เงินที่เก็บสะสมไว้เพื่อเข้าเรียนต่อ ก็ถูกใช้จ่ายออกไปราวกับน้ำป่าทะลัก เงินก้อนสุดท้ายในเรือน คือค่าตัวของหลิงเฟิ่งที่จ่ายให้ตระกูลหลี่ เดินเข้ามาด้านในภูเขา คงมีเพียงหลิงเฟิ่งเท่านั้นที่ยังดูสนุกสนานอยู่ ผิดกับสตรีทั้งสองนางที่ตั้งใจจะเข้าไปให้ลึกกว่านี้ แต่ขาของพวกนางมันทรยศ ไม่อาจก้าวเดินต่อได้ “อาเฟิ่ง เจ้าเห็นต้นไม้ใหญ่ด้านในหรือไม่” หวงหลานเดินเข้ามาจับข้อมือของหลิงเฟิ่งเอาไว้ “นั่นรึ” นางชี้มือไปที่ต้นไม่ใหญ่ ที่อยู่ห่างไม่น้อยเลย “ใช่แล้ว เจ้าไปเก็บดอกไม้ตรงนั้น พวกข้าจะเก็บอยู่ตรงนี้ หากข้าไม่เรียกก็ไม่ต้องออกมา เข้าใจหรือไม่” นางค่อยๆ พูดทีละคำเพื่อให้หลิงเฟิ่งฟังรู้เรื่อง “ไม่” นางส่ายหน้าอย่างไม่ยินยอม “นัง...เอ่อ เอาแบบนี้พวกข้าตามเข้าไปไม่ได้ หากเจ้าเก็บเสร็จแล้ว ข้าจะพาไปซื้อปิ่นงามๆ ดีหรือไม่” กวงเจินเข้ามาช่วยพูดอีกคำ “เอาเลย” นางชี้มือไปที่ปิ่นที่ปักอยู่บนหัวของทั้งสองคน ก่อนจะเข้าไปดึงแย่งเอามาไว้ในมือ “นังบ้า!!! เอา...” กวงเจินจะเข้ามาแย่งปิ่นในมือของหลิงเฟิ่ง แต่ถูกหวงหลานดึงรั้งเอาไว้เสียก่อน “ให้นางไป ข้าจะไปซื้อให้เจ้าใหม่” นางเอ่ยกระซิบเสียงเบา หลิงเฟิ่งที่ได้ปิ่นของทั้งสองมาแล้ว นางก็ปักปิ่นไว้บนผมของนางทันที “ได้ปิ่นไปแล้ว เจ้าก็รีบเข้าไปเก็บดอกไม้เสียสิ” กวงเจินอยากจะออกไปจากป่าใจแทบขาดแล้ว นางจึงดันตัวหลิงเฟิ่งให้ออกเดิน หลิงเฟิ่งเดินกระโดดโลดเต้นไปตลอดทาง โดยไม่ได้หันมาสนใจสตรีทั้งสองที่ทิ้งนางให้เข้าไปเพียงผู้เดียว กวงเจินกับหวงหลานเมื่อเห็นว่าหลิงเฟิ่งไม่ได้หันมาสนใจ ต่างก็รีบเร่งฝีเท้าเดินออกไปจากป่าเพื่อกลับหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว หลิงเฟิ่งเดินไปได้เพียงแค่ครึ่งทาง เมื่อหันกลับไปมองก็เห็นว่าทั้งสองหายตัวไปเสียแล้ว นางจึงได้เข้าไปภายในมิติของนางแทน “ใครโง่กว่ากัน ประเดี๋ยวพวกเจ้าก็รู้” หลิงเฟิ่งมองปิ่นในมืออย่างนึกสนุก กวงเจินและหวงหลานคงคิดว่านางจะตายอยู่ในป่า จึงไม่ได้สนใจหากจะมีปิ่นของพวกนางติดตัวหลิงเฟิ่งมาด้วย หลิงเฟิ่ง นางทำสัญลักษณ์ไว้ตามทางที่เดินเข้ามา หากจะออกไปนางจะได้ไม่หลง จูซื่อกับชุยหยุน เมื่อเดินทางเข้ามาถึงในเมือง ต่างก็แยกย้ายไปจัดการเรื่องของตนเอง จูซื่อไปส่งผ้าที่ร้านประจำของนาง ทั้งยังซื้อผ้าใหม่มาไว้ตัดชุดให้หลิงเฟิ่งด้วย ชุยหยุน เจ้าของร้านตำรา เพียงแค่เห็นหน้าเขาก็ดีใจจนเดินออกมารับเขาที่หน้าประตูร้านด้วยตนเอง “อาหยุน เจ้าหายดีแล้วรึ” เขามองสำรวจชุยหยุนก็เห็นว่าสีหน้าของเขาดีกว่าแต่ก่อนมากนัก “ดีขึ้นขอรับ แต่ยังมิหายขาด เอ่อ...เถ้าแก่ ข้าจะกลับมาคัดตำรา ไม่ทราบว่า...” “ดี ๆ บัณฑิตไม่น้อย ต่างบ่นเสียดายที่รู้ว่าเจ้าเลิกคัดตำรา หากรู้ว่าเจ้ากลับมาคัดตำราอีกครั้ง คงต้องรีบเข้ามาจับจองกันแน่” เขายิ้มกว้างออกมาอย่างยินดี ก่อนจะให้เสี่ยวเอ้อ ไปนำตำรามาให้ชุยหยุน พร้อมทั้งกระดาษ เครื่องเขียน โดยไม่คิดเงินสักเหรียญทองแดง “ค่ากระดาษ น้ำหมึก ไว้ท่านหักเงินหลังจากที่ข้านำตำรามาส่งได้หรือไม่ขอรับ” “ไม่ต้องๆ เจ้ากลับมายอมคัดตำรา ข้าก็ขอบคุณสวรรค์ไม่ทันแล้ว” นับตั้งแต่ที่ชุยหยุนเลิกคัดตำราไป รายได้ของทางร้านก็ลดลงไปไม่น้อย ตัวอักษรของชุยหยุน ทั้งงดงาม และอ่านง่าย คำผิดก็ไม่มี ทำให้บัณฑิตทั้งหลายในเมืองตงเฉิงต้องการตำราที่เขาคัดลอก เป็นเช่นนี้เถ้าแก่ร้านตำรา ยอมออกค่ากระดาษน้ำหมึก ไม่กี่ตำลึงจะไม่คุ้มค่าได้อย่างไร เมื่อจัดการเรื่องที่ตนเองเข้ามาในเมืองเรียบร้อยแล้ว จูซื่อแวะซื้อซาลาเปา เพื่อกินระหว่างนั่งเกวียนกลับหมู่บ้าน ทั้งยังซื้อไปฝากหลิงเฟิ่งนางด้วย “ท่านแม่ ท่านเป็นอันใดขอรับ” ชุยหยุนเห็นผู้เป็นมารดานั่งมองว่าเมื่อใดเกวียนจะเต็มอย่างกระวนกระวาย “ข้าเป็นห่วงเฟิ่งเออร์ ไม่รู้ว่านางจะกินข้าวแล้วหรือยัง” ยามนี้เป็นเวลามื้อกลางวันแล้ว เรือนอื่นไม่ค่อยได้กินมื้อกลางวันกัน แต่มิใช่กับตระกูลซ่ง นับตั้งแต่มีหลิงเฟิ่งนางมาอยู่ด้วย จูซื่อก็เพิ่มมื้อกลางวันให้นางอีกมื้อหนึ่ง “ท่านแม่อย่าได้กังวล ป้าจินนางรับปากแล้ว ว่าจะดูแลเฟิ่งเออร์ให้” ชุยหยุนที่รู้ดีว่าหลิงเฟิ่งนางไม่ได้บ้า จึงไม่ได้กังวลเช่นผู้เป็นมารดา “เอาเถิด ดูท่าข้าจะกังวลมากเกินไป” จูซื่อส่งซาลาเปาให้บุตรชายกินรองท้องไปก่อน อีกเกือบสองชั่วยาม กว่าจะเดินทางถึงหมู่บ้าน ป้าจิน เตรียมข้าวให้หลิงเฟิ่งเรียบร้อย ก็มายืนร้องเรียกนางอยู่ที่ข้างเรือน ด้วยประตูหน้าเรือนถูกปิดแน่นหนา นางจึงทำได้เพียงแค่ส่งอาหารให้หลิงเฟิ่งตรงรั้วเท่านั้น “เฟิ่งเออร์ เฟิ่งเออร์กินข้าวเร็ว” นางตะโกนเรียกอยู่นานก็ไม่เห็นว่าหลิงเฟิ่งนางจะโผล่หน้าออกมา “ยายเฒ่า หรือว่านางจะหลับ” ลุงจินผู้เป็นสามีเอ่ยถามออกมา เมื่อเห็นว่าเรียกนานแล้ว ก็ไม่มีการตอบรับ “รออีกประเดี๋ยว ข้าค่อยมาเรียกนางใหม่” ป้าจินถือถาดกลับไปที่เรือนของนาง จิบถ้วยชา (ประมาณ15นาที) นางก็เดินมาร้องเรียกหลิงเฟิ่งใหม่ จนชาวบ้านที่กำลังกลับเรือน นางหยุดถามนางอย่างสงสัย ว่าจะร้องเรียกหญิงบ้าไปเพื่ออันใด “อาจูกับอาหยุน เข้าเมือง จึงได้ฝากข้าให้ดูแลเฟิ่งเออร์ ข้าเรียกนางหลายรอบแล้ว แต่ไม่เห็นว่านางจะออกมา” “เข้าไปดูในเรือนเลยไม่ดีกว่ารึ” “อาหยุนปิดเรือนเสียแน่นหนา ข้าจะเข้าไปเช่นไร” นางถอนหายใจออกมา เมื่อครู่ลองเดินไปดูแล้ว จะให้ปีนรั้วเข้าไป หากตกลงมาคนมีอายุไม่น้อยแล้วเช่นนางบาดเจ็บขึ้นมาคงได้แต่นอนเป็นผักอยู่บนเตียง “มา ข้าเอง” อาไฉ บุตรชายของป้าเหลียนอาสาปีนรั้วเข้าไปดูหลิงเฟิ่งภายในเรือนให้ เมื่อเข้าไปเปิดดูทุกห้อง ทั้งเดินหานางไปทั่วเรือนไม่พบ ก็วิ่งหน้าตื่นออกมาหาทุกคนที่อยู่หน้าเรือน “ไม่มี!!!” “สวรรค์ เจ้าหาดีแล้วรึ” ป้าจินยกมือขึ้นทาบอก “ดีแล้ว ข้าเดินดูทุกห้อง ทั้งยังเดินทั่วเรือน ไม่เห็นแม้แต่เงาของนาง” “หรือว่านางจะออกมาด้านนอกได้” มีชาวบ้านเอ่ยออกมาอย่างสงสัย “จะออกทางใดได้ หรือว่านางจะปีนรั้วออกมา” ป้าจินเริ่มหน้าเสีย “ไปแจ้งหัวหน้าหมู่บ้านให้ช่วยกันออกตามหานางก่อนเถิด” มีคนเสนอขึ้นมา ทุกคนต่างก็แยกย้ายไปช่วยกันตามหาหลิงเฟิ่งภายในหมู่บ้าน หากมิใช่เห็นแก่ความดีของแม่ลูกตระกูลซ่ง ชาวบ้านก็คงไม่ค่อยสนใจเรื่องของหลิงเฟิ่งมากนัก พอหัวหน้าหมู่บ้านรู้เรื่อง ก็รีบเรียกชาวบ้านให้ช่วยกันออกตามหา แม้ตระกูลหลี่จะรู้เรื่องที่หลิงเฟิ่งหายไป แต่ก็ไม่มีผู้ใดคิดจะออกมาจากเรือนมาดูหรือสอบถามเรื่องราวเลยสักคน กวงเจินกับหวงหลานที่เพิ่งจะเดินกลับมาถึงภายในหมู่บ้าน ก็ต้องตกใจ ที่ชาวบ้านเดินกันร้องเรียกหลิงเฟิ่งไปทั่ว “เร็วนักเล่า” กวงเจินดึงแขนของหวงหลานเอาไว้ด้วยความหวาดกลัว “เจ้าอย่าได้แตกตื่น มิเช่นนั้นจะโดนจับได้ เข้าไปช่วยตามหาเถิด” หวงหลานแม้จะหวาดกลัวเช่นกัน แต่ก็ยังใจกล้าเดินเข้าไปสอบถามความกับชาวบ้าน แล้วทำทีเป็นช่วยร้องเรียกหาหลิงเฟิ่งอีกแรง “ในหมู่บ้านหาจนทั่วแล้ว เจ้าพอจะรู้ไหมว่านางยังมีที่ใดให้ไปอีก” หัวหน้าหมู่บ้านเดินเข้ามาถามป้าเหลียน “ลำธาร หรือว่านางจะไปเล่นน้ำที่ลำธาร” ป้าเหลียนร้องออกมาเสียงดัง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม