ตอนที่6 เกือบดีแล้วแท้ ๆ

1536 คำ
บ้านศิวกรไพศาล บรรยากาศอาหารบนโต๊ะในวันนี้ เต็มไปด้วยความชื่นมื่นของคนเป็นพ่อแม่ที่ไม่ได้พบเจอลูกสาวและลูกเขยมานานหลายเดือนแล้ว เพราะชีวิตส่วนใหญ่บิดามารดาของลันต์ลลิตมักใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศเป็นหลักมากกว่าอยู่ประเทศไทย "พ่อกับแม่ดีใจมากเลยนะที่วันนี้ได้เจอลูกสาวกับลูกเขย แป๊บเดียวแต่งงานกันจะได้ 2 ปีแล้ว เมื่อไหร่พ่อกับแม่จะได้อุ้มหลานกันสักทีล่ะยัยลันล์" คุณชัยพฤกษ์ถามลูกสาวขึ้น ก่อนจะหันกลับไปยิ้มและมองหน้าลูกเขยที่นั่งอยู่เคียงข้างด้วยอีกคน "จริง ๆ ยังไม่มีแพลนหรอกค่ะพ่อ ใช้ชีวิตสองคนไปก่อนแบบนี้ก็ดีแล้วค่ะ เราสองคนยังไม่พร้อม" "อะไรกัน ไม่พร้อมเรื่องอะไรอีก มีครบทุกอย่างแบบนี้ยังจะบอกว่าไม่พร้อม มีลูกกันสักคนได้แล้ว ตายายอยากอุ้มหลานกันมากรู้ไหม หรือว่าตาภัทรไม่ยอมทำการบ้านหรือเปล่า พ่อเลยไม่ได้อุ้มหลานสักที" คุณชัยพฤษ์หันไปมองจ้องหน้ากับลูกเขยอีกครั้ง คณาภัทรยิ้มให้ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธเบา ๆ "ผมก็พยายามอยู่ครับคุณพ่อ แต่มันยังคงไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมหรือเปล่า จริง ๆ ผมก็อยากมีลูกสักคนนะครับแต่ไม่รู้ว่าลันล์เขาจะอยากมีลูกกับผมหรือเปล่านี่สิครับคุณพ่อ" คณาภัทรบอกกับพ่อตาออกไปแบบไม่ต้องคิดเลยสักนิด ลันล์ลลิตหันไปมองจ้องหน้าสามี เขาอยากมีลูกกับเธอจริง ๆ หรือเพียงพูดออกมาแบบนั้นเพราะอยากเอาอกเอาใจบิดาของเธอกันแน่ "เห็นไหมล่ะยัยลันล์สามีเราเขาก็อยากมีลูกเหมือนกันนั่นแหละ เป็นเราเองหรือเปล่าที่ไม่ยอมปล่อยให้มี ขอหลานให้พ่อสักคนเถอะนะ พ่อกับแม่จะได้เลิกทำงานแล้วออกมาเลี้ยงหลานกันสักทีนึง" คุณชัยพฤษ์หันไปพูดกับลูกสาวอีกครั้ง ทุกคนมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มและมีความสุขที่ได้พูดคุยกันเรื่องนี้ หรือถ้าหากเธอมีลูกจริง ๆ คณาภัทรอาจจะหันมารักเธอและลูกบ้างอย่างที่เธอหวัง ชีวิตครอบครัวอาจจะมีความสุขมากในอนาคตข้างหน้าอย่างที่ป้าเอื้องคำพูดไว้หรือเปล่านะ "นอนค้างที่บ้านนี้ด้วยกันสักคืนนะลูก พรุ่งนี้ค่อยกลับ" คุณอนงค์รัตน์เอ่ยชักชวนลูกสาวกับลูกเขยขึ้นบ้าง "ไม่มีปัญหาครับคุณแม่ พรุ่งนี้ผมไม่ต้องไปทำงาน เดี๋ยวเราสองคนพาคุณพ่อคุณแม่ไปกินอาหารทะเลอร่อย ๆ ที่พัทยาพรุ่งนี้กันดีไหมครับ?" คณาภัทรเสนอขึ้นบ้าง เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น ๆ เขาก็ดูเป็นสามีที่ดีเป็นลูกเขยที่ดีมากแบบนี้เสมอ จนบางครั้งลันล์ลลิตยังสับสนในตัวของสามี แต่เธอก็ชอบโมเม้นท์นี้มากกว่าที่เขาเป็นผู้ชายที่น่ารักแบบนี้ต่อหน้าบุพการีของเธอ เพราะอย่างน้อยพ่อและแม่ก็จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงว่าชีวิตการแต่งงานของลูกสาวจะอยู่ดีมีความสุขหรือความทุกข์มากกว่ากัน เพราะทุกครั้งที่เธอพูดคุยกับบิดามารดาก็จะบอกเสมอว่าชีวิตกับสามีเธอมีความสุขมากและคณาภัทรก็รักและดูแลดีมากไม่มีที่ติ แม้จะไม่ใช่ความจริงแต่อย่างน้อยทุกคนก็จะได้สบายใจและเขาก็จะไม่ต้องดูเลวร้ายในสายตาของคนอื่น แม้ว่าเมื่อวานจะมีเรื่องขัดเคืองใจกันมาก่อนก็เถอะ แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องของเมื่อวานที่เธอไม่อยากเก็บมาคิดให้ต้องปวดหัวไม่รู้จักจบสิ้น "ขอบคุณนะคะที่วันนี้พี่อุตส่าห์ทำหน้าที่สามีที่ดีต่อหน้าพ่อแม่ลันล์" ทันทีที่พากันเดินกลับขึ้นมาถึงบนห้องนอนของหญิงสาว ลันล์ลลิตจึงเป็นคนเริ่มพูดกับเขาก่อนอีกครั้ง "ไม่อึดอัดเหรอคะที่ไม่ได้ออกไปไหนเลยตั้งแต่เช้ามา" ร่างสูงของคณาภัทรทิ้งตัวนอนลงบนเตียงกว้าง ฝ่ามือทั้งสองข้างสอดไว้ที่ใต้ท้ายทอยของตัวเอง ดวงตาคมจับจ้องมองหน้าภรรยาสาวที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้า "ทำไมต้องอึดอัด เธอหรือเปล่าที่ต้องอึดอัดเวลาต้องอยู่กับฉันแบบนี้" "ลันล์เหรอคะอึดอัด ลันล์ดีใจมากกว่าที่จะได้อยู่กับพี่แบบนี้ แต่ช่างมันเถอะค่ะแค่วันนี้กับพรุ่งนี้เองหวังว่าลันล์จะไม่ทำให้พี่ต้องเสียเวลาหรอกนะคะ" "เรื่องลูกที่คุณพ่อคุณแม่พูดถึงวันนี้ เธอคิดยังไง?" อยู่ ๆ เขากลับมาชวนเธอพูดคุยถึงเรื่องนี้อีกครั้งเสียงั้น ลันล์ลลิตนั่งหย่อนก้นลงที่ปลายเตียง แล้วหันไปมองจ้องหน้าเขาตาไม่กระพริบ "ทำไมคะ พี่ภัทรก็อยากมีจริง ๆ เหรอ?" อยากถามเพื่อความแน่ใจของตัวเองเหมือนกัน เขาคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ที่มันอาจจะต้องเกิดขึ้น "ฉันเหรอ ยังไงก็ได้ มีก็ดี ไม่มีก็ได้ แล้วแต่เธอคนอุ้มท้องสิ" "เวลาพูดดี ๆ กับลันล์พี่ก็พูดได้เหมือนกันนี่คะ แล้วทำไมพี่ไม่เคยพูดดี ๆ สักครั้งเลยไม่เข้าใจ" "ไม่อยากให้พูดดีด้วยงั้นสิ? ไม่ชอบหรือไงที่ฉันต้องพูดแบบนี้?" "ชอบค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ได้ตลอดไปก็ดี แต่ลันล์ไม่หวังหรอกเพราะพี่ก็ผีเข้าผีออกเอาใจยากเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว" คณาภัทรมองจ้องหน้าภรรยาสาวอีกครั้ง เขาควรจะรู้สึกอย่างไรกับคนตรงหน้านี้ดีนะ สับสนกับตัวเองที่พักนี้อาการว้าวุ่นเวียนวนเข้ามาทักทายบ่อยเหลือเกิน ครืด! ครืด! ครืด! เสียงโทรศัพท์มือถือของคณาภัทรดังขึ้นขัดจังหวะ ทำให้เขาต้องละสายตาออกจากภรรยา หันไปสนใจโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงแทน ปรากฏชื่อ 'ญาดา' เขารู้สึกลังเลขึ้นเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะกดรับสายนั้นทันทีเลย "ครับ ว่าไง?" "วันนี้ภัทรเงียบไปทั้งวันเลยนะคะ ทั้งที่เป็นวันหยุดแท้ ๆ ไม่เห็นโทรหาดาบ้างเลย โทรไปก็ไม่รับสักที ดาคิดถึงค่ะ ออกมาดื่มข้างนอกเป็นเพื่อนหน่อยสิคะ ดาเหงา" ดวงคมปรายสายตาหันไปมองจ้องหน้าที่กำลังบึ้งตึงจ้องมองเขาอยู่เช่นกัน "คงไม่สะดวกหรอกครับดา เอาไว้วันหลังได้ไหม พอดีวันนี้กับพรุ่งนี้ผมมีธุระ ไม่ว่างเลย" "ทำไมคะ เมียคุณเขาสั่งห้ามไม่ให้มาเจอดาอีกหรือไงคะ ภัทรไม่รักดาแล้วใช่ไหม เลยไม่สนใจดาเหมือนเมื่อก่อน ฮึก ฮือออ" "ไม่ใช่แบบนั้นนะดา ผมก็ยังรักดา ไม่เอาสิ ไม่งอนแบบนี้ได้ไหม แล้วตอนนี้อยู่ร้านไหน?" "ร้านเดิมที่เราเคยมานั้นแหละค่ะ รีบมานะคะ ดาคิดถึง" สายโทรศัพท์ถูกตัดลงอีกครั้ง ลันล์ลลิตถึงกับต้องเบือนใบหน้าหนี ไม่อยากมองหน้า ไม่อยากสบตากับสามีเลยสักนิด เขาไม่ควรจะรับสายนั้นที่โทรเข้ามาหรือเปล่า อย่างน้อยก็ควรจะคิดถึงจิตใจของเธอบ้าง ไม่ใช่ทำร้ายหรือทำลายให้มันแหลกสลายได้ตลอดเวลาแบบนี้ "ถ้าพี่อยากไป พี่ก็ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวคนของพี่เขาจะรอ ทางนี้ลันล์จะจัดการให้เอง" "ฉันจะรีบไปรีบกลับมา ไม่ทำให้เธอเดือดร้อนหรือทำให้พ่อกับแม่ของเธอไม่สบายใจหรอก ฉันสัญญา" "ค่ะ" ลันล์ลลิตรีบลุกขึ้นก่อนจะเดินหายเข้าไปภายในห้องน้ำอย่างเร็ว คณาภัทรรีบดีดตัวลุกขึ้นเดินออกจากประตูห้องนอนไปเช่นกัน หญิงสาวจ้องมองตัวเองที่อยู่ภายในกระจก หัวใจมันสั่นไหว เจ็บแปลบ เสียใจที่ตัวเองไม่ใช่คนสำคัญที่สุดสำหรับเขาเลยสักนิด ทั้งที่วันนี้ทั้งวันมันดีมาตลอดแล้วแท้ ๆ แต่สุดท้ายมันกลับไม่ได้ดั่งใจเธออยู่ดี เธอไม่อยากรู้สึกเสียใจ ไม่อยากรู้สึกน้อยใจกับสิ่งที่เขาทำอยู่ในตอนนี้ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่ แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกเสียใจมากกว่าทุกครั้งเลย "ต้องเป็นแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่กัน ต้องรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน" ฝ่ามือเรียวยกขึ้นแตะสัมผัสที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเองเบา ๆ ดวงจาที่มองจ้องตัวเองในกระจกเงามันเริ่มแดงก่ำขึ้นมาเรื่อย ๆ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนแอที่มันไหลหลั่งลงมาอาบแก้ม เข้มแข็งดูมีความสุขต่อหน้าคนอื่น ๆ ทั้งที่ตัวเองไม่เคยมีความสุขกับชีวิตเลย เห็นจะมีแต่เธอนี่แหละที่ต้องทนและฝืนทำ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม