บทที่ 15 ลงโทษ

2088 คำ
“ยะ หยางอ๋องเพคะ!”นางยกมือขึ้นปิดหน้าด้วยความอับอาย เมื่อถูกวางลงบนเตียงนางจึงลดมือลง ทว่าเมื่อเห็นสีหน้าทมึงทึงของบุรุษก็ต้องก้มหน้าลงด้วยหวาดหวั่น “เจ้าไปที่นั่นได้อย่างไร?” “…เอ่อ ทะ ทางลับเพคะ”ตอบกลับไปตามตรง ไม่มีเหตุผลอะไรให้นางต้องโป้ปดให้เกิดความขุ่นเคือง อย่างน้อยก็เพื่อให้บุรุษรับรู้ว่านางไม่ได้มีเจตนาอื่นใดเลย “เจียวลู่” “พะยะค่ะ!” “ไปฝึกสันโดษเป็นเวลาเจ็ดวัน! ห้ามรับความช่วยเหลือจากผู้ใด!” “รับทราบพะยะค่ะ” จบประโยคนั้นเจียวลู่ก็ประสานมือคำนับ แล้วเดินออกไปทันทีโดยไม่แม้แต่จะบอกลาจางลี่ซือ นางได้แต่มองตามด้วยความสับสน รู้ได้ทันทีว่านี่เป็นการลงโทษของอันตงหยาง ส่วนสาเหตุไม่ต้องสืบหาเลย มันมาจากนางนี่เอง! “หยางอ๋องเพคะ!? จะ เจียวลู่ไม่มีความผิดอะไรเลยนะเพคะ” “ความผิดของเจียวลู่คือปล่อยปะละเลยเจ้า” “แต่ว่าใครจะคิดว่าข้าจะหายไปล่ะเพคะ” “ใช่สิ ใครคิดว่าเจ้าจะหายไป”ประโยคนี้ทำเอานางหน้าหงอย ก้มหน้าหลบสายตาอันตงหยางแต่ก็มิวายยื่นมือออกไปจับชายเสื้อของบุรุษเอาไว้แล้วกระตุกเบา ๆ “ขอประทานอภัยเพคะ…หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ”ว่าจบก็ช้อนดวงตากลมขึ้นสบตากับบุรุษอย่างออดอ้อน ทำเอาดวงใจชายหนุ่มอ่อนระทวย ทว่าก็ยังคงท่าทีนิ่งขรึมเอาไว้”อย่าลงโทษเจียวลู่เลยนะเพคะ” “เจ้ารู้ทางลับได้อย่างไร?” “หม่อมฉันสำรวจห้องแล้วบังเอิญไปเจอเพคะ” “สำรวจอย่างไรจึงไปเจอทางลับที่อยู่บนพื้น อีกทั้งโต๊ะเครื่องแป้งของเจ้ายังวางทับไว้อีกด้วย” “อ่า หม่อมฉันทำของหล่นแล้วรู้สึกว่าเสียงตกกระทบมันแตกต่างจนน่าสงสัย ก็เลย…ลองทุบ ๆ แล้วก็ลองดึงมันขึ้นมาดูเพคะ”หลังจากพูดจบประโยคแม้แต่ตัวนางเองก็ยังอดที่จะอับอายไม่ได้ “ซือเอ๋อร์ เจ้านี่ช่าง…ซุกซนจริง ๆ” ช่างเป็นคำต่อว่าที่ดูเอ็นดูมากกว่าขุ่นเคือง นางเงยหน้าขึ้นเมื่อฟังจากน้ำเสียงแล้วดูเหมือนว่าอันตงหยางจะไม่คิดเอาผิดนางสักเท่าไหร่ แต่เจียวลู่กลับต้องมารับโทษเพราะตัวนาง จึงอยากที่จะแก้ต่างให้เพราะเจียวลู่ แม้จะเป็นบุรุษแต่ก็เป็นสหายเพียงคนเดียวที่อยู่เรียงข้างนางตั้งแต่นางมาถึงที่นี่จนถึงตอนนี้ อีกทั้งยังช่วยแต่งองค์ทรงเครื่อง แม้ถ้อยคำและนิสัยจะเสียไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้แย่จนเกินเยียวยา นางกลับคิดว่าสิ่งนั้นมันคือใจจริงของเจียวลู่ที่พยายามชักนำนางให้สามารถอยู่ที่นี่ไปได้ตลอด “เอ่อ หยางอ๋องเพคะ…”ก่อนที่นางจะพูดสิ่งใดออกมาอันตงหยางก็เอ่ยปากว่า… “เจ้าต้องการสิ่งใดกันจึงลักลอบแอบออกไปข้างนอกนั่น หากต้องการสิ่งใดไฉนจึงไม่บอกให้เจียวลู่จัดเตรียมให้กันเล่า เจ้ามิกลัวอันตรายหรือ?” ฟังดูก็รู้ว่าอันตงหยางนั้นขุ่นเคืองที่นางบังอาจแอบใช้ทางลับแอบลักลอบออกไปแบบนั้น ทว่านอกจากความหมายนี้แล้วยังหมายถึงสิ่งอื่นนั่นก็คือเป็นห่วงความปลอดภัยของนาง …ออกไปโดยไม่มีองครักษ์คอยอารักขา หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมา หากผู้ชายคนนั้นมิใช่ข้าแต่เป็นผู้ร้ายจริง ๆ นางจะเป็นเช่นไร?... พอนึกถึงเรื่องนี้ก็ผุดคิดขึ้นมาได้ว่าในตอนนั้นนางพยายามที่จะใช้ดาบยาวที่ตนพกติดตัวไปแทงตัวนางทะลุมาถึงตัวเขา นั่นไม่ใช่สิ่งที่สตรีในห้องนอนควรกระทำเลย เหตุใดนางจึงมีความกล้าเช่นนั้นกัน …มีอะไรเกี่ยวกับเจ้าที่ข้ายังไม่รู้อีกมาก… “หม่อมฉัน…หม่อมฉันอยากออกไปนอกตำหนักบ้างเพคะ” “แล้วทำไมไม่มาขอข้ากัน เห็นข้าใจยักษ์ใจมารกับเจ้านักหรือ?” “หามิได้เพคะ” …ก็เล่นตีหน้ายักษ์ใส่ตลอด จะให้ข้ากล้าบอกได้อย่างไรกัน… “คราวหน้าคราวหลังอยากได้อะไร อยากไปไหนให้มาขอข้าก่อน ห้ามแอบลักลอบหนีเที่ยวเช่นนี้อีก เข้าใจหรือไม่ซื้อเอ๋อร์?” “เพคะ…เอ่อ ทรงอย่าลงโทษเจียวลู่เลยนะเพคะ เป็นความผิดของหม่อมฉันเองเพคะที่ซุกซนไม่เข้าเรื่อง” “หน้าที่ขององครักษ์คือสอดส่องดูแลเจ้า เจียวลู่บกพร่องในหน้าที่จึงต้องโดนลงโทษ”ไม่ทันที่บุรุษจะได้พูดจบประโยคก็ดูเหมือนว่านางเตรียมจะแย้งขึ้นมา เขาจึงเอ่ยต่อว่า…”ข้าไม่รับฟังความเห็นของเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่ข้าจำเป็นต้องทำให้เกิดระเบียบทางการทหาร มิเช่นนั้นข้าจะควบคุมกองทหารได้อย่างไร ไม่มีการผ่อนปรนให้คนสนิทหรืออย่างไรทั้งนั้น” ได้ยินดังนั้นนางก็ถึงกับคอตกที่ไม่สามารถช่วยเหลือคนสนิทของตนเองได้ ถึงแม้ว่าเจียวลู่จะไม่ใช่คนของนาง เจียวลู่คือคนที่อยู่ภายใต้การปกครองของอันตงหยาง แต่คนที่อยู่กับนางมาตลอดก็เป็นเจียวลู่ นางจึงรู้สึกผิดที่ไม่สามารถช่วยอะไรสหายผู้นี้ได้เลย “ส่วนเจ้า…ข้าจำเป็นที่จะต้องลงโทษเพื่อไม่ให้เจ้าได้ใจและกระทำผิดในครั้งต่อไปอีก และเพื่อไม่ให้คนภายนอกคิดว่าข้าไร้ความสามารถถึงขั้นไม่สามารถควบคุมหวางเฟยได้ อีกทั้งยังไม่กล้าลงโทษเจ้าอีก…” จางลี่ซือก้มหน้ายอมรับบทลงโทษของตนเองแต่โดยดี เพราะนางเริ่มตระหนักได้แล้วว่าสิ่งที่อันตงหยางพูดออกมานั้นมันร้ายแรงแค่ไหน นั่นมันหมายความว่าอันตงหยางผู้มีตำแหน่งเป็นอ๋องไม่สามารถปกครองคนของตัวเองได้ …ข้าไม่น่าซนไม่เข้าเรื่องเลย นั่งหงอยเหงาอยู่ที่ตำหนักตั้งแต่แรกก็ดี… “กักบริเวณเจ้าเป็นเวลาเจ็ดวัน”จบประโยคนั้นจางลี่ซือก็ถึงกับน้ำตาซึม แม้จะรู้ความผิดของตนดีจึงทำให้ต้องก้มหน้ายอมรับก็ตาม จางลี่ซืออายุเพียงสิบแปดปีเท่านั้นแต่ก็เหมือนเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เพราะการเลี้ยงดูของตระกูลที่ค่อนข้างปล่อยปะละเลย นางแทบไม่ได้เรียนรู้สิ่งใดเลย อีกทั้งยังถูกจำกัดอิสระให้อยู่แต่ในเรือน พอได้มาอยู่ในสถานที่ที่นางสามารถทำตามใจตนเองได้นางก็เผลอลืมตัวไปชั่วขณะ ยกแขนขึ้นประสานมือคำนับอย่างนอบน้อมก่อนจะเดินกลับเรือนไป… ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้… เจียวลู่เตรียมสำรับไปให้นางเมื่อถึงเวลา ทว่าเมื่อเข้ามาในห้องกลับไม่พบเจ้าของห้องเลย ลองหาในตู้เสื้อผ้าหรือใต้เตียงเผื่อว่าจางลี่ซือจะนึกเล่นอะไรพิเรนแต่ก็ไม่พบร่างของนางเลย จึงรีบเดินลงบันไดไปที่ชั้นล่างแล้วสั่งงานกับองครักษ์ที่ประจำอยู่แถวนั้น “รายงานหยางอ๋องว่าซือหวางเฟยหายตัวไป!”เมื่อได้รับคำสั่งองครักษ์ผู้นั้นก็รีบวิ่งออกไปยังเรือนไท่หยางทันที เจียวลู่สำรวจภายในเรือนโม่ลี่ฮวาแห่งนี้อีกครั้ง เผื่อว่าจะพบสิ่งใดที่พอจะคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับจางลี่ซืิอกันแน่ เป็นเพราะนางอยากกลัดแกล้งเขาหรือมีใครบุกรุกเข้ามาในห้องของนางโดยที่พวกเขาไม่รู้…หากเป็นอย่างหลังชีวิตของจางลี่ซือนั้นอันตรายแน่ ทว่าอยู่ดี ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาเจียวลู่ที่ยืนอยู่ในห้องของจางลี่ซือนั้นเหลือบสายตาไปที่ใต้โต๊ะเครื่องแป้งของนาง… …เป็นไปไม่ได้ นางไม่น่าจะซุกซนถึงขนาดนั้น แต่ว่า...เหตุใดโต๊ะเครื่องแป้งถึงเคลื่อนออกมาจากตำแหน่งเดิมกัน?... แล้วเจียวลู่ก็รู้ได้ทันทีว่าจางลี่ซือหายตัวไปจากห้องนี้อย่างไร้ร่องรอยได้อย่างไร นางคงจะสำรวจห้องนี้อย่างซุกซนจนไปเจอเข้ากับทางลับโดยบังเอิญอย่างแน่นอน คิดได้ดังนั้นก็รีบตรงไปที่เรือนไท่หยางทันทีเพื่อรายงานกับสิ่งที่ตนเองสันนิษฐานให้กับอังตงหยาง เมื่อบุรุษได้รับรู้ก็สั่งกำลังคนให้ไปตรวจสอบทางออกลับนั่น อีกทั้งยังให้ส่งกำลังคนออกไปตามหานางด้วย ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาว่าเหตุใดนางจึงได้หนีไปเช่นนี้ นางอยากเที่ยวเล่นตามประสาหรืออยากหนีหายไปจากตนกันแน่ แต่ถ้าหากนางอยากหลีกหนีตนนั้น เหตุใดจึงได้ออดอ้อนให้บุรุษเกิดความเอ็นดูตั้งแต่แรกกันเล่า ขาดเหลือสิ่งใดไฉนไม่เอ่ยปากกับเจียวลู่หรือตัวเขากัน “ส่งคนไปคุ้มกันนางอย่าให้มีอันตรายเกิดขึ้นเป็นอันขาด”เจียวจิ้นรับคำสั่งแล้วรีบเดินไปมอบหมายหน้าที่ให้กับทหารทันที เขามาสำรวจภายในห้องของนางก่อนจะออกคำสั่งให้ปิดตายช่องทางลับด้วยความกลัวว่าวันหน้าวันหลังนางอาจจะแอบหนีออกไปอีก ในป่านั้นมีสัตว์ดุร้ายมากมายอีกทั้งยังมีสัตว์ปีศาจอาศัยอยู่ พวกมันไม่บุกเข้าไปโจมตีมนุษย์อันตงหยางจึงไม่คิดกำจัด และส่วนใหญ่ก็เป็นมิตรกับมนุษย์เหมือนลูกปีศาจเสือที่จางลี่ซือเอ็นดู แต่ก็ไม่อาจนิ่งนอนใจว่าจะปีศาจตัวอื่นจะไม่เข้าจู่โจมมนุษย์ “…!?” …แล้วเหตุใดข้าจึงจะต้องกลัวว่านางจะแอบหนีออกไปอีกด้วยเล่า … หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้วอันตงหยางก็รีบกระโดดขึ้นมาและควบออกไปทันที ระยะทางจากตำหนักเหนือไปจนถึงหมู่บ้านนั้นค่อนข้างไกลพอสมควร ถ้าหากใช้ทางลับนั้นไม่กี่นาทีก็ถึงเพราะในทางลับได้ร่ายเวทย์มนต์ชั้นสูงเอาไว้ให้สามารถวาร์ปในระยะทางใกล้ ๆ ได้ มาถึงสถานที่ที่นางอยู่ทันทีโดยการส่งข่าวจากองครักษ์ที่ส่งมาให้ออกตามหาและคุ้มกันนาง สตรีตัวน้อยนั่งเหม่อมองแม่น้ำอยู่บนสะพาน ราวกับนางกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง …เหตุใดสตรีที่หนีสวามีออกมาเที่ยวเล่นจึงนั่งซึมเศร้าเช่นนั้น เจ้ามีความลับใดกัน?... ดวงหน้าหวานที่เคยแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มสดใส จนดวงตาคู่งามหรี่เล็กลง สตรีที่เจิดจ้าเช่นนางเหตุใดจึงกลายเป็นเช่นนี้กัน อันตงหยางได้แต่นึกคิดในใจ จนกระทั่งร่างงามลุกขึ้นและเดินกลับอย่างรวดเร็ว บนดวงหน้างามฉายชัดถึงความวิตกกังวลจนบุรุษเผลอหลุดหัวเราะออกมา …เจ้าแสดงความรู้สึกออกมาทางสีหน้าได้หมดเช่นนั้นได้อย่างไร… นางต้องเพิ่งนึกได้แน่แท้ว่าเลยเวลากลับตำหนักมาแล้ว และเพื่อให้สตรีตัวน้อยรับรู้ถึงอันตรายจากโลกภายนอกที่พร้อมจะคุกคามสตรีเช่นนางได้ทุกเมื่อ จึงส่งสัญญาณมือให้องครักษ์เตรียมพร้อมและรออยู่เฉย ๆ ก่อนที่จะเอื้อมมือออกไปโอบรัดตัวนางแล้วลากเข้าตรอกซอยมืด รับรู้ได้ถึงความหวาดกลัวของนาง แต่ช่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนักเมื่อนางพอจะมีพื้นฐานในการป้องกันตัวอยู่บ้างแม้จะเชื่องช้าและอ่านทางได้ทั้งหมดก็ตาม ทว่าในตอนที่บุรุษตั้งใจจะเปิดเผยตัวตนออกไปนั้นสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จางลี่ซือชักดาบออกจากฝักของบุรุษแล้วตั้งท่าเสียบแทงตัวนางเอง! อันตงหยางและเจียวลู่รีบจับมือนางเอาไว้ เจียวลู่รีบดึงดาบออกจากมือนางทันที ก่อนที่น้ำเสียงแข็งกร้าวเต็มไปด้วยความจุ่นเคืองกับการกระทำของนางและเป็นห่วงเป็นใยจะทำให้นางสะดุ้งสุดตัว! รีบพานางกลับแล้วลงโทษทั้งเจียวลู่และจางลี่ซือทันที เมื่อให้นางจดจำการกระทำของตนว่าส่งผลถึงใครบ้างและทบทวนถึงความผิดของตน ทว่าเหตุใดเมื่อเห็นท่าทางเหงาหงอยของนางอันตงหยางจึงรู้สึกอึดอัดแปลก ๆ ที่หน้าอกข้างซ้าย ได้แต่มองนางเดินจากไปเพื่อรับโทษของตนเอง…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม