สามสิบนาทีไม่ขาดไม่เกิน เสียงเคาะประตูบ้านก็ดังขึ้น ทำให้คนที่กำลังพยายามหาทางติดต่อธีรเดชถึงกับชะงักมือที่กำลังกดโทรศัพท์ รีบเดินมาเปิดประตู ทันใดนั้นร่างบางก็สะดุ้งเฮือก เมื่อถูกคนที่เพิ่งมาถึงถลาเข้าสวมกอด อารญายืนหัวใจเต้นโครมครามอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง ใบหน้าสวยหวานแนบกับอกกว้างอยู่อึดใจใหญ่ กระทั่งวงแขนแกร่งคลายออกจากเอวอ้อนแอ้น เขาเลื่อนฝ่ามือมากุมหัวไหล่มน ขณะโน้มหน้าลงมาหา “เป็นยังไงบ้าง ปวดหัวมากไหม” “ปวดหัว?” เธอทวนคำด้วยท่าทางงงๆ “มนธิราบอกว่าน้องอายปวดหัว พี่ก็เลยรีบมา” “มนธิรา?” “อืม อย่าเข้าใจผิดนะ พี่ไม่ได้อยู่กับเขา พี่แค่ลืมมือถือไว้ในห้องทำงานก่อนเข้าประชุมกับพวกผู้บริหาร และเขาก็ถือวิสาสะรับสายตอนมารอคุยเรื่องธุรกิจกับพี่” พ่อเจ้าประคุณร่ายยาวอย่างกลัวเธอจะเข้าใจผิด ทำเอาอารญาอึ้งจนพูดไม่ออก เพราะไม่คิดว่าเขาจะพูดอะไรยาวๆ ได้ขนาดนี้ แถมไอ้ประโยคยาวๆ ที่ว่ายังบ่ง

