“เรื่องงานหมั้นแม่จัดการเรียบร้อยแล้วนะจ๊ะ สองคนไม่ต้องกังวล เราจะจัดที่บ้านของลูกจัน เป็นงานแบบอบอุ่น เชิญแขกผู้ใหญ่ เพื่อนสนิทของสองคน ส่วนสื่อเราคงห้ามไม่ได้ แค่เตรียมตัวเอาไว้เผื่อมีการถ่ายรูปหรือสัมภาษณ์หลังจบงาน”
อัณณา อดีตนักข่าวสายบันเทิงร่ายยาวให้ลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้ฟังบนโต๊ะอาหารมื้อเย็น ผู้ใหญ่ทั้งสี่คนมีใบหน้ายิ้มแย้มสบายใจ ในขณะที่ปัณณธียังคงมีสีหน้าเรียบเฉยราวกับไม่รู้ร้อนรู้หนาวจนชิดจันทร์อดหมั่นไส้ไม่ได้
“เด็ก ๆ ว่าไงกันจ๊ะ รายชื่อแขกที่แม่ส่งให้โอเคหรือเปล่า อยากเชิญใครเพิ่มก็บอกแม่เลยนะ พรุ่งนี้การ์ดเสร็จแน่นอน เอาไปแจกกันได้เลย ส่วนแขกผู้ใหญ่พ่อแม่จะไปเชิญให้เอง ดีไหม”
คนเป็นแม่ยังคงพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น ราวกับการหมั้นหมายในครั้งนี้มันเกิดขึ้นจากความรักของเธอและเขาอย่างไรอย่างนั้น
“เอาตามที่แม่ว่าเหมาะสมเลยครับ ผมยังไงก็ได้”
ปัณณธีตอบรับคนเป็นแม่ ใบหน้าเฉยชาไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกอื่นใด ต่างจากชายผู้คลั่งรักที่มีสายตาเปี่ยมสุขต่อหน้าสื่อเมื่อช่วงบ่ายเป็นคนละคน
“แล้วลูกจันล่ะจ๊ะ ต้องการอะไรเพิ่มเติมบอกป้าได้เลยนะลูก”
“ลูกจันโอเคค่ะคุณป้า”
เธออยากจบเรื่องบ้า ๆ นี้เสียที อยากจะให้ถึงเวลาถอนหมั้นให้รู้แล้วรู้รอด จะได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมอย่างที่เคยมี เพราะตอนนี้เธอร้อนใจจะแย่เนื่องจากยังไม่สามารถติดต่อคนรักได้เลย
“ตื่นเต้นกันไหมจ๊ะ นี่แม่ตื่นเต้นจะแย่แล้ว”
ยังคงเป็นอัณณาที่พยายามทำให้บรรยากาศของหนุ่มสาวดีขึ้น
“แม่ครับ งานหมั้นของผมกับลูกจันมันก็แค่งานหมั้นปลอม ๆ แค่หนึ่งปีก็ถอนหมั้นแล้ว แม่จะตื่นเต้นทำไมครับ เราสองคนไม่ได้หมั้นและจะแต่งงานกันจริง ๆ เสียเมื่อไร”
อัณณาตวัดสายตามองลูกชายจอมเหลวไหลด้วยสายตาขุ่นเคือง แต่พ่อตัวดีก็ยังไม่สลด
“ผมพูดเรื่องจริงนี่ครับแม่”
“หุบปากไปเลยเจ้าปัณณ์ งานหมั้นมันเป็นเรื่องจริง ไม่ว่าลูกจะรู้สึกยังไงต่อกันแต่ก็ถือเป็นการประกาศให้ทุกคนในสังคมได้รู้แล้วว่าสองคนหมั้นหมายกัน อย่างน้อยก็ตั้งหนึ่งปีที่จะต้องอยู่ในสถานะคู่หมั้น แล้วแม่ขอห้ามไม่ให้แกทำตัวเหลวไหลนอนกับผู้หญิงไปทั่วเหมือนเดิมเด็ดขาด ถ้าแกทำอะไรให้เป็นข่าวฉาวหรือทำอะไรไม่รักษาหน้าคู่หมั้นของตัวเอง แม่จะจัดการกับแกขั้นเด็ดขาด”
ปัณณธีอ้าปากค้าง เบิกตากว้างตกใจ งานหมั้นจอมปลอมครั้งนี้ฝ่ายหญิงเป็นคนต้องการเอง แล้วจะมาบังคับให้เขาหยุดใช้ชีวิตแบบเดิม มันจะเป็นไปได้อย่างไร แบบนี้ฆ่าเขาให้ตายเสียยังดีกว่า
“แม่ครับ...”
“ไม่ต้องมาโอดครวญ สร้างปัญหาไว้เองก็ต้องรับผลจากการกระทำให้ได้ ต่อไปเลิกทำตัวแบบเดิม ตลอดเวลาที่ยังหมั้นกันอยู่ห้ามแตะต้องผู้หญิงคนอื่นเด็ดขาด ถ้าไม่ฟังกันล่ะก็ ได้เห็นดีกับแม่แน่”
“ครับแม่ ทราบแล้วครับ”
น้ำเสียงยานคางอย่างคนเบื่อหน่ายถึงขีดสุดทำชิดจันทร์ยิ้มเยาะมุมปาก แม้จะเพียงชั่ววินาทีสั้น ๆ แต่คนตาไวที่คอยเหลือบมองใบหน้าสวยงามเสมอก็ทันได้เห็น
ปัณณธีกัดกรามกรอด ดวงตาวาววับราวกับมีลูกไฟอยู่ในนั้น นึกคาดโทษคู่หมั้นตัวเองในใจ ที่เขาต้องตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้ก็เพราะเธอคนเดียว เพราะเธอทั้งปากเสียและยั่วยวนเขาในเวลาเดียวกันจนตบะแตก จับเธอจูบในสถานที่ไม่เหมาะสม เรื่องถึงมาลงเอยแบบนี้
อย่าคิดว่าเธอจะรอดนะ อย่างไรหนึ่งปีเต็มต่อจากนี้ เธอต้องได้ทำหน้าที่คู่หมั้นจนสาแก่ใจเขาแน่ เพราะเขาจะไม่ยอมเสียเวลาของช่วงชีวิตแสนอิสระไปอย่างเปล่าประโยชน์เด็ดขาด
หลังจากที่รัฐปกซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ เพื่อนของเขาก็ส่งคลิปที่ผู้ชายคนนั้นสัมภาษณ์ออกสื่อให้ดูทันที
เมื่อเปิดดูแล้วถึงกับกำมือถือแน่น กัดกรามกรอด คว้าหมอนปาอัดผนังระบายอารมณ์กรุ่นโกรธ
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมผู้ชายที่จูบแฟนของเขาถึงออกมาแถลงข่าวแบบนั้น มันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ เขามั่นใจว่าคนรักไม่มีทางหลอกเขาได้ แถมหมอนั่นยังประกาศจะหมั้นหมายกับคนรักของเขาอีกต่างหาก
“คุณรัฐ เป็นอะไรไปคะ”
ร่างบางเปลือยเปล่าลุกขึ้นมากอดร่างใหญ่ เอาหน้าซบแผ่นหลังกว้าง ฟังเสียงหัวใจเต้นกระหน่ำแล้วรู้ได้ทันทีว่าเขากำลังโกรธ
“ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันประกาศว่าจะหมั้นกับลูกจัน”
น้ำทิพย์ยิ้มมุมปาก ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นตกใจ
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้คะ หรือว่าที่จริงแล้วคุณลูกจันกำลังคบกับเขาอยู่”
“อย่าพูดจามั่ว ๆ นะทิพย์ ผมไม่ชอบ ลูกจันของผมไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น”
ดวงตากลมเบิกกว้างวาวโรจน์ เธอกัดฟัน พยายามปรับลมหายใจให้เป็นปกติ เมื่อเขาเอาแต่คอยยกยอผู้หญิงที่รักปานดวงใจคนนั้นแทบตลอดเวลา ทั้งที่มีเธอยืนหัวโด่อยู่ในชีวิตของเขาอีกทั้งคน
“ทิพย์ขอโทษค่ะ ทิพย์แค่คิดว่าทำไมผู้ชายคนนั้นถึงกล้าประกาศว่าจะหมั้นกับคุณลูกจันได้ถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริง”
รัฐปกจับแขนทั้งสองข้างของเธอออกจากเอวสอบ แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ก่อนจะคว้าเสื้อผ้าทั้งหมดลงมากองบนเตียง
“จัดกระเป๋า ผมจะกลับแล้ว”
“ทำไมคะคุณรัฐ เรายังเหลือสัมมนาอีกตั้งหลายวัน”
“คุณจะอยู่ก็อยู่ แต่ผมจะกลับ มีคนประกาศว่าจะหมั้นกับแฟนผมเสาร์นี้ จะให้ผมอยู่สัมมนายังไงไหว”
“คุณรัฐจะทำอะไรคะ จะไปงานหมั้นเหรอคะ”
“ใช่ ผมจะไปร่วมงานหมั้นของแฟนตัวเอง”
งานหมั้นที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดของปีถูกเนรมิตขึ้นในคฤหาสน์หลังใหญ่ของดาราสาว สวนหน้าบ้านมีซุ้มทางเดินดอกไม้และแบ็กดร็อปขนาดใหญ่ที่ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้นำเข้าที่มีนางเอกเป็นดอกกุหลาบขาวส่งกลิ่นหอมฟุ้งทั่วบริเวณ
โถงกลางบ้านถูกจัดเป็นสถานที่ทำพิธีหมั้นหมาย โซฟาหลุยส์สีทองราคาแพงวางเรียงเอาไว้เบื้องหลังพรมขนสัตว์ที่มีพานสินสอดทองหมั้นวางเรียงรายเต็มบริเวณ
เบื้องหลังเป็นฉากผ้าสีขาวประดับด้วยซุ้มดอกไม้ธีมเดียวกันกับด้านนอก ส่งให้งานในวันนี้ดูหรูหราชวนฝัน
แต่สิ่งที่ขัดกับบรรยากาศสวยงามแสนโรแมนติกคือหนุ่มสาวที่นั่งข้างกันอยู่บนพรมขนสัตว์ สีหน้าท่าทางช่างขัดกับสตอรี่รักหวานฉ่ำเสียเหลือเกิน
ชิดจันทร์ในชุดไทยบรมพิมาน เสื้อตัวในสีครีม สไบและผ้านุ่งปักวิจิตรสีทองอร่าม เข็มขัด ทับทรวง สังวาลย์ ล้วนเป็นทองแท้ ปิ่นปักผมทองสองชิ้นปักคู่กับดอกจำปีนับสิบอยู่บนผมเกล้ามวยต่ำส่งให้ใบหน้าดูสวยหวานราวนางฟ้า แต่ริมฝีปากไม่ได้ประดับรอยยิ้ม แถมดวงตากลมโตที่ตกแต่งเครื่องสำอางราคาแพงยังบ่งบอกความอึดอัด
ไม่ต่างจากชายหนุ่มในชุดสูทสากลสีครีมผู้ซึ่งไม่กี่วันก่อนเป็นผู้สร้างสตอรี่รักหวานฉ่ำกลางวงสัมภาษณ์ แต่บัดนี้ใบหน้าหล่อเหลากลับเฉยชา แววตาไร้ความรู้สึกจนน่าแปลกใจ
ช่างภาพและนักข่าวต่างนั่งประจำที่เพื่อเตรียมตัวเก็บภาพในพิธีหมั้นที่กำลังจะเกิดขึ้น ชิดจันทร์เหลือบมองเพื่อนรักทั้งสามคนที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็ได้รับกำลังใจเป็นรอยยิ้ม แม้อีกคนจะมีดวงตาเศร้าสร้อยจนน่าใจหายก็ตาม
พิธีมงคลดำเนินไปจนถึงขั้นตอนการสวมแหวนหมั้น ปัณณธีหยิบแหวนเพชรน้ำงามเม็ดใหญ่สมฐานะ มืออีกข้างจับมือซ้ายเย็นเยียบสั่นเทาของชิดจันทร์ขึ้นมา แหวนวงสวยจดจ่ออยู่ที่ปลายนิ้วนาง แต่กลับต้องหยุดชะงักเมื่ออยู่ ๆ ก็มีชายหนุ่มรูปหล่อเดินดุ่ม ๆ เข้ามา
“ผมไม่ยอมให้ลูกจันหมั้น”
ชิดจันทร์เบิกตากว้าง มองหน้าคนรักหนุ่มด้วยความตกใจ หลายวันที่ผ่านมาเธอติดต่อเขาไม่ได้เลย รู้แค่ว่าเขาสัมมนาอยู่ที่นิวยอร์ก ยังไม่ถึงเวลาเดินทางกลับไทยด้วยซ้ำ แล้วทำไมเขาถึงมาปรากฏตัวที่นี่
ทุกคนในงานต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจ นักข่าวยกกล้องขึ้นบันทึกภาพ บ้างบันทึกเป็นวิดีโอทันทีที่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น
“คุณต้องการอะไร ทำไมถึงเข้ามาทำลายพิธีหมั้นของคนอื่น”
หมอชยุตม์และปุณณิธิเข้ามากันชายหนุ่มรูปหล่อที่คุ้นหน้ากันดีในวงสังคมให้ออกห่างจากบริเวณพิธี
“ผมเป็นแฟนของลูกจัน”
เสียงอื้ออึงของเหล่านักข่าวทำเอาทุกคนตกใจ ชิดจันทร์จึงลุกขึ้นคว้าแขนของคนรักเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก
“ลูกจันขอตัวเดี๋ยวนะคะ”
“เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงบอกว่าเป็นแฟนของน้องลูกจันล่ะคะ”
นักข่าวคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมาท่ามกลางความงุนงงและตกใจของทุกคนที่ยังจับต้นชนปลายและทำอะไรไม่ถูก เว้นเพียงเพื่อนรักทั้งสามคนของชิดจันทร์ที่รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร
“เอ่อ ใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ ผมว่าอาจมีการเข้าใจอะไรผิด ไว้ให้ลูกจันเคลียร์ทุกอย่างก่อนค่อยว่ากันนะครับ”
ทอฝันและอัณณานั่งจับมือของสามีตัวเองแน่น รู้สึกใจคอไม่ดี เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้เลยว่าชิดจันทร์มีคนรัก
“พวกแกนั่งอยู่ตรงนี้กันก่อนนะ ฉันขอไปดูยัยลูกจันก่อน”
เพียงขิมกระซิบพี่ชายฝาแฝดและมัสลิน แล้วรีบเดินตามเพื่อนรักไปยังห้องนั่งเล่น ทุกสิ่งที่เธอทำอยู่ในสายตาของชยุตม์ตลอดเวลา
“ปุณณ์ ฉันฝากตรงนี้นายก่อน เดี๋ยวฉันมา”
ยังไม่ทันที่เพียงขิมจะเปิดประตูเข้าไปในห้องนั่งเล่น ก็ถูกลากแขนออกมายังห้องกินข้าวเสียก่อน
“นี่ คุณ ลากฉันมาที่นี่ทำไมเนี่ย ฉันจะเข้าไปดูยัยลูกจัน”