เด็กฝึกของน้าภพ

1512 คำ
เด็กฝึกของน้าภพตอนนี้แทบจะกลายเป็นแฝดของน้าภพไปแล้วไม่ว่าเขาจะไปไหนก็จะพาเธอไปด้วยทุกที่ ด้วยเหตุผลคืออยากให้เธอเรียนรู้งานให้มาก เวลาขับรถไปไหนก็มักจะสอนเธอไปว่าทางแบบนี้ ถนนแบบนี้ สภาพการจราจรแบบนี้ ควรขับรถแบบไหนใช้เกียร์แบบไหน ตอนนี้หญิงสาวขับได้ทั้งรถเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ “น้าภพ คิดว่าหนูจะทำได้ไหมคะ” ญารินดาวันนี้ญารินดาต้องมาสอบใบขับขี่หลังจากฝึกมาจนมั่นใจและอ่านข้อสอบไปเป็นสิบรอบ “ได้สิครับ มั่นใจหน่อยอย่าทำหน้าแบบนั้น” “ถ้าวันนี้ไม่ผ่าน ครั้งหน้าน้าภพจะมากับหนูอีกไหมคะ” “ไม่” ภีมภพปฏิเสธ “น้าภพอะ ใจร้าย” “ก็น้ารู้ว่ายังไงวันนี้กอหญ้าก็ต้องทำได้” “หนูจะพยายามค่ะ จากนี้หนูขอเป็นคนพาแม่ไปซื้อของมาทำอาหารนะคะ” “ได้สิ กอหญ้าจะยืมรถน้าพาแม่ไหนก็ได้ น้าอนุญาต” เพราะเป็นคนเธอเองเขาจึงมั่นใจว่าญารินดาจจะขับรถได้ดีและมีสติ “แบบนี้หนูสู้ตายเลยค่ะ” อาหารบนโต๊ะเย็นนี้มากกว่าทุกวันเพราะภีมภพอยากฉลองให้กับญารินดาที่สอบใบขับขี่ผ่านตั้งแต่ครั้งแรก “กอหญ้า น้ามีความลับจะบอก” “ความลับอะไรคะน้าพร” “เรื่องสอบใบขับขี่ น้าขอชื่นชมเลยว่ากอหญ้าเก่งมากที่สอบผ่านได้ในครั้งแรก หนูรู้ไหมมีใครบางคนแถวนี้ สอบข้อเขียนไม่ผ่าน 3 รอบ” “อะไรนะคะ ข้อเขียนง่ายจะตาย ก่อนสอบเขาก็อบรมตั้งหลายชั่วโมงนะคะ” “น้าก็ว่าอย่างนั้น ไม่รู้ทำไมน้าภพถึงสอบไม่ผ่านก็ไม่รู้ กอหญ้าลองถามดูสิว่าทำไม” “น้าภพสอบไม่ผ่านเหรอคะ” หญิงสาวหัวเราะเพราะไม่คิดว่าคนที่สอนเธอมาตลอด 1 เดือนนั้นสอบครั้งแรกไม่ผ่าน “ถ้าจะเอาจริงก็คงผ่านตั้งแต่ครั้งแรก แต่ตอนนั้นน้าจีบคนคุมสอบไงเลยต้องสอบหลายรอบ” ภีมภพรีบแก้ตัว “อ๋อ ติดหญิงนี่เอง ผู้หญิงคนนั้นสวยไหมคะ” “สวยสิกอหญ้า สวยมาก” เพียงพรเป็นคนตอบแล้วเธอก็หัวเราะ “แล้วได้เป็นแฟนไหมคะน้าภพ” “ได้สิ ได้เป็นแฟนเพื่อนน้านะ ไอ้คนที่มันพาน้าไปสอบนั่นแหละคิดแล้วยังเจ็บใจไม่หาย” “น่าสงสารนะคะ น้าภพออกจะหล่อแล้วทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงไม่ชอบ” “กอหญ้า หล่ออย่างเดียวมันไม่ช่วยอะไรกอหญ้า เพื่อน้าภพอาจหล่อไม่เท่า แต่พูดจาไพเราะ ช่างเอาใจ ส่วนน้าภพน่ะเหรอ เทียวไปหา ไปเฝ้า แต่ไม่พูดอะไร อยากให้ผู้หญิงรู้เอง สุดท้ายก็เลยแห้ว” เพียงพรเล่าไปก็ขำไป “นั่นไง หนูว่าแล้ว น้าภพคะ ผู้หญิงไม่ได้เป็นหมอดูนะคะ จะได้รู้ว่าใครคิดยังไงกับตัวเอง ถ้าน้าภพชอบก็ต้องบอก เอาอย่างนี้นะคะ ถ้าจากนี้จะจีบผู้หญิงคนไหน ให้มาบอกหนู เดี๋ยวหนูจะช่วยเอง” “แก่แดดใหญ่แล้วนะกอหญ้า” วาสนาปรามลูกสาวที่ตอนนี้แทบจะพูดกับภีมภพเหมือนคนวัยเดียวกันไปทุกที “แม่คะ หนูก็แค่อยากช่วย” “น้าว่าดีเหมือนกันนะคะกอหญ้า ถ้าน้าภพมีแฟน น้าก็คงสบายขึ้น จะได้มีคนมาช่วยทำงาน” “ผมยังไม่คิดเรื่องนั้นเลยพี่พร ตอนนี้อยากทำงานเก็บเงินไปก่อน เดี๋ยวแก่แล้วไม่มีแรง” “ไม่ต้องห่วงนะคะถ้าน้าพรกับน้าภพแก่ หนูจะดูแลเอง” “ได้ยินอย่างนี้น้าชื่นใจเลยกอหญ้า” เพียงพรรู้สึกว่าเธอมองคนไม่ผิดเลยจริงๆ “แล้วกอหญ้าจะไหวหรือเปล่า ดูแลพวกเราทั้งสามคน” วาสนาถามลูกสาวอย่างเอ็นดู “ไหวอยู่แล้วค่ะแม่” ผู้ใหญ่ทั้งสามคนมองหน้ากันแล้วยิ้มความสดใสของญารินดาทำให้บรรยากาศของบ้านดูสดชื่นขึ้นกว่าเดิมมาก ช่วงก่อนเปิดเทอมเป็นช่วงเวลาที่ญารินดามีความสุขที่สุด พอถึงเวลาที่ต้องไปเรียนเลยอิดออด เพราะอยากอยู่ช่วยงานมากกว่า “กอหญ้าต้องดูแลตัวเองนะลูก ห้ามอดข้าว ห้ามนอนดึก แล้วอย่าลืมโทรหาแม่กับน้าพรด้วยนะกอหญ้า” “ค่ะแม่ แม่กับน้าพรก็ต้องดูแลตัวเองนะคะ ถ้าหยุดเสาร์อาทิตย์ หนูรีบกลับนะคะแม่” “จ้ะลูก” วาสนา เพียงพร รวมถึงภีมภพมาส่งญารินดาตั้งแต่เช้า จากนั้นก็ช่วยจัดของ พอบ่ายก็ไปซื้อของที่จำเป็นเพิ่มเติม ก่อนจะทานอาหารเย็นกันที่ร้านใกล้ๆ กับหอพัก “น้าภพห้ามขับรถเร็วนะคะ” เพราะเกือบสามเดือนที่ผ่านมาญารินดามักจะไปไหนมาไหนกับภีมภพเกือบจะตลอดเลยรู้ว่าชายหนุ่มนั้นขับรถค่อนข้างจะเร็ว “ไม่เร็วหรอกกอหญ้า น้าขับตามกฎหมายกำหนด ไม่เคยโดนใบสั่งสักที” “ก็น้าภพรู้ว่าตรงไหนมีกล้อง” หญิงสาวรู้ทัน “ไม่ต้องห่วงหรอกกอหญ้า น้าจะช่วยปรามให้เอง” เพียงพรก็รู้เรื่องการขับรถของน้องชายเป็นอย่างดี สัปดาห์แรกที่มาเรียนญารินดารู้สึกว่าการเรียนระดับมหาวิทยาลัยนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด มันต่างจากเดิมมาก เธอต้องรับผิดชอบทั้งการเรียนและการใช้ชีวิต และต้องบาลานซ์ทุกอย่างให้ลงตัว จากที่คิดจะกลับบ้านช่วงสุดสัปดาห์ก็ทำไม่ได้ “น้าวาสครับ กอหญ้าบอกหรือเปล่าว่าจะให้ไปรีบกี่โมง” ภีมภพรอสายจากญารินดาตั้งแต่เย็นวันศุกร์จนถึงเช้าวันเสาร์ หญิงสาวก็ยังไม่โทรมาสักที “กอหญ้าโทรมาบอกน้าเมื่อวานแล้วค่ะคุณภพ ที่มหาลัยมีกิจกรรมรับน้องเลยไม่ได้กลับบ้าน” “อ๋อ ครับ” ภีมภพพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็ยังรู้สึกห่วงคนที่เคยอยู่ข้างกายมาตลอดสามเดือน ผ่านมาสองสัปดาห์แล้วที่ญารินดาไม่กลับบ้านเพราะทั้งเรียนทั้งกิจกรรม วาสนาพยายามเข้าใจลูกสาวเพราะทุกวันลูกสาวจะโทรศัพท์มารายงานตลอดว่าในแต่ละวันทำอะไรบ้าง คนเป็นแม่ก็เลยไม่ห่วงมากเท่าไหร่ แต่คนที่เดือดร้อนที่สุดก็คงจะเป็นภีมภพ เพราะเมื่อไม่มีเธออยู่ชีวิตของเขาก็ไม่สดใสอย่างเคย ชายหนุ่มกลายเป็นคนเก็บตัวและพูดน้อย ไม่ค่อยมีลูกน้องคนไหนอยากเข้าใกล้เพาะอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของเจ้านาย พอทำงานเสร็จทุกคนก็พากันหายหัวไปไหม วันอาทิตย์เป็นวันหยุดของร้าน ถ้าเป็นแต่ก่อนเขากับลูกน้องก็พากันมานั่งเล่น คุยเล่น และมาดูหนังที่บ้านของชายหนุ่ม แต่วันนี้มีเพียงเขาคนเดียวที่นั่งเหงา พี่สาวกับน้าวาสก็พากันไปทำบุญที่วัดใกล้หมู่บ้านตั้งแต่เช้า “กอหญ้านะ กอหญ้า ไหนว่าจะกลับบ้านทุกอาทิตย์” ภีมภพดูรูปถ่ายของหญิงสาวที่แอบถ่ายไว้แล้วก็ยิ่งหงุดหงิด “กรุงเทพ สุพรรณ ใกล้นิดเดียว” เมื่อคิดได้ชายหนุ่มก็รีบขับรถออกจากบ้านหลังเล็กไปโดยเร็ว ภีมภพนั่งอยู่บนรถที่จอดอยู่หน้าหอพัก กำลังพยายามคิดหาคำคำพูดว่าจะบอกกับเธอยังไงที่อยู่ ๆ ก็มาหาเธอถึงนี้ “ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะกระจกทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตัว “น้าภพ” เสียงที่คุ้นเคยส่งผลให้คนตัวโตยิ้มกว้าง “กอหญ้า” “น้าภพมาทำอะไรที่นี่คะ มาหาหนูหรือเปล่าคะ แล้วแม่กับน้าพรมาไหม” “น้ามาคนเดียวพอดีมาทำธุระเลยแวะมาหา แม่กับน้าพรไปทำบุญที่วัด” “หนูขอโทษนะคะ ไม่ได้กลับบ้านอย่างที่บอกไว้แต่แรก” หญิงสาวรู้สึกผิดที่ทำตามคำพูดไม่ได้ “ไม่เป็นไร แล้วตอนนี้ปรับตัวได้หรือยัง” “ก็พยายามอยู่ค่ะ ช่วงนี้กิจกรรมเยอะเลยไม่มีเวลากลับบ้านเลย” “น้าพอเข้าใจ” เขาเองก็เคยผ่านช่วงเวลานี้มาก่อนเลยเข้าใจเธอมากกว่าใคร “น้าภพขึ้นไปบนห้องก่อนไหมคะ กินข้าวมาหรือยังคะ” “ยังเลย ว่าจะให้กอหญ้าพาไปกิน” “ได้เลยค่ะ ขอเอาหนังสือไปเก็บก่อนนะคะ น้าภพขับรถมาเหนื่อยๆ ไปล้างหน้าก่อนไหม” “น้าขึ้นไปได้เหรอครับ” “ได้สิคะ น้าภพเป็นผู้ปกครองของหนู เจ้าของหอไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ” ชายหนุ่มฟังแล้วแทบสะอึกกับคำว่าผู้ปกครอง เพราะคำนั้นทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถรู้สึกกับเธอเป็นอื่นไปได้เลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม