แม่หนูสวยที่สุด

1623 คำ
ริณเรณูใช้เวลาทานข้าวไม่ถึงสิบนาที จากนั้นเธอก็ซื้อส้มซึ่งเป็นผลไม้โปรดของมารดากะว่าจะคั้นน้ำสดๆ ให้กับท่านทาน ขณะที่กำลังเดินขึ้นมาตึกผู้ป่วยก็สวนทางกับญาติคนไข้กลุ่มหนึ่งที่เดินผ่านเธอไปทุกคนอยู่ในอาหารเศร้าโศก บางคนก็ร้องไห้และเดาไม่ยากเลยว่าพวกเขาน่าจะได้รับข่าวร้ายหรือสูญเสียใครไปสักคนไป ริณเรณูรู้สึกหดหู่มากๆ กับภาพที่เห็นเพราะคิดว่าอีกไม่นานตนเองอาจจะต้องอยู่ในสภาพแบบนั้น แต่เด็กสาวจะไม่อ่อนแอให้กับมารดาเห็นเพราะรู้ว่าท่านรักและเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน ยิ่งเธออ่อนแอก็จะทำให้มารดาเป็นทุกข์มากขึ้น เด็กสาวปาดน้ำตาที่มันปริ่มอยู่บนหัวตาทั่งข้างออกจนแห้งจากนั้นก็ยิ้มและเดินเข้าไปหามารดา “หนูมาแล้วค่ะ หนูซื้อส้มมาด้วยเดี๋ยวจะคั้นให้แม่กินค่ะดูแล้วน่าจะหวานค่ะ” “แล้วหนูกินข้าวกับอะไรทำไมเร็วแบบนี้ล่ะลูก” “กินข้าวราดแกงง่ายๆ ค่ะหนูอยากมาคุยกับแม่มากกว่าแล้วคุณหมอจะมาหรือยังคะ” “น่าจะใกล้เวลาแล้วล่ะ” “งั้นกินน้ำส้มรอไปก่อนดีไหมคะ” ริณเรณูคั้นส้มใส่ช้อนป้อนมารดาไปทีละนิดระหว่างที่รอคุณหมอมาตรวจ “หวานไหมคะแม่” “หวานจ้ะ” “แม่อยากเอาเนื้อส้มด้วยไหม” “เอานิดหน่อยก็ได้แต่อย่าเยอะนะแม่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่” เรณูบอกกับลูกสาวอันที่จริงเธอก็ชอบเนื้อส้มอยู่หรอกแต่ตอนนี้เธอไม่มีแรงที่จะเคี้ยวอาหารเลย เด็กสาวป้อนน้ำส้มมารดาจนกระทั่งหมอเดินเข้ามาตรวจคนไข้เตียงแรกก็หยุดป้อน เธอรีบเช็ดมือและยืนรอให้หมอมาตรวจมารดา “สวัสดีค่ะคุณหมอ” ริณเรณูยกมือไหว้คุณหมอที่ดูแลมารดาของเธอมาตั้งแต่รู้ว่าป่วยเป็นโรคมะเร็ง “ปิดเทอมแล้วเหรอถึงมาเฝ้าคุณแม่ได้” “ค่ะคุณหมอ หนูปิดเทอมแล้วช่วงนี้หนูจะมาอยู่กับคุณแม่ทุกวันเลยค่ะ” “แบบนี้ก็ดีเลยเพราะแม่จะได้มีกำลังใจ” คุณหมอตรวจอาการของคุณเรณูอยู่เกือบสิบนาทีก็แจ้งริณเรณูและมารดาว่าหลังจากวันนี้คุณเรณูคงใส่สายยางสำหรับให้อาหารเพราะตอนนี้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ “แต่แม่บอกว่าทานข้าวได้เยอะนะคะ” เด็กสาวรีบบอกเพราะตอนเธอคุยกับมารดาท่านบอกว่าทานข้าวได้เยอะ “คำว่าเยอะของคนป่วยกับคำว่าเยอะของหมอมันอาจจะต่างกันน่ะ แต่ไม่ต้องกลัวหลอกนะการให้อาหารทางสายยางมันไม่ได้น่ากลัวและอันตรายอะไรเลย” “แม่จะเจ็บไหมคะ” “เจ็บแค่ตอนใส่นิดหน่อย พอใส่แล้วก็จะเริ่มชินและไม่เจ็บ” “เดี๋ยวจะมีพยาบาลมาใส่สายยางให้และช่วงบ่ายก็จะมีการสอนญาติผู้ป่วยที่จะรับผู้ป่วยไปดูแลที่บ้าน หนูจะไปเรียนก็ได้นะ เผื่อว่าอยากจะเป็นคนให้อาหารกับแม่เอง ถ้าสนใจก็บอกพยาบาลที่เคาน์เตอร์ได้เลยนะ” “ค่ะคุณหมอ” “คุณหมอคะฉันไม่ให้อาหารทางสายยางได้ไหม” “คุณเรณูครับการที่คุณได้รับสารอาหารครบถ้วนมันจะทำให้คุณต่อสู้กับโรคร้ายได้นะครับ” “หมอคะแต่ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวจริงๆ มันเหนื่อยมาก” เรณูบอกคุณหมอเจ้าของให้ไปตามตรง เธอไม่อยากทำอะไรเพิ่มอีกแล้วเพราะรู้ว่าร่างกายของตนเองไม่น่าจะรับไหวและเธอก็คิดว่าการทางอาหารทางสายยางมันคงทรมานมากเพราะไม่สามารถรับรู้รสชาติของอาหารได้เลย “ลองรับอาหารทางสายยางดูก่อนนะครับคุณเรณู ผมคิดว่ามันจะเป็นประโยชน์กับคุณมากๆ อาการที่คุณเหนื่อยอยู่ตอนนี้อาจจะเป็นเพราะคุณทานอาหารได้น้อยลงก็เป็นได้” “ให้แค่น้ำเกลือได้ไหมคะ” “น้ำเกลืออย่างเดียวมันไม่พอหรอกครับ” “แม่ค่ะ แม่ไม่ต้องกลัวนะคะหนูจะอยู่กับแม่เอง หนูจะไปฝึกให้อาหารและช่วงปิดเทอมหนูจะเป็นคนทำหน้าที่ให้อาหารเองค่ะ” เด็กสาวจับมือมารดาไว้แน่นแล้วหันมายิ้ม “ก็ได้จ้ะลูก” เพราะเห็นท่าทางห่วงใยของลูกสาวเรณูเลยไม่ปฏิเสธคุณหมอตรวจอาการอีกพักใหญ่จากนั้นก็ขอตัวไปตรวจคนไข้คนอื่น “แม่กลัวเหรอคะ” ริณเรณูถามเมื่ออยู่กันตามลำพัง “แม่ไม่กลัวการให้อาหารทางสายยางเลยนะแต่ไม่กลัวว่าภาพความทรงจำของแม่ที่จะเหลือไว้ให้หนูมันจะไม่สวยงามและน่าจดจำเลย” “แม่คะแม่สวยที่สุดสำหรับหนูอยู่แล้วค่ะ หนูว่าบางทีให้อาหารทางสายยางแล้วแม่อาจจะกลับมาแข็งแรงก็ได้นะคะ เพราะได้สารอาหารครบถ้วน” “แต่แม่จะต้องมีสายอยู่ตรงจมูกตลอดเลยนะลูก” “คนไข้เตียงอื่นเขาก็ให้อาหารทางสายยาง หนูว่ามันไม่น่ากลัวหรือน่าเกลียดอะไรเลยนะคะแม่ มันคือแนวทางการรักษาหนูอยากให้แม่แข็งแรงนะคะ แม่ทำเพื่อหนูได้ไหม” เด็กสาวเสียงสั่นเครือขณะที่ลูบไปบนแขนอันนี้แห้งเหี่ยวของมารดาด้วยความหดหู่ใจ ตั้งแต่มารดาป่วยร่างกายก็ซูบผอมลงเรื่อยๆ ใบหน้าที่เคยสวยงามมีน้ำมีนวลก็แห้งเหี่ยวดวงตาลึกโหลผมยาวสลวยตอนนี้ร่วงหล่นจนไม่มีเหลือแต่ในสายตาของริณเรณูแล้วแม่เรณูยังคงเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดสำหรับเธอเสมอ เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวันพยาบาลก็มาสอดสายยางสำหรับให้อาหารโดยมีริณเรณูคอยกุมมือมารดาอยู่ใกล้ๆ เธอคิดว่าท่านจะต้องเจ็บมากแต่ท่านก็ไม่บ่นอะไรเลยท่านนั่งนิ่งและทำตามที่พยาบาลบอกจนเสร็จ ตอนนี้มีสายยางคาอยู่ที่จมูกพร้อมสำหรับการให้อาหาร มื้อนี้พยาบาลเป็นให้อาหารทางสายยางโดยมีริณเรณูขอยืนสังเกตการณ์อยู่ข้างๆ หลังจากมื้ออาหารผ่านไปแล้วริณเรณูกับญาติของคนไข้อีกหลายเตียงก็เดินไปยังห้องเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้างเพื่อฝึกการให้อาหารที่ถูกต้อง พยาบาลประจำวอร์ดผู้ป่วยสาธิตการให้อาหารทางสายยางสอนวิธีการให้อาหาร การสังเกตอาการต่างๆ อย่างละเอียดซึ่งริณเรณูก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างมากเพราะเธออยากเป็นคนทำหน้าที่นี้ “การให้อาหารมื้อเย็นนี้มีใครอยากจะเป็นคนให้เองไหม” “หนูค่ะ” ริณเรณูรีบยกมือ “ดีมากมากจ้ะถ้าหนูทำเองได้คุณแม่ต้องภูมิใจในตัวหนูมาก” “แต่คุณพยาบาลช่วยดูอยู่ใกล้ๆ ได้ไหมหนูกลัวทำผิด” “ช่วงแรกอาจจะมีพยาบาลหรือไม่ก็ผู้ช่วยพยาบาลคอยประกบอยู่ แต่ถ้าหากคล่องแล้วทุกคนก็สามารถทำเองได้” “มันคงไม่ยากใช่ไหมคะ” “มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย บางคนเขาก็รับคนไข้ไปดูแลอยู่ที่บ้านและปั่นอาหารเหลวเอง” “อาหารที่เราให้แม่เราปั่นเองได้เหรอคะคุณพยาบาล” “ได้สิถ้าหนูมีแผนจะพาแม่กลับไปดูแลที่บ้านทางโรงพยาบาลก็มีการสอนทำอาหารเหลวอยู่นะ แต่สำหรับกรณีของหนูการพาแม่ไปอยู่ที่บ้านอาจจะลำบากหน่อยเพราะหนูอยู่กับแม่แค่สองคนใช่ไหม” “ใช่ค่ะคุณพยาบาล” “ผู้ป่วยมะเร็งผู้ป่วยระยะสุดท้ายอาจจะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง พยาบาลประเมินแล้วว่าหนูคนเดียวคงดูแลไม่ไหวแต่ ในช่วงปิดเทอมถ้าหนูจะมาเยี่ยมแม่แล้วอยู่กับแม่ตลอดทั้งวันก็จะเป็นเรื่องที่ดีเพราะกำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนไข้” “ปิดเทอมนี้หนูจะมาอยู่กับแม่ตั้งแต่เช้าถึงเย็นเลยค่ะ” “ดีแล้วล่ะ มีใครจะถามอะไรพยาบาลเพิ่มอีกไหม” “ตอนนี้ฉันยังไม่รู้จะถามอะไรคุณพยาบาลเลยค่ะ แต่ตอนลงมือทำก็ไม่รู้ว่าจะงงไหม” ญาติผู้ป่วยอีกคนหนึ่งบอกพลางยิ้มแห้ง “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ของแบบนี้มันเรียนรู้กันได้ถ้าไม่เข้าใจอะไรให้รีบถามอย่าเก็บความสงสัยและคิดเองว่ามันต้องเป็นอย่างนั้นมันต้องเป็นอย่างนี้ ฉันขอฝากทุกคนไว้เลยพยาบาลที่นี่เต็มใจดูแลผู้ป่วยและญาติเองก็ควรให้ความร่วมมือกับพยาบาลด้วย อะไรที่พยาบาลสั่งพยาบาลบอกก็ขอให้ทำตามอย่างเช่นกรณีที่คุณหมอกำหนดให้ทานน้ำได้แค่วันละหนึ่งลิตรก็ขอให้มันจบที่หนึ่งลิตร จริงๆ ต่อให้คนไข้ขอเพิ่มเราก็ต้องใจแข็งเพราะผลประโยชน์มันจะเกิดอยู่ที่คนไข้” คุณพยาบาลบอกด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส “ขอบคุณค่ะ” ริณเรณูและญาติผู้ป่วยเตียงอื่นกล่าวของคุฯก่อนจะพากันเดินออกมาจากห้อง เด็กสาวเดินกลับมาแล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าตอนนี้ข้างเตียงมารดาของเธอมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ซึ่งเธอไม่คิดเลยว่าเขาจะมาอยู่ที่นี่ในเวลานี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม