เสียงสมาร์ตโฟนที่ดังขึ้นหันเหความสนใจจากเจ้าของร่างบางที่ยืนสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองอยู่หน้ากระจก วันนี้มธุมาสมีนัดพูดคุยเรื่องการจำนองบ้าน หลังจากจิระเป็นธุระช่วยติดต่อแฟนคนที่ว่าและบอกข่าวดีผ่านทางโทรศัพท์เมื่อวานซืน นัดให้เธอไปเจอกับเพื่อนของเขาที่เดินทางขึ้นมาที่กรุงเทพฯ พอดี
หญิงสาวมองตัวเองที่วันนี้แต่งตัวแต่งหน้าอย่างพิถีพิถันครั้งสุดท้าย แล้วจึงเดินมารับสายอย่างไม่รีบร้อน พอจะเดาได้หรอกว่าใครโทร. หา
“ว่าไงตี้ ฉันกำลังจะออกจากบ้านพอดี” เอ่ยทักทายเสียงใส
“มาร์...วันนี้แกไปหาเพื่อนจินเองได้มั้ย จินฝากเรื่องไว้เรียบร้อยแล้ว พอแกไปถึงก็คุยกับเขาได้เลย เขาชื่อพี่ช้าง”
“เกิดอะไรขึ้น” มธุมาสขมวดคิ้วเมื่อได้ยินน้ำเสียงไม่สู้ดีของตีรณา
“มีปัญหานิดหน่อยน่ะ” หล่อนอ้อมแอ้มบอก
“ปัญหาอะไร” เธอเม้มริมฝีปาก เกิดลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับเพื่อน ยิ่งได้ยินเสียงถอนหายใจทางมาจากปลายสาย เธอก็ยิ่งเป็นกังวล
“ฉันงานเข้าพร้อมกับจินเลยแก”
“ฝีมือใคร” ถามทั้งที่รู้ดีแก่ใจ
“พี่กัญจน์”
มธุมาสหลับตา โพรงอกลุกโชนโหมไหม้ไปด้วยโทสะ ต้องพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะข่มความขุ่นเคืองที่พลุ่งพล่าน กว่าจะเปล่งเสียงถามเพื่อนรักไปว่า
“เขาทำอะไรพวกแก”
“เขาสั่งพวกตาแก่ที่เป็นกรรมการบริหารของบริษัทให้ล็อบบีไม่ให้จินขึ้นตำแหน่งรองประธานบริหาร แถมยังชะลอเงินกู้ที่อนุมัติแล้วของบริษัทนำเข้าของที่บ้านฉัน ตอนนี้ฉันกับที่บ้านกำลังวิ่งวุ่นหาทางเอาสินค้าลงจากเรือให้ได้ ส่วนจินก็ถูกคุณพ่อลากตัวเข้าห้องประชุมไปเคลียร์แล้ว ผัวแกมันเป็นหมาบ้าชัดๆ เลยนะมาร์ เล่นงานคนไม่เลือกหน้าเลย”
ตีรณาอดไม่ได้ที่จะของขึ้น พูดใส่อารมณ์อย่างลืมตัว
มธุมาสกำโทรศัพท์แน่น หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรงเพราะความโกรธเกรี้ยว สมองคล้ายมืดดับ ดวงตาพลันพร่ามัวหูอื้อ ต้องเพียรหายใจเข้าลึกๆ อยู่หลายอึดใจ กว่าที่ใจจะทุเลาบรรเทาความเจ็บปวดลงบ้าง
“ขอบใจมากนะตี้ แต่แกไม่ต้องช่วยฉันเรื่องบ้านแล้ว ฉันไม่ยอมให้พวกแกเดือดร้อนเพราะฉันเด็ดขาด”
เธอไม่รอให้ตีรณาทักท้วงก็กดวางสายทันที เปลี่ยนทิศทางจากโรงแรมที่นัดกับจิระไว้ขับรถมุ่งหน้าไปที่สำนักงานใหญ่ธนาคารสยามชาติทันที
มธุมาสกัดฟันกรอด ไม่คิดจริงๆ ว่าผู้ชายคนนั้นจะทุเรศได้ถึงขนาดนี้ ทั้งที่เธอหย่ากับเขาเป็นเดือนแล้ว ไม่เคยเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเขาและพิมพ์รวีเลยสักครั้ง ต่างคนต่างอยู่เหมือนคนที่ตายจากกัน ไม่เคยรู้จักกันอย่างที่พูด ไม่ได้หวังจะให้เขาเห็นใจหรือหันมาพูดจาดีๆ ต่อกัน ขอแค่ไม่ทำร้ายเธอมากไปกว่านี้ก็พอแล้ว
แต่ทำไมเขาไม่ยอมปล่อยเธอไปเสียที?
เขายังต้องการอะไรอีก?
เธอทำอะไรผิดต่อเขางั้นหรือ?
เป็นเธอรึเปล่าที่ถูกทำร้ายมาตลอด เจ็บปวดเพราะเขามาก็มาก แต่เธอยังเลือกที่จะตัดไม่สานต่อความแค้น อโหสิกรรมให้เขาไปเสีย ชาติหน้าจะได้ไม่ต้อเจอกันอีก
แต่กลายเป็นกัญจน์ที่จ้องแต่จะหาเรื่องเล่นงานเธอไม่เลิก เขาตามจองล้างจองผลาญเธอให้ทุกข์ทรมานครั้งแล้วครั้งเล่า ซ้ำร้ายยังเผื่อแผ่ไปถึงญาติมิตรเพื่อนสนิทของเธออีกด้วย ทั้งตีรณาและจิระไม่เคยมีความแค้นเคืองอะไรกับเขา แต่กัญจน์ก็ยังกล้าลงมือโดยไม่สนใจ เพียงเพราะทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทของเธอและคอยให้ความช่วยเหลือเธอ
เขามันเป็นบ้าหมากัดคนไม่เลือกอย่างที่ตีรณาพูดไม่มีผิด!