“พราวจ๋า...” เสียงครางแหบพร่าของตรัยทำให้พราวมุกหัวหมุนติ้วๆ เหมือนลูกข่าง ยิ่งลมหายใจร้อนๆ ของเขาเป่ารดอยู่ตรงกลีบกุหลาบสาว เธอยิ่งแขม่วหน้าท้องด้วยความปั่นป่วน ซอกขาด้านในถูกลิ้นสากลามเลียจนเปียกชุ่ม ก่อนที่เธอจะสัมผัสกับปากร้อนๆ ที่ลามเลียอยู่ที่เนินหอมกรุ่น
เส้นไหมนุ่มถูกดูดกลืนจนเป็นรอยปาก เธอหยัดสะโพกอย่างน่าอาย คล้ายเสนอให้เขาฝังใบหน้าลงมาหาเพื่อปรนเปรอ
พราวมุกจิกมือกับที่นอนจนแทบแหลกลาญเมื่อเขาฝังใบหน้าลงมาที่ เนินกุหลาบแสนสวย ปากร้อนของเขาตวัดลามเลียขึ้นลงอย่างวาบหวาม สอดแทรก เชยชิม ซอนแซะ เข้าในกลีบกายสาวที่ปิดสนิทไร้ชายใดเคยบุกรุก มาก่อน
ยอดเกสรสวาทสั่นระริกเพราะเรียวลิ้นที่บดบี้เข้าหา พราวมุกร้องคราง ไม่เป็นภาษา ทุกอย่างดูพร่าเลือนในความรู้สึก แต่ความเสียวซ่านนั้นเด่นชัด ยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น
“อื้อ...” พราวมุกจิกมือกับกลุ่มผมดกหนาของตรัยเมื่อเขาสอดแทรกลิ้นเข้าหาช่องทางคับแคบ นิ้วของเขาเกลี่ยขึ้นลงและค่อยๆ จุ่มจ้วงเข้าหา เธอถอนสะโพกหนีด้วยความเจ็บแปลบคับตึง เขาตามติดมาลามเลียจนเธออ่อนเปลี้ยในขณะถอยไปติดกับหัวเตียง
“พราวจ๋า... พี่ตรัยรักพราว ไม่ต้องกลัวนะ” เขาปลอบโยน ลมหายใจร้อนแรงเป่ารดอยู่ตรงเนินสาว พราวมุกหัวหมุนอย่างหนักเมื่อโดนลิ้นของเขา ไล้เลียตวัดขึ้นลงระรัวเร็ว เธอส่ายหน้าไปมาจนผมยุ่งเหยิง บอกได้คำเดียวว่าใกล้ถึงจุดหมายที่ไหนสักแห่งที่ไม่เคยพานพบมาก่อน แล้วทุกอย่างก็พร่างพรายไปด้วยรสเสน่หา
พราวมุกหวีดร้องด้วยความสุขเสียว เธอเกร็งกระตุกรินไหลหยาดน้ำหวานออกมาให้เขาเชยชิม ดูดกลืนเสียจนอิ่มแปล้ ตรัยกดจูบซอกขาด้านใน มองหญิงสาวที่นอนระทดระทวยอ่อนแรงอยู่ใต้ร่างด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักใคร่ ตรัยยกขาของเธอขึ้นพาดบนแขน ให้เธอวางเอาไว้ด้วยท่วงท่าสบายๆ เขามองข้อเท้าที่พันผ้าเอาไว้แล้วทาบทับลงไปกระซิบถามอย่างห่วงใย
“ปวดข้อเท้าอีกไหม” พราวมุกไม่ตอบแต่ส่ายหน้าไปมาจนผมยุ่ง เธอรู้สึกว่าแก้มตัวเองร้อนผ่าว ความใส่ใจของเขาทำให้เธอหัวใจอ่อนยวบ
ตรัยกดริมฝีปากกับปากน้อยน่ารัก เธอจูบตอบเขาอย่างเงอะงะ แต่สำหรับเขามันเป็นจูบที่แสนหวานและน่ารักน่าปรารถนายิ่งนัก เธอจูบไม่เป็นน่ะดีแล้ว ต่อแต่นี้ไปเขาจะสอนให้จูบเขาคนเดียว
“อื้อ... พี่ตรัยขา... พราวเจ็บ อ๊า...” พราวมุกร้องเสียงหลงเมื่อร่างกายใหญ่โตของเขาสอดแทรกเข้ามาในเรือนร่างสาว
“ชู่... ไม่เอานะครับ ไม่เป็นไรคนดี พี่จะถนอมพราวจนถึงวินาทีสุดท้าย”
คำพูดปลอบโยนของเขาทำให้พราวมุกลดอาการเกร็งลงได้ เขาจูบเธออย่างดูดดื่มในขณะที่สอดกายเข้ามาแนบชิดอย่างเชื่องช้าแต่มั่นคง พราวมุกร้องครางเสียงหลงเมื่อเขาหลอมรวมเข้ามาได้ในที่สุด ด้วยชั้นเชิงที่เหนือกว่า
ตรัยจูบซับน้ำตาให้สาวน้อย เขาแช่นิ่งในกายเธอเพื่อให้พราวมุกปรับตัวรับเขาเข้าไปอย่างเต็มอกเต็มใจ ทุกอย่างค่อยๆ อัดแน่นไปด้วยเพลิงเสน่หา หญิงสาวเริ่มขยับสะโพกด้วยความอึดอัด เธอตอดรัดเขาทุกทิศทาง ตรัยถึงกับซู้ดปากร้องคราง เขาเริ่มขยับมองสบตาเธอนิ่งด้วยสายตาล้ำลึก
พราวมุกมองสบสายตาผู้ชายที่เป็นคนแรกของชีวิตสาว หัวใจของเธอกระหน่ำรุนแรง เขาค่อยๆ สอนให้เธอรับการบุกรุกของเขาเป็นจังหวะ สะโพกกลมกลึงหยัดขึ้นรับการโจนจ้วงของเขาอย่างเผลอไผล เธอร้องครางทุกครั้งที่ เนื้อกายชายเสียดสีกับผนังอ่อนนุ่มด้านใน มือบางกอดรัดจิกบนแผ่นหลังของเขาเอาไว้ด้วยความเสียวซ่านรัญจวนใจ
ตรัยจูบเธออย่างดูดดื่ม มือของเขากุมสะโพกเธอเอาไว้เพื่อหยัดให้รับแรงสอดรัก มืออีกข้างที่ว่างฟอนเฟ้นอกสาวเคร่งครัดก่อนจะป้อนเข้าปาก ดูดรวบกลืนกินด้วยความหิวกระหาย
พราวมุกหัวหมุน รู้สึกว่ารอบกายดูพลิกคว่ำพลิกหงายไปหมด เธอทำตามที่เขากระซิบสั่งริมหู หยัดรับ ตอดรัด และโอบกระชับแก่นกายชายทุกจังหวะด้วยความเสียวซ่าน รับรู้ถึงแรงกระชั้นที่กำลังจะพาเธอไปถึงจุดหมายปลายทาง เธอหวีดร้องเสียงหลงด้วยความสุขสุดยอดที่รุนแรงกว่าครั้งแรก แล้วร่างกายก็ อุ่นร้อนด้วยหยาดหยดแห่งความสุขของกันและกัน
“พราวครับ พราว...” เสียงเรียกหวานหูและทุ้มลึกอย่างห่วงใยของใคร คนหนึ่งปลุกให้พราวมุกตื่นในตอนเช้า เธอรู้สึกเพลียๆ ยังไม่อยากตื่น แต่ถึงแม้จะเพลียเธอก็รู้สึกตัวเบา ผ่อนคลายอย่างประหลาด
“อื้อ... ไม่เอาค่ะพี่พาย พราวจะนอนต่อ ขอพราวนอนอีกสิบนาทีนะคะ”
พราวมุกคิดไปว่าเสียงนั้นคือเสียงของพี่ชายที่รัก ปกติแม้พายัพจะเป็นคนห่ามๆ แต่เขาก็เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็ก เรียกว่าทำกับข้าวกับปลาให้กินไม่เคยขาด ดังนั้นเป็นความเคยชินที่พี่ชายสุดห่ามของเธอจะมาปลุกทุกเช้า
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่ทำโจ๊กหมูกับสลัดผักให้กินเหมือนเคยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ รักพี่พายที่สุดในโลกเลย” พราวมุกตอบเสียงอู้อี้ ขณะที่ อมยิ้มกับหมอน ตรัยมองแล้วรู้สึกเอ็นดู เขาดึงผ้ามาห่มให้เธออีกนิดเพราะ ช่วงเช้าแบบนี้อากาศค่อนข้างเย็น ก่อนจะผละออกห่างเพื่อไปทำอาหารเช้า
พราวมุกถึงจะง่วงงุนแต่ก็ค่อยๆ ลำดับเหตุการณ์แล้วกะพริบตาปริบๆ เธอเริ่มนึกออก เมื่อกี้ไม่ใช่พี่ชายของเธอ เขาไม่ใช่พายัพ
แต่เป็น!!!
หญิงสาวผุดลุกขึ้นจากที่นอนอย่างตกใจ เธอมองสภาพตัวเองที่ เปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่มแล้วหน้าแดง เขาออกไปจากห้องแล้ว น่าอายเสียจริง นี่เธอนอนขี้เซาขนาดนี้เลยเหรอ ทั้งๆ ที่เกิดเรื่องหนักหนาเมื่อคืน เธอใจอ่อน ไปกับตรัย ยอมตกเป็นเมียของเขาอย่างง่ายดาย คิดแล้วแทบอยากมุดเตียงหนี
แล้วเมื่อกี้อีก เขามาปลุกให้เธออาบน้ำ แล้วลงไปด้านล่าง เธอกลับอือๆ อาๆ ให้เขาลงไปทำอาหารเช้าด้วยตนเอง ถ้าเธอเป็นภรรยาเขาจริงๆ คงเป็นภรรยาที่ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย
พราวมุกลุกจากเตียงเพื่อเข้าห้องน้ำ ข้อเท้าของเธอไม่เป็นอะไรมากแล้ว แต่ไม่กล้าลงน้ำหนักมากนัก พอเข้าไปในห้องน้ำก็เห็นความผิดปกติ เขาวาง แก้วน้ำ แปรงสีฟันที่บีบยาสีฟันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ผ้าขนหนูอยู่อีกด้าน ข้างแก้วน้ำที่มีฝาปิดเอาไว้บอกว่าเป็นน้ำอุ่นให้ดื่มน้ำก่อนเมื่อลุกจากที่นอนเพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หญิงสาวถึงกับอมยิ้มและนึกทึ่งในความรักสุขภาพและเอาใจใส่ของเขา เธอดื่มน้ำแล้วล้างหน้าแปรงฟัน ทำภารกิจจนเสร็จแล้วจัดการรวบผมเอาไว้ด้วยยางรัดสีดำเส้นบาง ก่อนจะออกมาจากห้องน้ำด้วยอาการของคนคิดหนัก เธอจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไรดีนะ ในระหว่างคิด... ประตูห้องนอนถูกเปิดเข้ามา พราวมุกหน้าแดงเมื่อสบตากับตรัย เธอก้มหน้างุดมองพื้นแทบจะทันที
“พื้นน่ามองกว่าหน้าของพี่เหรอครับน้องพราว” ตรัยเดินมาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าของหญิงสาวก่อนเอ่ยถาม พราวมุกสัมผัสได้ถึงกลิ่นกายและพลังจากเรือนกายสูงเพรียว
“เอ่อ... พี่ตรัยคะ” เธอไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดีกับสิ่งน่าอายที่เธอได้ทำกับเขาเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ไม่กล้ามองหน้าเขา ต่อไปจะมองหน้ากันยังไง
“ไปกินมื้อเช้ากันครับ” เขาตวัดอุ้มร่างน้อยขึ้นสู่อ้อมแขน
“ว้าย! พี่ตรัย พราวตกใจหมดเลย ไม่ต้องอุ้มก็ได้ค่ะ พราวเดินเองได้” เธอตกใจ ไม่คิดว่าจู่ๆ เขาจะอุ้มเธอแบบนี้ เลยต้องรีบคว้าคอหนาของเขาเอาไว้
“พราวเจ็บข้อเท้าอยู่นี่ครับ ให้พี่อุ้มน่ะดีแล้ว” เขาบอกอย่างใจดี เธอจนใจกับเหตุผลและความเอาใจใส่ของเขา จึงยอมให้เขาอุ้มเธอในที่สุด ซุกหน้าที่ อกอุ่น แอบอมยิ้มอย่างมีความสุข