พี่เลขาคู่หมั้น

1414 คำ
บ้านเดย์ เมื่อเสียงเครื่องยนต์ดับลงเด็กสาวในชุดนักศึกษากระโปรงยาวพร้อมกับชายหนุ่มในชุดลำลองเสื้อยืดสีดำและกางเกงขาสั้นสีครีมก็ก้าวลงจากรถพร้อมกัน แต่ยังไม่ทันจะได้เดินไปไหนสุนัขพันธุ์ใหญ่อย่างโกลเด้นก็วิ่งกระโจนเข้ามาหาขนมผิงที่ไม่ทันได้ตั้งตัวจนเผลอทำหน้าเหวอตกใจ “ไดมอนด์!” เดย์รีบเข้ามาห้ามพลันอุ้มเจ้าหมายักษ์ออกจากตัวขนมผิงที่ตอนนี้ลงไปนั่งจุ่มก้นกับพื้นเรียบร้อยแล้ว “เป็นอะไรไหมผิง” “มะ ไม่เป็นอะไรค่ะแต่น้องแรงเยอะจังเลยนะคะผิงกระเด็นเลย” เธอพูดติดตลกด้วยนึกเอ็นดูเจ้าหมายักษ์ที่กระดิกหางอยากเล่นแต่ทว่ากลับลืมนึกไปว่าตัวเองเป็นหมาใหญ่แรงเยอะ “ไดมอนด์!!” เสียงหนึ่งดังตะโกนมาจากข้างบ้าน พอเจ้าหมายักษ์ได้ยินเสียงก็รีบวิ่งแจ้นไปหาต้นเสียงทันที เดย์ยื่นมือให้ขนมผิงจับก่อนจะดึงร่างเธอให้ลุกขึ้นยืน สาวน้อยปัดฝุ่นเปรอะเปื้อนที่ก้นเล็กน้อยก่อนจะฉีกยิ้มให้เดย์ “เจ้าไดมอนด์มันชอบคึกเวลาเจอคนแปลกหน้าพี่ขอโทษแทนมันด้วยนะ” “ไม่เป็นไรเลยค่ะ มันน่ารักออก” “ผิงชอบหมาไหม” “ชอบสิคะ แต่ที่บ้านผิงไม่ให้เลี้ยงคุณแม่ผิงแพ้ขนสัตว์” สาวน้อยเอ่ยเสียงอ่อนอย่างเสียดาย เธออยากเลี้ยงสุนัขตั้งแต่เด็กโดยเฉพาะสุนัขพันธุ์ใหญ่แต่กลับทำไม่ได้ “เป็นอะไรไหมลูก ลุงขอโทษนะพอดีเมื่อกี้ลุงหันหลังไปเทอาหารแป๊บเดียว ดูสิได้ยินเสียงรถก็รีบวิ่งแจ้นออกมาเลย” ชายวัยกลางคนท่าทางดูสุขุมใจดีเอ่ยกับขนมผิงด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ท่านมองหน้าลูกชายตัวเองสลับกับสาวน้อยหน้าตาน่ารักด้วยแววตามีเลศนัยแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยแซวอะไรก็ถูกลูกชายเอ่ยดักทางเสียก่อน “ขนมผิงเป็นรุ่นน้องครับพ่อ แล้วก็...เป็นคู่หมั้นพี่อาทิตย์ด้วย” “อาทิตย์เจ้าหนุ่มข้างบ้านอ่ะนะ?” ท่านถามอย่างนึกประหลาดใจ “ครับ” “อ้าวแล้วไม่ใช่ว่า...” พ่อของเดย์ทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างแต่ทว่ากลับถูกลูกชายกระแอมเสียงห้ามไว้พร้อมกับชวนเปลี่ยนเรื่องคุย “พ่อให้อาหารเจ้าไดมอนด์ค้างไว้ไม่ใช่เหรอครับ ไปสิทำต่อสิครับมันหิวแล้วนะ” เมื่อลูกชายเอ่ยคนเป็นพ่อก็มองหน้าสุนัขรักเห็นมันทำตาแป๋วก็นึกเอ็นดูรีบจูงเจ้าตูบตัวโตเข้าไปในบ้าน “พ่อพี่เดย์ใจดีจังเลยนะคะ” “รู้ได้ไงว่าท่านใจดี ท่านอาจจะดุมากก็ได้นะ” ขนมผิงหัวเราะ ดุได้อย่างไรกันทั้งสีหน้าและคำพูดกระทั่งน้ำเสียงไม่ทิ้งร่องรอยความเป็นคนดุเลยสักนิด และหากพูดถึงความดุแล้วสำหรับขนมผิงไม่มีใครดุไปกว่าพ่อของเธอแล้วล่ะ “คุณพ่อผิงดุกว่านี้เยอะค่ะ” “จริงเหรอ” “ดุมากค่ะ ท่านไม่ค่อยยิ้มเวลาพูดกับผิงก็ใช้น้ำเสียงแข็งๆ เช่น ขนมผิงอ่านหนังสือหรือยัง ขนมผิงทำไมกลับบ้านดึก ขนมผิงแต่งตัวให้เรียบร้อย” ขนมทำท่าทางเลียนแบบล้อเลียนพ่อตัวเองจนเดย์หลุดหัวเราะกับความแสบของเธอ “งั้นก็คงต่างจากพ่อพี่จริงๆ นั่นแหละเพราะพ่อพี่ชอบโหวกแหวกโวยวายมากกว่า เช่น ไดมอนด์กินข้าว! เดย์หยิบแว่นให้พ่อหน่อย เดย์จับหมาให้พอที บลาๆๆ” เดย์เองก็เลียนแบบท่าทางพ่อของเขาตอนตะโกนโหวกเหวกโวยวายให้ขนมผิงดูจนเธอถูกใจหลุดหัวเราะออกมาด้วยท่าทางขบขัน “พี่เดย์คะ” “หื้ม?” “นู่นค่ะ” คนหัวเราชอบใจทำปากยื่นไปทางด้านหลังเดย์ซึ่งก็เห็นพ่อเขากำลังยืนเท้าเอวฟังลูกชายล้อเลียนตัวเอง “เจ้าเดย์! มาให้พ่อตีเลยนะ ล้อเลียนพ่อใช่ไหมหื้ม!” “อย่าเข้ามานะพ่อ ผมโตแล้วนะ” พ่อเดย์ทำท่าจะเข้ามาตีลูกชายแต่ทว่าคนไวกว่ารีบวิ่งมาหลบหลังขนมผิง “โอ้ยดีเสียจริงนะเจ้าลูกชาย ใครสอนให้แกไปยืนหลับหลังผู้หญิงฮะ!” “ตอนทะเลาะกับคุณปู่พ่อก็ยืนหลบหลังแม่บ่อยนี่ครับ” “ยอกย้อนเหรอหื้ม!” ทั้งสองพ่อลูกแกล้งหยอกเย้ากันเล่นจนขนมผิงพาลสนุกตามหัวเราะขบขันไม่หยุด “ว่าแต่จะไปไหนกันเหรอ” เมื่อศึกสายเลือดจบลงผู้อาวุโสของบ้านก็เอ่ยถามลูกชาย “พาน้องไปกินทาโกะยากิที่ร้านหน้าปากซอย” “ซื้อมาฝากพ่อด้วยสิ ครั้งที่แล้วพ่อได้กินแค่ชิ้นเดียวเอง” “ได้ครับแล้วไหนเงินล่ะ” “ทาโกะยากินกล่องไม่กี่สิบบาทยังจะกล้าขอเงินพ่ออีกเหรอหื้ม” “เอ้าก็ผมยังไม่ได้ทำงานนี่ แต่พ่อทำแล้วนะพ่อก็ต้องเลี้ยงผมสิ” “หึ! เอาไปแล้วก็เลี้ยงน้องเขาด้วยนะ” ว่าแล้ววิษณุพ่อของเดย์ก็ควักแบงค์ห้าร้อยยื่นให้ลูกชาย “เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้วครับ” “ขอบคุณนะคะคุณลุง” เสียงใสรีบเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มกว้างจนดวงตาเปลี่ยนรูปเป็นทรงสระอิ “ยินดีจ้ะ ขนมผิงกินเยอะๆ นะลูกลุงเห็นตัวหนูเล็กนิดเดียวเอง” “อย่าดูถูกน้องผิงนะครับพ่อ คนนี้ตัวเล็กแต่กินเก่งมาก” “พี่เดย์ว่าผิงเหรอ” เด็กตาใสจ้องพี่ชายผมทอง “เปล่านะคะ พี่ชมว่าขนมผิงกินเก่งต่างหาก” “กินเก่งเป็นคำชมเหรอคะ” เธอเริ่มนึกเอะใจเพราะคำพูดดังกล่าวมันฟังดูแปร่งๆ ชอบกล “ชมสิคะ กินเก่งแปลว่ากินหมด กินหมดแปลว่าไม่เสียของ ไม่เสียของแปลว่ารู้คุณค่าของสิ่งที่ซื้อมา ดังนั้นขนมผิงเก่งมากครับ” แม้จะไม่ค่อยเข้าใจนักแต่เธอฟังแล้วก็รู้สึกเหมือนได้รับคำชมจริงๆ ใบหน้าหวานยกยิ้มอารมณ์ดีซึ่งก็ถูกฝ่ายชายมองกลับด้วยความเอ็นดู “เดี๋ยวรอตรงนี้ก่อนนะ พี่ขอไปเอาจักรยานแป๊บนึง” “ได้ค่ะ” จบประโยคเดย์ก็หายไปตัวไปครู่หนึ่งก่อนจะกลับมาพร้อมกับจักรยานแม่บ้านญี่ปุ่นสีขาวที่มาพร้อมตะกร้าน่ารักด้านหน้าไว้ใส่กระเป๋าสะพายให้ขนมผิง “น่ารักจังเลยค่ะ” “อะไรน่ารักคะ จักรยานหรือพี่” “จักรยานสิคะ ขนมผิงอยากได้บ้างจัง” “เอาไหมพี่ยกให้” สาวน้อยรีบยกมือปฏิเสธ “ไม่ได้ค่ะ ขนมผิงจะเอาจักรยานของพี่เดย์ได้ยังไง” “ได้สิก็พี่เป็นเจ้าของจะยกให้ใครก็ได้” “ยกให้ฟรีๆ ได้ยังไงคะ งั้นเอาเป็นว่าช่วงปิดเทอมถ้าพี่เดย์ว่างไปซื้อจักรยานเป็นเพื่อนขนมผิงหน่อยได้ไหมคะ” “ได้สิครับ แต่ตอนนี้ขึ้นมาก่อนเร็ว” สิ้นเสียงของเดย์ขนมผิงก็ไม่รอช้ารีบวางกระเป๋าสะพายข้างไว้ที่หน้ารถก่อนจะยกก้นนั่งบนเบาะซ้อนท้ายพร้อมกับจับชายเสื้อที่เอวเดย์ “จับแบบนั้นเดี๋ยวก็ตกหรอก จับเอวพี่ได้เลยครับไม่เป็นไร” ได้ยินคำอนุญาตขนมผิงก็ยอมทำตามที่อีกคนว่าจับเอวคนพี่ไว้หลวมๆ “พร้อมแล้วค่ะไปกันเลย!” “ไปค้าบ” ณ ร้านทาโกะยากิ เมื่อมาถึงที่หมายทั้งคู่ก็ไม่รอช้ารีบเดินมาต่อแถวซื้อของที่ต้องการ ระหว่างยืนรอเดย์ก็ชวนคนน้องคุยสัพเพเหระ ทันใดนั้นเองก็มีหญิงสาวคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นด้านหลังพวกเขา เมื่อเดย์หันไปเห็นก็อดเอ่ยปากทักไม่ได้ “สวัสดีครับคุณครีม” ขนมผิงมองตามก็รู้สึกคุ้นหน้าหญิงคนดังกล่าวแต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหน มือเล็กยกมือไหว้หญิงสาวที่ดูจะอายุเยอะกว่าอย่างมีมารยาท แต่เธอคนนั้นกลับรับไหว้ด้วยท่าทางตกใจเล็กน้อย “นี่ผิงไม่รู้จักคุณครีมเหรอ” ขนมผิงมองหน้าเดย์ก่อนจะสลับไปมองหน้าอีกคนที่กำลังถูกพูดถึง “คุณครีม...” เธอลากเสียงพลันนึก “เรารู้จักกันด้วยเหรอคะ” “เอ่อ...” “ผิงไม่เคยเจอเลขาของคู่หมั้นตัวเองเหรอ” “เลขาพี่อาทิตย์เหรอคะ?” เดย์พยักหน้าลง ซึ่งเธอคนนั้นก็ยกยิ้มอ่อนให้คู่หมั้นของเจ้านายตัวเอง “สวัสดีค่ะคุณขนมผิง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม