แก้ปัญหาตรงหน้าไปก่อน

1265 คำ
“พี่ณีครับผมมีเรื่องอยากปรึกษา” เอกอาทิตย์พูดกับหัวหน้าพยาบาลเมื่อเดินออกมาจากห้องพักของอัญชิสา “เรื่องอัญใช่ไหม” “ครับพี่ณี ผมอยากชวนพี่ไปคุยกับอาจารย์หมอหน่อยได้ไหมครับ” “ได้สิคะหมอซันพี่เองก็อยากถามถึงอาการของอัญอยู่เหมือนกัน” “ฉันไปด้วยนะ” “นายจะไปทำไม” “ก็ไปในฐานะนายจ้างของอัญไงล่ะ” ทั้งสามคนเดินไปยังห้องพักของอาจารย์หมอสุชาติ ธีรกานต์เคาะประตูเมื่อได้ยินเสียงอาจารย์หมอสุชาติอนุญาตก็รีบเปิดประตูเข้าไป “นี่จะมาคุยเรื่องคนไข้กับผมทั้งสามคนเลยเหรอ” “ครับอาจารย์ ผมจะถามอาจารย์ว่าอาการที่คุณอัญเขาเป็นอยู่มีโอกาสจะหายไหม” “โอกาสหายนะมีแต่ต้องใช้เวลาหน่อยน่ะ” “นานไหมคะหมอ” “บางทีอาจจะแค่วันสองวันหรือไม่ก็นานเป็นสัปดาห์ก็ได้” “แล้วเป็นไปได้ไหมครับที่เธอจะจำอะไรไม่ได้เลย” “เป็นไปได้ยากนะหมอซันเพราะผลซีทีสแกนไม่มีรอยโรคหรือเลือดออกตรงไหนเลย มันอาจจะเป็นแค่อาการวิตกกังวลหลังเกิดอุบัติเหตุหรือสมองอาจจะได้รับความกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อยแต่ผมว่าไม่นานเธอก็น่าจะกลับมาจำทุกอย่างได้” อาจารย์หมอบอกไปตามความจริง “ได้ยินอาจารย์หมอพูดแบบนี้ณีก็โล่งใจหน่อยค่ะ แล้วแบบนี้จะต้องอยู่โรงพยาบาลนานไหมคะ” “ผมขอสังเกตอาการสักสองสามวันก่อนนะ จากนั้นก็น่าจะกลับบ้านได้ ส่วนเรื่องกระดูกที่ร้าว เมื่อเช้าผมคุยกับหมอแผนกออร์โธฯ แล้วเขาบอกว่าไม่เป็นปัญหาอะไรแค่ใส่เฝือกอ่อนไว้แต่ห้ามคนไข้ลงน้ำหนักจนกว่าจะหายส่วนใหญ่ก็ไม่เกินสามเดือน” “อาจารย์ครับถ้าเกิดว่าเธอหายเป็นปกติแล้วเรื่องราวระหว่างช่วงนี้เธอจะยังจำได้ไหม” “ส่วนใหญ่คนไข้ก็จดจำได้ทั้งหมดนะ แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่คนไข้แต่ละคนด้วย ทางที่ดีช่วงนี้เราก็ค่อยๆ บอกข้อมูลของเธอไปทีละนิดถ้าเห็นว่าเธอเริ่มปวดหัวก็ให้เปลี่ยนเรื่องพูด” “ค่ะ อาจารย์ณีกับน้องในแผนกจะมาพยายามมาคุยกับเธอบ่อยๆ ” “ผมได้ยินบอกว่าเธออยู่คนเดียวที่หอพักโรงพยาบาลแล้วแบบนี้ถ้าออกโรงพยาบาลไปใครจะเป็นคนดูแลล่ะ” “ผมคิดว่าจะพาเธอไปอยู่ที่บ้านครับอาจารย์” “แต่หมอซันก็ต้องมาทำงานทุกวันนะแล้วตอนกลางวันล่ะ” “คิดว่าจะจ้างพยาบาลพิเศษไปคอยดูแลเธอแล้วก็น่าจะหาเด็กรับใช้สักคนครับ” “เรื่องเด็กรับใช้ไม่ต้องห่วงหรอกเดี๋ยวให้เด็กรับใช้ที่บ้านของแม่ฉันไปช่วยดูก็ได้บ้านของนายกับบ้านของฉันก็ไม่ได้ไกลกันมากเท่าไหร่” “ไม่เป็นไรหรอกกานต์ฉันว่าฉันหาเองได้” “แต่คนที่ไว้ใจมันหายากนะ เอาเถอะน่าเด็กที่บ้านฉันเยอะแยะให้ไปช่วยงานที่บ้านนายสักคนก็ไม่เดือดร้อนเท่าไหร่หรอก แล้วอัญเขาก็เป็นลูกน้องของฉันนะ ฉันก็อยากจะมีส่วนช่วยดูแลเธอบ้าง” “ส่วนเรื่องพยาบาลเดี๋ยวพี่จะหาพยาบาลที่ไว้ใจให้ดีไหมคะ” “ขอบคุณครับพี่ณี” “วางแผนกันแบบนี้ถามคนไข้แล้วใช่ไหม” “ยังเลยครับอาจารย์ ผมไม่รู้จะพูดยังไงให้อัญยอมไปอยู่กับผม” “ปกติแล้วคนไข้ที่จำอะไรไม่ได้ค่อนข้างจะไว้ใจคนยาก การจะพาเธอไปอยู่ในสถานที่แปลกใหม่หรือไปอยู่บ้านผู้ชายมันก็ยากนะ”อาจารย์หมอบอกตามประสบการณ์ที่ตนเองเคยเจอมา “ผมกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ครับถ้าเกิดผมบอกว่าผมกับเธอเป็นแฟนกันเธอจะยอมไปที่บ้านของผมไหม” “นายคิดอะไรของนายอยู่ซัน ถ้าเกิดเธอจำทุกอย่างได้ขึ้นมานายไม่กลัวเธอโกรธเหรอ” "ฉันไม่รู้จะเอาวิธีไหนชวนเธอไปอยู่ที่บ้าน พี่ณีว่ายังไงครับ” “พี่ว่าข้อเสนอของหมอซันก็น่าสนใจดีนะ” “แล้วคุณอัญเขามีแฟนหรือเปล่าครับ” หมอธีรกานต์ถามหัวหน้าแผนกผู้ป่วยนอก “เท่าที่พี่รู้อัญฉันไม่มีแฟนนะคะ” “ถ้างั้นก็ตกลงตามนี้แล้วกันเราจะบอกเธอไปแบบนี้แหละให้เธอเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะไปอยู่กับผมที่บ้านหรือเปล่า แต่ถ้าได้พี่ณีช่วยพูดก็ว่าอัญเธอน่าจะเชื่อนะ” “เดี๋ยวตอนเย็นพี่ว่าจะขึ้นมาคุยกับอัญ บางทีถึงตอนนั้นอัญเขาอาจจะจำเรื่องทุกอย่างหมดแล้วก็ได้” “เรื่องนี้ผมรบกวนพี่บอกคนที่จะขึ้นไปเยี่ยมอัญด้วยนะครับ เรื่องที่ผมชวนอัญไปอยู่ที่บ้าน” “พี่จะกำชับเด็กในแผนกให้บอกว่าหมอซันกับอัญกำลังคบกันอยู่ตกลงตามนี้นะคะ” “ขอบคุณครับพี่ณี” “หมอซันคิดดีแล้วใช่ไหม” “ครับอาจารย์” เอกอาทิตย์ตอบอาจารย์หมอจากนั้นทั้งสามคนก็พากันออกมานอกห้อง ศิราณีขอตัวไปทำงานต่อขณะที่หมอเอกอาทิตย์เติมตามธีรกานต์ไปที้หองทำงานของเขา “ฉันว่ามันมากเกินไปหรือเปล่าที่จะพาเธอไปอยู่ที่บ้าน แค่ให้เธอนอนพักรักษาตัวอยู่ที่นี่และจ้างพยาบาลดูแลก็น่าจะพอแล้วนะ” “ถ้าเป็นนายป่วยแล้วให้อยู่ในโรงพยาบาลตลอดเวลานายจะเบื่อไหม” “มันก็คงต้องเบื่อแต่ในเมื่อมันไม่มีทางเลือกก็คงต้องเป็นอย่างนั้น นอกเสียจากว่านายคิดอะไรกับเธอ” ธีรกานต์มองหน้าเพื่อนอย่างต้องการคำตอบและเมื่อเห็นเอกอาทิตย์หลบสายตาเขาก็เข้าใจทันทีว่าตอนนี้เพื่อนของตนรู้สึกยังไงกับพยาบาลสาวคนนั้น “นายกำลังชอบเธอใช่ไหม” “ไม่ใช่กำลังชอบแต่ฉันชอบเธอมานานแล้ว เพียงแต่ไม่มีโอกาสคุยกับเธอ” “แต่นายก็เจอเธอมานานหลายเดือนแล้ว” “ฉันย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ได้เกือบสี่เดือนก็เท่ากับระยะเวลาที่ฉันรู้จักกับเธอนั่นแหละ แต่เราไม่ค่อยได้คุยกันตามลำพังเลยทุกวันเจอกันก็เหมือนเพื่อนร่วมงานคนอื่น” “ถ้าเธอจำเรื่องทุกอย่างได้นายจะทำยังไง” “ฉันยังไม่คิดตอนนี้เราต้องแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าไปก่อนถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกที” “นายไม่กลัวเธอจะโกรธเหรอ” “มันก็เป็นสิทธิ์ของเธอนะถ้าเธอจะโกรธแต่ตอนนี้สิ่งที่ฉันทำได้ก็คือรับเธอไปดูแลอย่างดีที่สุด มันเป็นความผิดของฉันเองด้วยที่ขับรถประมาท” “นายพูดเหมือนจะรับผิดชอบทั้งชีวิตเลยนะ” “มันก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกนะ แต่ถ้าหากคุณอัญเขาเต็มใจให้ฉันรับผิดชอบมันก็โอเคนะ” “ฉันขอถามอีกอย่าง ถ้าหากว่าเธอจำอะไรไม่ได้ตลอดล่ะ นายจะทำยังไง” “ก็ดีนะสิฉันจะได้เป็นความทรงจำเดียวของเธอ” “นายท่าจะบ้าแล้วนะ คิดอะไรแปลกๆ” “ไม่แปลกหรอก คนเรามันก็ต้องทำอะไรเพื่อตัวเองกันบ้าง ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม