ตอนที่ 3 เสนอตัว

1537 คำ
ตอนที่ 3 เสนอตัว เพลงรักสะดุ้งเหมือนถูกตบหน้า ทำให้เธอก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม ความอับอายแล่นปรู๊ดขึ้นมาทั้งตัวจนรู้สึกถึงความร้อนวูบวาบ หลังจากที่เขาพูดคำบาดหูนั้นจบ การันต์ได้เบือนหน้าหนีก่อนจะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เขาก้าวเท้าเตรียมออกจากห้อง โดยไม่ได้คิดจะพูดอะไรกับเธออีกแม้แต่คำเดียว แต่เขาเดินไปได้แค่สามสี่ก้าว ก็มีเสียงฝีเท้าเบา ๆ จากคนป่วยรีบตามลงมาอย่างเร่งรีบ ปลายนิ้วเรียวคว้าจับที่ชายเสื้อเชิ้ตของเขาไว้แน่น ทำให้ชายหนุ่มชะงักก่อนจะหันหลังกลับมาช้า ๆ ดวงตาคมสบเข้ากับใบหน้าเล็กที่กำลังเงยหน้ามองเขาร เพลงรักกัดริมฝีปากตัวเองแน่น แน่นจนได้กลิ่นคาวเลือดแตะโพรงจมูก เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่กำลังจะพูดมันถูกหรือเปล่า ไม่รู้ว่าถ้าหากพูดไปแล้วมันจะเปลี่ยนชีวิตเธอให้ไปทางไหน แต่อย่างน้อยก็อาจจะช่วยให้เธอไม่ต้องกลับไปตกนรกที่ก็เป็นได้ หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเป็นการเรียกสติ สายตาของเธอจับจ้องที่ใบหน้าของการันต์ที่ไม่พูดอะไรออกมา เขาทำแค่หรี่ตามองมาที่เธออย่างรำคาญและ.. รังเกียจ ก่อนจะสะบัดชายเสื้อออกจากมือเธอแรง ๆ จนเจ้าตัวเซไปเล็กน้อย “อ๊ะ!” “อย่ามาแตะ สกปรก!” คำพูดของเขาทำให้เธอรู้สึกหน้าชาอีกครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าใครมอบความกล้าให้กับเธอกันแน่ แทนที่เธอจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ แต่เหมือนมีบางอย่างกำลังบอกเธอว่าเขาอาจจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายให้กับเธอในเวลานี้ก็ได้ ‘ใจเย็น ๆ นะเพลงรัก สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ' “คุณ.. สนใจรับเลี้ยงผู้หญิงสักคนไหมคะ?” เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เบามากราวกับว่าอยากให้ได้ยินกันสองคน “อะไรนะ?” เพลงรักหลุบตาลง อย่างคนที่ไม่กล้าเอ่ยอะไรอีก มือเล็กกำแน่นขึ้นจนข้อนิ้วสั่นก่อนจะพูดซ้ำด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม “ให้หนูทำอะไรก็ได้ งานบ้านงานเรือน ซักผ้า ถูบ้าน กวาดบ้าน หุงข้าว หนูทำได้หมดเลย หรือว่า..” เธอหยุดนิ่งหลุบตาลงมองพื้นด้วยหัวใจที่เต้นรัว ลมหายใจกระตุกขาดห้วง ก่อนจะกัดริมฝีปากแน่นและพูดต่อด้วยเสียงที่เบาเสียจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ “จะให้เป็นผู้หญิงของคุณก็ได้” “นี่เธอกำลังจะขายตัวให้ฉันเหรอ” เสียงนั้นดังก้องไปทั่วห้อง จนราเชนทร์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูถึงกับหันกลับมา มองทั้งคู่ด้วยสีหน้าอึดอัด เขาดูมีสีหน้าเหมือนจะห้ามแต่ก็ไม่กล้าเอ่ยแทรก แต่เพราะคำถามที่ตรงไปตรงมาของเขา มันกลับทำให้เพลงรักสะดุ้งสุดตัว มองหน้าเขาสลับกับมองราเชนทร์ก่อนจะเบือนหน้าหนี เพื่อหลบเลี่ยงความอับอาย มือสองข้างกำแน่นกว่าเดิมเหมือนจะฝังเล็บลงบนฝ่ามือตัวเอง “หนู..” “เธอคิดว่าเธอเป็นใคร.. เธอแน่ใจเหรอว่าเธอสะอาดพอจะเอาตัวมาเสนอให้ฉัน” การันต์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก พร้อมทั้งใช้สายตาที่คมกริบกวาดมองใบหน้าของผู้หญิงตรงหน้าอย่างดูแคลน “ฉันไม่ชอบกินของเก่า ของมือสอง หรือของที่ถูกใช้งานมาแล้วหรอกนะ มันสกปรก!!” คำพูดของเขาเย็นจัดและบาดลึกยิ่งกว่าคำด่า เพลงรักหน้าชา ใบหน้าแดงซ่าน ริมฝีปากอ้าออกน้อย ๆ ดวงตาเบิกขึ้นด้วยความตกใจ มือเธอสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ “หนูไม่ใช่คนแบบนั้นนะ..” เสียงเธอเบาจนแทบไม่ได้ยิน “ขอแค่.. ขอแค่ไม่ต้องกลับไปที่บ้านหลังนั้น” หญิงสาวใช้มือกำชายเสื้อผู้ป่วยแน่น บ่งบอกได้ว่าเธอกำลังอึดอัดมากแค่ไหน แต่ในเมื่อตัดสินใจจะร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่นแล้ว เธอก็หวังว่าสิ่งน่าอายพวกนี้จะไม่เสียเปล่า 'ต่อให้ต้องไปตายเอาดาบหน้าก็ยังดีกว่า..' การันต์จ้องหน้าผู้หญิงตรงหน้านิ่ง ภาพของพ่อแม่ของเธอที่เขาเห็นเมื่อครู่มันทำให้เขามองเธอดีไม่ได้เลย แค่ปราดสายตาดูก็รู้ว่าคนเป็นแม่ติดการพนันอย่างหนัก ฝ่ามือของนางด้านเฉพาะปลายนิ้วทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ส่วนคนเป็นพ่อนั้นนอกจากจะติดการพนันแล้ว คิดว่าน่าจะเป็นคนติดยาอีกด้วย ครอบครัวที่พ่อแม่เป็นแบบนั้น แล้วผู้หญิงคนนี้จะเหลืออะไรไว้ให้เขาเชยชมได้งั้นเหรอ การันต์กวาดสายตามองผู้หญิงคนนี้ให้ชัด ๆ อีกครั้ง แม้จะดูโทรมและผอมแห้งไปบ้าง แต่ถ้าเลี้ยงดี ๆ แต่งนิด เติมหน่อยใบหน้านี้ก็สามารถส่งไปขายที่ฮ่องกงได้สบาย "หึ! อย่างน้อย.. ฉันก็ควรจะได้ทดสอบความสะอาดสักหน่อยไหม" เขาก้าวเข้าไปใกล้เพียงนิด ดวงตาคมกริบกวาดมองเรือนร่างเล็กที่สั่นเทา “ขึ้นไปบนเตียงสิ แล้วก็~ อ้าขาออกซะ” เพลงรักเบิกตากว้าง ใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความตกใจสุดขีด เธอก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว ก่อนจะหันไปมองราเชนทร์ที่ยืนฟังอยู่ด้วย มีหลายครั้งที่เธอรู้สึกว่าสิ่งที่เธอกำลังทำนั้นถูกต้องแล้วจริง ๆ ใช่ไหม แต่พอคิดว่าหากกลับไปที่บ้านหลังนั้นชีวิตของเธอก็จะถูกขังไว้ปรนเปรอผู้ชายที่ไม่รู้จักอีกหลายคน หากเป็นแบบนี้การเลือกที่จะเป็นผู้หญิงของผู้ชายคนนี้อาจจะดีกว่า “หะ.. ให้คนอื่นออกไปก่อนได้ไหมคะ” การันต์เลิกคิ้วน้อย ๆ ราวกับตกใจในคำพูดของผู้หญิงตรงหน้า เขาจ้องมองพิจารณาใบหน้าของเธอ บางครั้งก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ช่างดูสดใสและอ่อนต่อโลก แต่บางทีก็มีความกล้าแบบแปลก ๆ ‘น่าสนุกดี.. ดูสิเธอจะปากดีไปได้แค่ไหนกัน' “ออกไปจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาล แล้วไม่ต้องกลับเข้ามา” การันต์หันไปพูดกับราเชนทร์ที่ยืนอยู่ ถึงแม้ท่าทางของลูกน้องคนสนิทจะเหมือนไม่พอใจ แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี “แต่ว่า..” และเพราะทำงานกับเขามานานเป็น 10 ปี มีหรือที่จะไม่รู้ว่าเจ้านายของตัวเองเป็นคนยังไง ถึงแม้ว่าเขาจะทำธุรกิจอย่างว่าแต่ไม่เคยมีสักครั้งที่จะรับเลี้ยงผู้หญิงสักคน ด้วยเหตุผลที่ว่าเอาคนเดิมมันจำเจ “ฉันบอกให้ออกไป” การันต์เน้นเสียงดังขึ้น ดวงตานั้นเย็นจัดราวกับพร้อมจะฆ่าคนได้ในเสี้ยววินาที ทำให้ราเชนทร์ปิดปากเงียบก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ แล้วรีบหมุนตัวออกไป สองเท้าก้าวไปกดล็อกประตู จนเมื่อทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ การันต์จึงหันกลับมามองผู้หญิงตรงหน้าอีกครั้ง “ไหนล่ะ” เสียงเขาแหบพร่าราวกับว่ากำลังรอดูเรื่องสนุก แต่แววตากลับมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับดูถูก "ทำให้ฉันดูหน่อยสิ ว่าถ้าฉันจ่ายเงินให้เธอฉันจะได้อะไรบ้าง” เขาขยับเข้าใกล้อีกก้าว พร้อมน้ำเสียงเย้ยหยัน จงใจใช้คำพูดหยามเหยียดบีบให้เธออับอาย “ขอดูหน่อยสิว่ามันจะคุ้มกับเงินที่ฉันจะจ่ายไหม หรือแค่.. คิดจะแสร้งตีหน้าเศร้าแล้วเอาของที่ถูกใช้จนพังมาหลอกขายฉัน” เพลงรักยืนนิ่งด้วยเนื้อตัวที่สั่นจนเห็นได้ชัด ริมฝีปากปากเม้มเข้าหากันแน่น หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ 'อดทนหน่อยเพลงรัก แค่.. มันจะน่ากลัวกว่าถูกจับไปขายได้ไง’ เมื่อคิดดังนั้น เพลงรักค่อย ๆ ถอยหลังช้า ๆ ไปจนถึงเตียงผู้ป่วย เธอดันตัวเองขึ้นไปบนเตียงก่อนจะนั่งนิ่ง ๆ ราวกับรูปปั้น เธอปรายตามองชายหนุ่มยังคงยืนกอดอกมองเธอโดยที่ไม่ขยับไปไหนสักน้อย เพลงรักช้อนสายตามองเขา ก่อนจะหลุบตามองมือที่กำกันแน่น ดวงตาหวานหลับลงก่อนจะนึกถึงความทรงจำอันเลือนรางในหัว เธอนึกย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ในตอนนั้นเธอยังเป็นเพียงแค่เด็กไม่ถึง 10 ขวบ ภาพของแม่กับผู้ชายแปลกหน้าที่เคยผ่านเข้ามาในบ้าน เธอพยายามคิดว่าพวกเขาทำกันยังไงก่อนจะใช้มือข้างที่ไม่มีสายน้ำเกลือค่อย ๆ ถอดกางเกงและชั้นในของตัวเองออกช้า ๆ จนมันไปกองอยู่ที่ข้อเท้าข้างหนึ่ง เพลงรักใช้มือลูบไปตามเรียวขาของตัวเองอย่างเงอะงะ ก่อนจะค่อย ๆ อ้าขาออกเพียงเล็กน้อยด้วยความเขินอาย เผยให้เห็นกลีบอูมที่มีป่าหญ้าเล็กน้อยปกคลุมอยู่ “หึ! มีประสบการณ์ดีนี่!!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม