ตอนที่ 9 เซอร์ไพรส์

1815 คำ
“เรื่องงานหมั้นแม่จัดการเรียบร้อยแล้วนะจ๊ะ สองคนไม่ต้องกังวล เราจะจัดที่บ้านของลูกจัน เป็นงานแบบอบอุ่น เชิญแขกผู้ใหญ่ เพื่อนสนิทของสองคน ส่วนสื่อเราคงห้ามไม่ได้ แค่เตรียมตัวเอาไว้เผื่อมีการถ่ายรูปหรือสัมภาษณ์หลังจบงาน” อัณณา อดีตนักข่าวสายบันเทิงร่ายยาวให้ลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้ฟังบนโต๊ะอาหารมื้อเย็น ผู้ใหญ่ทั้งสี่คนมีใบหน้ายิ้มแย้มสบายใจ ในขณะที่ปัณณธียังคงมีสีหน้าเรียบเฉยราวกับไม่รู้ร้อนรู้หนาวจนชิดจันทร์อดหมั่นไส้ไม่ได้ “เด็ก ๆ ว่าไงกันจ๊ะ รายชื่อแขกที่แม่ส่งให้โอเคหรือเปล่า อยากเชิญใครเพิ่มก็บอกแม่เลยนะ พรุ่งนี้การ์ดเสร็จแน่นอน เอาไปแจกกันได้เลย ส่วนแขกผู้ใหญ่พ่อแม่จะไปเชิญให้เอง ดีไหม” คนเป็นแม่ยังคงพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น ราวกับการหมั้นหมายในครั้งนี้มันเกิดขึ้นจากความรักของเธอและเขาอย่างไรอย่างนั้น “เอาตามที่แม่ว่าเหมาะสมเลยครับ ผมยังไงก็ได้” ปัณณธีตอบรับคนเป็นแม่ ใบหน้าเฉยชาไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกอื่นใด ต่างจากชายผู้คลั่งรักที่มีสายตาเปี่ยมสุขต่อหน้าสื่อเมื่อช่วงบ่ายเป็นคนละคน “แล้วลูกจันล่ะจ๊ะ ต้องการอะไรเพิ่มเติมบอกป้าได้เลยนะลูก” “ลูกจันโอเคค่ะคุณป้า” เธออยากจบเรื่องบ้า ๆ นี้เสียที อยากจะให้ถึงเวลาถอนหมั้นให้รู้แล้วรู้รอด จะได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมอย่างที่เคยมี เพราะตอนนี้เธอร้อนใจจะแย่เนื่องจากยังไม่สามารถติดต่อคนรักได้เลย “ตื่นเต้นกันไหมจ๊ะ นี่แม่ตื่นเต้นจะแย่แล้ว” ยังคงเป็นอัณณาที่พยายามทำให้บรรยากาศของหนุ่มสาวดีขึ้น “แม่ครับ งานหมั้นของผมกับลูกจันมันก็แค่งานหมั้นปลอม ๆ แค่หนึ่งปีก็ถอนหมั้นแล้ว แม่จะตื่นเต้นทำไมครับ เราสองคนไม่ได้หมั้นและจะแต่งงานกันจริง ๆ เสียเมื่อไร” อัณณาตวัดสายตามองลูกชายจอมเหลวไหลด้วยสายตาขุ่นเคือง แต่พ่อตัวดีก็ยังไม่สลด “ผมพูดเรื่องจริงนี่ครับแม่” “หุบปากไปเลยเจ้าปัณณ์ งานหมั้นมันเป็นเรื่องจริง ไม่ว่าลูกจะรู้สึกยังไงต่อกันแต่ก็ถือเป็นการประกาศให้ทุกคนในสังคมได้รู้แล้วว่าสองคนหมั้นหมายกัน อย่างน้อยก็ตั้งหนึ่งปีที่จะต้องอยู่ในสถานะคู่หมั้น แล้วแม่ขอห้ามไม่ให้แกทำตัวเหลวไหลนอนกับผู้หญิงไปทั่วเหมือนเดิมเด็ดขาด ถ้าแกทำอะไรให้เป็นข่าวฉาวหรือทำอะไรไม่รักษาหน้าคู่หมั้นของตัวเอง แม่จะจัดการกับแกขั้นเด็ดขาด” ปัณณธีอ้าปากค้าง เบิกตากว้างตกใจ งานหมั้นจอมปลอมครั้งนี้ฝ่ายหญิงเป็นคนต้องการเอง แล้วจะมาบังคับให้เขาหยุดใช้ชีวิตแบบเดิม มันจะเป็นไปได้อย่างไร แบบนี้ฆ่าเขาให้ตายเสียยังดีกว่า “แม่ครับ...” “ไม่ต้องมาโอดครวญ สร้างปัญหาไว้เองก็ต้องรับผลจากการกระทำให้ได้ ต่อไปเลิกทำตัวแบบเดิม ตลอดเวลาที่ยังหมั้นกันอยู่ห้ามแตะต้องผู้หญิงคนอื่นเด็ดขาด ถ้าไม่ฟังกันล่ะก็ ได้เห็นดีกับแม่แน่” “ครับแม่ ทราบแล้วครับ” น้ำเสียงยานคางอย่างคนเบื่อหน่ายถึงขีดสุดทำชิดจันทร์ยิ้มเยาะมุมปาก แม้จะเพียงชั่ววินาทีสั้น ๆ แต่คนตาไวที่คอยเหลือบมองใบหน้าสวยงามเสมอก็ทันได้เห็น ปัณณธีกัดกรามกรอด ดวงตาวาววับราวกับมีลูกไฟอยู่ในนั้น นึกคาดโทษคู่หมั้นตัวเองในใจ ที่เขาต้องตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้ก็เพราะเธอคนเดียว เพราะเธอทั้งปากเสียและยั่วยวนเขาในเวลาเดียวกันจนตบะแตก จับเธอจูบในสถานที่ไม่เหมาะสม เรื่องถึงมาลงเอยแบบนี้ อย่าคิดว่าเธอจะรอดนะ อย่างไรหนึ่งปีเต็มต่อจากนี้ เธอต้องได้ทำหน้าที่คู่หมั้นจนสาแก่ใจเขาแน่ เพราะเขาจะไม่ยอมเสียเวลาของช่วงชีวิตแสนอิสระไปอย่างเปล่าประโยชน์เด็ดขาด หลังจากที่รัฐปกซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ เพื่อนของเขาก็ส่งคลิปที่ผู้ชายคนนั้นสัมภาษณ์ออกสื่อให้ดูทันที เมื่อเปิดดูแล้วถึงกับกำมือถือแน่น กัดกรามกรอด คว้าหมอนปาอัดผนังระบายอารมณ์กรุ่นโกรธ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมผู้ชายที่จูบแฟนของเขาถึงออกมาแถลงข่าวแบบนั้น มันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ เขามั่นใจว่าคนรักไม่มีทางหลอกเขาได้ แถมหมอนั่นยังประกาศจะหมั้นหมายกับคนรักของเขาอีกต่างหาก “คุณรัฐ เป็นอะไรไปคะ” ร่างบางเปลือยเปล่าลุกขึ้นมากอดร่างใหญ่ เอาหน้าซบแผ่นหลังกว้าง ฟังเสียงหัวใจเต้นกระหน่ำแล้วรู้ได้ทันทีว่าเขากำลังโกรธ “ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันประกาศว่าจะหมั้นกับลูกจัน” น้ำทิพย์ยิ้มมุมปาก ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นตกใจ “ทำไมถึงเป็นแบบนี้คะ หรือว่าที่จริงแล้วคุณลูกจันกำลังคบกับเขาอยู่” “อย่าพูดจามั่ว ๆ นะทิพย์ ผมไม่ชอบ ลูกจันของผมไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น” ดวงตากลมเบิกกว้างวาวโรจน์ เธอกัดฟัน พยายามปรับลมหายใจให้เป็นปกติ เมื่อเขาเอาแต่คอยยกยอผู้หญิงที่รักปานดวงใจคนนั้นแทบตลอดเวลา ทั้งที่มีเธอยืนหัวโด่อยู่ในชีวิตของเขาอีกทั้งคน “ทิพย์ขอโทษค่ะ ทิพย์แค่คิดว่าทำไมผู้ชายคนนั้นถึงกล้าประกาศว่าจะหมั้นกับคุณลูกจันได้ถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริง” รัฐปกจับแขนทั้งสองข้างของเธอออกจากเอวสอบ แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ก่อนจะคว้าเสื้อผ้าทั้งหมดลงมากองบนเตียง “จัดกระเป๋า ผมจะกลับแล้ว” “ทำไมคะคุณรัฐ เรายังเหลือสัมมนาอีกตั้งหลายวัน” “คุณจะอยู่ก็อยู่ แต่ผมจะกลับ มีคนประกาศว่าจะหมั้นกับแฟนผมเสาร์นี้ จะให้ผมอยู่สัมมนายังไงไหว” “คุณรัฐจะทำอะไรคะ จะไปงานหมั้นเหรอคะ” “ใช่ ผมจะไปร่วมงานหมั้นของแฟนตัวเอง” งานหมั้นที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดของปีถูกเนรมิตขึ้นในคฤหาสน์หลังใหญ่ของดาราสาว สวนหน้าบ้านมีซุ้มทางเดินดอกไม้และแบ็กดร็อปขนาดใหญ่ที่ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้นำเข้าที่มีนางเอกเป็นดอกกุหลาบขาวส่งกลิ่นหอมฟุ้งทั่วบริเวณ โถงกลางบ้านถูกจัดเป็นสถานที่ทำพิธีหมั้นหมาย โซฟาหลุยส์สีทองราคาแพงวางเรียงเอาไว้เบื้องหลังพรมขนสัตว์ที่มีพานสินสอดทองหมั้นวางเรียงรายเต็มบริเวณ เบื้องหลังเป็นฉากผ้าสีขาวประดับด้วยซุ้มดอกไม้ธีมเดียวกันกับด้านนอก ส่งให้งานในวันนี้ดูหรูหราชวนฝัน แต่สิ่งที่ขัดกับบรรยากาศสวยงามแสนโรแมนติกคือหนุ่มสาวที่นั่งข้างกันอยู่บนพรมขนสัตว์ สีหน้าท่าทางช่างขัดกับสตอรี่รักหวานฉ่ำเสียเหลือเกิน ชิดจันทร์ในชุดไทยบรมพิมาน เสื้อตัวในสีครีม สไบและผ้านุ่งปักวิจิตรสีทองอร่าม เข็มขัด ทับทรวง สังวาลย์ ล้วนเป็นทองแท้ ปิ่นปักผมทองสองชิ้นปักคู่กับดอกจำปีนับสิบอยู่บนผมเกล้ามวยต่ำส่งให้ใบหน้าดูสวยหวานราวนางฟ้า แต่ริมฝีปากไม่ได้ประดับรอยยิ้ม แถมดวงตากลมโตที่ตกแต่งเครื่องสำอางราคาแพงยังบ่งบอกความอึดอัด ไม่ต่างจากชายหนุ่มในชุดสูทสากลสีครีมผู้ซึ่งไม่กี่วันก่อนเป็นผู้สร้างสตอรี่รักหวานฉ่ำกลางวงสัมภาษณ์ แต่บัดนี้ใบหน้าหล่อเหลากลับเฉยชา แววตาไร้ความรู้สึกจนน่าแปลกใจ ช่างภาพและนักข่าวต่างนั่งประจำที่เพื่อเตรียมตัวเก็บภาพในพิธีหมั้นที่กำลังจะเกิดขึ้น ชิดจันทร์เหลือบมองเพื่อนรักทั้งสามคนที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็ได้รับกำลังใจเป็นรอยยิ้ม แม้อีกคนจะมีดวงตาเศร้าสร้อยจนน่าใจหายก็ตาม พิธีมงคลดำเนินไปจนถึงขั้นตอนการสวมแหวนหมั้น ปัณณธีหยิบแหวนเพชรน้ำงามเม็ดใหญ่สมฐานะ มืออีกข้างจับมือซ้ายเย็นเยียบสั่นเทาของชิดจันทร์ขึ้นมา แหวนวงสวยจดจ่ออยู่ที่ปลายนิ้วนาง แต่กลับต้องหยุดชะงักเมื่ออยู่ ๆ ก็มีชายหนุ่มรูปหล่อเดินดุ่ม ๆ เข้ามา “ผมไม่ยอมให้ลูกจันหมั้น” ชิดจันทร์เบิกตากว้าง มองหน้าคนรักหนุ่มด้วยความตกใจ หลายวันที่ผ่านมาเธอติดต่อเขาไม่ได้เลย รู้แค่ว่าเขาสัมมนาอยู่ที่นิวยอร์ก ยังไม่ถึงเวลาเดินทางกลับไทยด้วยซ้ำ แล้วทำไมเขาถึงมาปรากฏตัวที่นี่ ทุกคนในงานต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจ นักข่าวยกกล้องขึ้นบันทึกภาพ บ้างบันทึกเป็นวิดีโอทันทีที่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น “คุณต้องการอะไร ทำไมถึงเข้ามาทำลายพิธีหมั้นของคนอื่น” หมอชยุตม์และปุณณิธิเข้ามากันชายหนุ่มรูปหล่อที่คุ้นหน้ากันดีในวงสังคมให้ออกห่างจากบริเวณพิธี “ผมเป็นแฟนของลูกจัน” เสียงอื้ออึงของเหล่านักข่าวทำเอาทุกคนตกใจ ชิดจันทร์จึงลุกขึ้นคว้าแขนของคนรักเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก “ลูกจันขอตัวเดี๋ยวนะคะ” “เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงบอกว่าเป็นแฟนของน้องลูกจันล่ะคะ” นักข่าวคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมาท่ามกลางความงุนงงและตกใจของทุกคนที่ยังจับต้นชนปลายและทำอะไรไม่ถูก เว้นเพียงเพื่อนรักทั้งสามคนของชิดจันทร์ที่รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร “เอ่อ ใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ ผมว่าอาจมีการเข้าใจอะไรผิด ไว้ให้ลูกจันเคลียร์ทุกอย่างก่อนค่อยว่ากันนะครับ” ทอฝันและอัณณานั่งจับมือของสามีตัวเองแน่น รู้สึกใจคอไม่ดี เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้เลยว่าชิดจันทร์มีคนรัก “พวกแกนั่งอยู่ตรงนี้กันก่อนนะ ฉันขอไปดูยัยลูกจันก่อน” เพียงขิมกระซิบพี่ชายฝาแฝดและมัสลิน แล้วรีบเดินตามเพื่อนรักไปยังห้องนั่งเล่น ทุกสิ่งที่เธอทำอยู่ในสายตาของชยุตม์ตลอดเวลา “ปุณณ์ ฉันฝากตรงนี้นายก่อน เดี๋ยวฉันมา” ยังไม่ทันที่เพียงขิมจะเปิดประตูเข้าไปในห้องนั่งเล่น ก็ถูกลากแขนออกมายังห้องกินข้าวเสียก่อน “นี่ คุณ ลากฉันมาที่นี่ทำไมเนี่ย ฉันจะเข้าไปดูยัยลูกจัน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม