เรนเดียร์ตัดสินใจโทรหาฟรินท์ทันทีที่เธอกลับถึงห้อง ยังไงเธอก็ต้องคุยเรื่องนี้กับเขาให้รู้เรื่อง อีกสองวันเราสองคนก็ต้องไปดูโครงการรีสอร์ทที่ระยองด้วยกัน ถ้าปล่อยให้ไปถึงตอนนั้น อาจเป็นเรื่องยุ่งยากมากกว่านี้
“มาคุยกันหน่อยฟรินท์”
(คุยเรื่องอะไรเรน)
“นายอย่าทำตัวเป็นเด็กได้ไหม หรือชาตินี้นายจะไม่คุยกับฉันแล้ว”
ปลายสายเงียบไป ไร้เสียงตอบกลับ แต่ทว่าเธอได้ยินเสียงถอนหายใจจากเขา
“ตกลงว่ายังไง ถ้านายยังอยากคุยกับฉันอีก ก็มาหาฉันที่ห้อง แต่ถ้าไม่หลังจากนี้เราก็ไม่ต้องคุยกันอีกเลย”
ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่พอใจเธอได้ฝ่ายเดียว เธอเองก็ไม่พอใจเขาเหมือนกัน ที่เขาทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ ปกติิในบรรดาผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นธันเดอร์ หรือน้องชายของเธอไทเกอร์กับไทก้า ฟรินท์จะเป็นคนที่ทำตัวมีเหตุผลมากกว่าคนอื่นเสมอ แล้วทำไมตอนนี้เขาถึงเป็นแบบนี้ไปได้
เธอเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องนอน แล้วออกมานั่งรอเขาที่โซฟาห้องรับแขก หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นระหว่างรอ นิ้วเรียวกดเข้าไปในอัลบั้มลับที่เธอเป็นคนตั้งค่าส่วนตัวเอาไว้ ข้างในเป็นรูปถ่ายระหว่างเธอกับฟรินท์ ในอิริยาบถต่าง ๆ ที่ถ่ายเก็บเอาไว้ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีมากกว่าร้อยรูป
ไม่ว่าจะเป็นรูปตอนเราเรียนมหาลัย เธอมักจะไปนั่งรวมกลุ่มกับพวกฟรินท์เสมอ ถึงจะเป็นรุ่นพี่พวกเขาหนึ่งปี ตอนนั้นเราสองคนยังเป็นแค่พี่น้องที่สนิทสนมกัน รูปถ่ายส่วนใหญ่เลยยังไม่ค่อยใกล้ชิดกันมาก แต่ทว่าหลังจากที่เราสองคนมีความสัมพันธ์ลับกัน ก็เริ่มมีรูปเราสองคนมากขึ้น ส่วนใหญ่ก็จะถ่ายเล่นกันในคอนโด มีบ้างที่เป็นรูปเวลามีงานเลี้ยงครอบครัวต่าง ๆ และล่าสุดคือรูปตอนงานแต่งโซลน้องชายของเขา เรามาแอบถ่ายกันตรงสวนสวยของโรงแรมตอนที่ทุกคนกำลังสนุกกับงานเลี้ยงกัน
ในอัลบั้มมีอัลบั้มลับอีกชั้นหนึ่ง ในอัลบั้มนี้เป็นรูปส่วนตัวเวลาเรานอนกันอยู่บนเตียง เป็นรูปค่อนข้างส่วนตัว เธอเลยใส่รหัสล็อคไว้อีกชั้นหนึ่ง เพราะบางรูปก็เห็นเราสองคนเปลือยกายล่อนจ้อน แต่ไม่ว่าจะเป็นรูปไหน ก็มีสิ่งที่เหมือนกันคือสายตาของฟรินท์ที่มองเธอเสมอ คิดถึงตรงนี้ดวงตากลมโตก็มีน้ำสีใสไหลเอ่อคลอออกมา เพิ่งจะเข้าใจว่าตัวเองละเลยความรู้สึกของเขามามากเกินไปจริง ๆ เธอเป็นคนบอกให้เขารอวันที่พร้อมจะบอกทุกคน แต่สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
แกร๊ก!!!
เสียงประตูเปิด ทำให้หญิงสาวรีบใช้หลังมือเช็ดน้ำตาออกจากแก้มนวล หันไปมองเห็นชายหนุ่มยืนถอดรองเท้าอยู่ ใบหน้าของฟรินท์ยังคงเงียบขรึม เหมือนไม่ได้เต็มใจจะมาที่นี่
ร่างสูงเดินมานั่งที่โซฟาห่างจากตัวที่คนตัวเล็กนั่งอยู่“มีอะไร?”
“พูดซะห่างเหินเลย"
"....."
"นายเป็นอะไรฟรินท์ พูดมาให้หมดเลยดีกว่า”
“ต้องพูดอะไรอีกเรน เธอก็รู้อยู่แก่ใจแล้ว ว่าที่ผ่านมาเรื่องระหว่างเรามันมีเรื่องอะไรที่ทำให้เราสองคนทะเลาะกันบ่อย ๆ บางครั้งฉันก็พยายามเข้าใจนะว่าเธอคงกลัวพ่อกับแม่ของเธอ แต่ฉันก็อยากจะรู้ว่าฉันไม่ดีพอจะเป็นคนรักของเธอหรือไง ทำไมเธอทำกับฉันแบบนี้”
“ฉันก็บอกนายแล้วไงว่าขอเวลาอีกนิด ทำไมนายไม่เข้าใจฉันบ้างฟรินท์”
ฟรินท์เหยียดยิ้มออกมา ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยินคำนี้ แต่ตลอดเวลาสามปี เขาได้ยินคำนี้มาเป็นร้อยครั้ง แต่สุดท้ายมันก็ผ่านไปทุกที เขาน่าจะหายไปและไม่กลับมาหาเธออีกตั้งแต่สองปีที่แล้ว ไม่น่ากลับมาให้ตัวเองเจ็บปวดอยู่แบบนี้เลย
“ขอโทษได้ไหมฟรินท์”ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเธอ ที่ตอนนี้มีน้ำตาไหลออกมา ทำเอาใจแกร่งกระตุกวูบเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำขอโทษจากเธอและได้เห็นน้ำตาเธอแบบนี้
"หยุดร้องเถอะ"เมื่อทนมองได้ไม่นาน ก็ขยับตัวไปนั่งข้างร่างเล็กที่กำลังสะอื้นจนไหล่บางสั่นไหว แขนแกร่งยกขึ้นโอบรอบเอวคนตัวเล็ก ดึงให้เธอเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเขา ลูบหลังเล็กขึ้นลงเบา ๆ เพื่อปลอบใจ
"ฮึก ฮึก นายไม่รักฉันแล้วเหรอ ไหนเมื่อคืนก่อนบอกว่ารักฉันไง ฮือ"
"มันคนละเรื่องกันนะเรน ที่ฉันยังอยู่ตรงนี้ก็เพราะรักเธอไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่รักฉันไปจากเธอตั้งนานแล้ว"
"แล้วนายหายไปไหนตั้งสามวัน ไม่โทรไม่ติดต่อฉันมาเลย จะให้ฉันคิดยังไง"
"ฉันไม่โทรมา แล้วทำไมเธอไม่โทรหาฉัน"
"ฉันรู้ว่าทำให้นายไม่พอใจ เลยไม่กล้าโทรไป อยากให้เวลานายได้อยู่กับตัวเองบ้าง"
ชายหนุ่มผละเธอออกจากอ้อมกอด ใช้นิ้วเรียวเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มใสทั้งสองข้าง ก่อนจะก้มลงไปจูบริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ ซึ่งหญิงสาวก็ยกมือขึ้นเกี่ยวคอแกร่งพร้อมตอบรับจูบดูดดื่มอย่างเต็มใจ
จังหวะการจูบช่วงแรกเป็นการจูบเพื่อปลอบโยนความรู้สึกของกันและกัน แต่ทว่าร่างกายชายหญิงก็เหมือนแม่เหล็กขั้วบวกขั้วลบ ที่พร้อมจะดึงดูดเข้าหากันทันที บวกกับการถวิลหาร่างกายอีกฝ่ายมาตลอดสามวัน ทำให้การจูบเพิ่มระดับเป็นการส่งลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดลิ้นอีกฝ่ายไปมา
ร่างเล็กเอนตัวลงบนโซฟา โดยมีร่างสูงคร่อมทับทุกส่วน ก่อนจะส่งมือหนาเข้าไปตรงชายเสื้อยืดที่เธอสวมใส่ เข้าไปบีบเค้นก้อนกลมสองลูกที่เขาคิดถึง
"เมนส์หายหรือยัง?"
กลัวว่ากิจกรรมจะสะดุดลง เลยผละริมฝีปากออกมาถามเธอก่อน ซึ่งเรนเดียร์ก็พยักหน้าตอบทันที เธอเองก็โหยหาเขามากเหมือนกัน
"งั้นทำนะ"
ใบหน้าหญิงสาวแดงก่ำกับคำถามของเขา ปกติไม่เคยถามอะไรแบบนี้ มีแต่ใส่ยับกันอย่างเดียว แต่วันนี้เขาอยากเป็นผู้ชายอ่อนโยนเรื่องแบบนี้บ้าง ถึงตอนนี้ความต้องการร่างกายเธอจะเพิ่มสูงขึ้นก็เถอะ
จัดการอุ้มร่างเล็กขึ้นแนบอกแล้วพาเดินไปยังห้องนอน สมรภูมิรักของเขาและเธอ เมื่อวางเธอลงบนเตียงนุ่มแล้ว เขาก็จัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจากร่างกายจนเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า แล้วทิ้งตัวลงทาบทับร่างเล็กของเธอ ตะโปมจูบลงไปอีกครั้งอย่างเร่าร้อน
ท่อนชายแข็งโด่สะบัดเสียดสีกับขาอ่อนของหญิงสาวไปมา มือหนายกขึ้นดึงชายเสื้อยืดตัวเล็กออกไปทางหัวเล็กของเธอ ยื่นมือไปข้างหลังปลดตะขอชุดชั้นในสีดำแสนเซ็กซี่ออกไปอย่างช่ำชอง
เมื่ออกอวบใหญ่โผล่ออกมาท้าทายสายตา ชายหนุ่มก็ก้มลงใช้จมูกโด่งสูดดมตรงร่องอกแรง ๆ ก่อนจะตวัดปลายลิ้นร้อนปาดเลียตรงเนินอกขาว ดูดเม้มจนขึ้นรอยแดงเป็นจุดเล็ก ๆ
“อื้อ~ อ๊าสส”เรนเดียร์ครางกระเส่าออกมา เมื่อโดนลิ้นชื้นตวัดเลียยอดอกสีหวาน เลียเน้นย้ำจนมันขึ้นแข็งเป็นไต ก่อนจะส่งเข้าไปดูดเม้มในโพรงปากหนา ลิ้มรสกลิ่นกายสาวที่ทำให้ร่างกายชายหนุ่มร้อนระอุ มือหนาอีกข้างก็นวดเฟ้นอกอวบข้างที่เหลือ ใช้นิ้วเรียวบีบบี้ยอดอกไปด้วย จนหญิงสาวร่างกายกระตุกเกร็งทุกส่วน
หยอกล้อกับส่วนบนของร่างเล็กจนพอใจ ก็ลากเลียริมฝีปากมาตรงหน้าท้องแบนราบ ดึงกางเกงขาสั้นออกไปตามเรียวขาสวย พร้อมกับแพนตี้ตัวบางหลุดร่วงไปด้วย เปิดเผยกลางกายฉ่ำแฉะ ก่อนจะถูกลิ้นร้อนสะบัดปลายลิ้นตวัดชิมความหวานถี่รัว จนคนตัวเล็กครางเสียงหลง ปลายเล็บจิกเกร็งกับผ้าปูที่นอน ใบหน้าสวยหวานเหยเกด้วยความเสียดเสียว สะบัดใบหน้าสวยไปมาจนผมเผ้ากระจุยกระจายเต็มหมอน
“อ๊าสสส มะ ไม่ไหวแล้วฟรินท์จ๋า อื้อ~”เสียงหวานยังคงครางกระเส่า เมื่อเขาแหย่ลิ้นเข้าออกร่องรักคับแคบของเธอ ภายในโพรงสาวอ่อนนุ่ม ตอดรัดบิดเกร็งจนลิ้นร้อนเขาแทบขาด ไม่นานน้ำหวานจากร่องสาวก็แตกพร่ากระจายออกมาเต็มปากของเขา ให้เขาใช้ลิ้นตวัดดูดกลืนความหวานจนหมดทุกหยาดหยด
เสียงหายใจหอบเหนื่อยของคนใต้ร่างหลังจากเสร็จสมดังเข้าหูคนตัวสูง เขายกตัวขึ้นมาจ้องมองใบหน้าสวยของเธอ ขนาดมีเหงื่อผุดซึมเต็มกรอบหน้า ผมกระจายไม่เป็นทรง แต่คนตัวเล็กก็ยังดูสวยไม่เปลี่ยน สวยเหมือนตอนเด็ก ๆ ที่เราเคยเล่นด้วยกัน
มีหลายอย่างในชีวิตเปลี่ยนไป แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยเปลี่ยน คือเขาชอบมองหน้าเธอคนนี้ ต่อให้มีผู้หญิงสวยกว่าเธอร้อยเท่าพันเท่ามาสนใจ เขาก็ไม่เคยมีสายตาไว้มองผู้หญิงคนไหน นอกจากเธอคนนี้คนเดียว
“รักเธอนะ”
พูดจบมือหนาก็จับเอ็นร้อนแข็งขืนยัดเข้าไปในร่องรักสีหวานของเธอทีเดียวสุดลำ โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว เพราะกำลังเคลิบเคลิ้มกับคำบอกรักแสนหวานของเขาอยู่