บทที่ 1 คุณหนูผู้เงียบขรึม
ณ จวนสกุลมู่ จวนคหบดีใหญ่แห่งเมืองฉางซุย
จวนหรูหรายิ่งกว่าจวนเจ้าเมือง กินเนื้อที่กว้างขวางกระจายทั้งด้านหลังและด้านข้าง ที่ไร่ที่นานับโฉนดสาส์นตราถึงสามวันจึงจะนับหมด เงินทองในหีบนั่นเล่ามีมากล้นเหลือคณาจนเปรียบได้ว่าหากก้อนใดบุบสามารถนำไปปาหัวหมาได้อย่างไม่เสียดาย รวยจนไม่รู้จะรวยอย่างไร รวยจนขนลุก รวยจนขี้เปรี้ยวเยี่ยวราด
ก้อนทองเล็กเท่าเม็ดก๋วยจี๊ร่วมร้อยเม็ดคือลูกปัดร้อยบนอาภรณ์ของนายหญิงน้อยมู่เหลียน
คุณหนูผู้เพียบพร้อม เคร่งขรึม รักคุณธรรมยิ่งกว่าสิ่งใดในปฐพี
นางสวมอาภรณ์อย่างชนชั้นสูงปักลายไก่ฟ้า ห้อยสายเม็ดประคำทองเม็ดเล็กระโยงระยางเต็มร่างกายไปหมด ช่วยไม่ได้เพราะคนมันรวย จะนำสิ่งใดมาถักเป็นอาภรณ์ก็ได้ในโลกหล้า จริง ๆ แล้วทองคำยังมีอีกมากนัก เอามาดีดแทนลูกหินก็ยังได้
ร่างเพรียวสมส่วนนั่งหลังตรงอยู่ที่ศาลากลางน้ำ คัดอักษรด้วยความตั้งใจอย่างบัณฑิตหญิงผู้เคร่งขรึม ร่างบางยิ้มให้ท่านย่าท่านยายผู้มาคุมนางคัดอักษรด้วยรอยยิ้มอย่างสตรีมีสกุล ริมฝีปากอวบอิ่มกดลึกลงไปพอประมาณ แย้มยิ้มสรวล ยกมือขึ้นปิดป้องริมฝีปากอย่างสตรีชั้นสูงได้รับการอบรมมาอย่างดี
"คัดคัมภีร์เรียบร้อยแล้วรึหลานยาย" ท่านยายเอ่ยขึ้นด้วยเสียงกดต่ำสะกดอารมณ์ รู้สึกเหมือนไม้เรียวในมือกระดิกได้เองราวกับมีชีวิต หากอยู่ใกล้หลานสาวคราใด ไม้เรียวนี้ต้องได้อวดอิทธิฤทธิ์อยู่บ่อยครั้ง
มันคือไม้กำราบคนดื้อ
"เจ้าค่ะท่านยาย" เสียงสั่นเครือเหมือนคนรู้สึกผิด ก้มหน้าคัดอักษรอย่างตั้งใจที่สุดเท่าที่จะทำได้
มู่เหลียนวางกระดาษคัดอักษรลงบนโต๊ะ เปิดเผยสู่สายตาท่านยาย กระดาษที่นางจงใจคัด ตั้งใจเขียน เรียนด้วยความพยายาม
ท่านย่ากับท่านยายมิได้ว่ากระไร ได้แต่ยิ้มเจื่อนให้แก่กันอย่างสงวนท่าที
"นี่เรียกว่าตัวอักษรได้หรือ" ท่านย่ากระแอมเบา ๆ กล่าวชมหลานสาว
สิ่งที่เปิดเผยสู่สายตาตรงหน้าไม่ควรเรียกว่าตัวอักษร มันคือความพยายามอันไร้ผลของคำว่าคัดลายมือ
"ข้าคัดอย่างสุดฝีมือเจ้าค่ะ" ร่างเล็กแย้มยิ้ม ตอบออกมาอย่างอารมณ์ดี
"ยายเกรงว่าจะเหมือนสุดฝีเท้าเสียมากกว่า คัดตั้งครึ่งค่อนวัน เหตุใดคัดได้บรรทัดเดียว" ไม้เรียววิเศษเริ่มกระดิก ดิ๊ก ๆ ๆ
ร่างบอบบางน้ำตาเอ่อคลอ ลุกขึ้นยืนอย่างมีจริต ปาดน้ำตาบนใบหน้าตน แสดงความเสียใจอย่างลึกซึ้งเมื่อถูกท่านยายท่านย่าตำหนิว่าใช้เท้าคัดอักษร
ใช้มือคัดอย่างสุดความสามารถ แต่เหตุใดท่านยายจึงหาว่าใช้เท้าคัดอักษรกันเล่า
ฟ้าช่างไร้ดวงตา
บุพการีช่างไร้ความยุติธรรม
"ข้าเสียใจ" นางยอบกายคารวะอย่างอ่อนช้อย เดินลิ่วออกจากเรือนคัดอักษร วิ่งกระชดกระช้อยหนีความเสียใจจากคำว่ากล่าวของญาติผู้ใหญ่
ท่านยายยกยิ้มคราหนึ่ง เห็นหลานสาวแสดงทีท่าเสียใจจนถึงขั้นหลั่งน้ำตา มองตามหลังร่างเล็กเดินลิ่วไปทางป่าท้ายจวน
ท่านยายเท้าสะเอว ควักอาวุธลับรูปดวงดาวออกจากอกเสื้อ ขว้างไปยังหลานสาวผู้เรียบร้อยน่ารัก
วัตถุมีคมแหวกอากาศเข้าหาลำคอเด็กสาว มุ่งสู่จุดตายอย่างไร้ปราณี
ร่างเล็กแสยะยิ้ม เหลือบมองเพียงหางตา ใช้มือค้ำยันพื้นตีลังกาสองรอบ ดีดตัวขึ้นตีลังกากลางอากาศอีกสามครั้ง สะบัดอาภรณ์สูงค่าบนเรือนกายออกทันที เหลือเพียงเสื้อตัวในแขนสั้นกุดเข้ากับกางเกงสีแดงเข้าชุดสวมรองเท้าหนังหุ้มข้อ
"มู่เหลียน หืมมม กลับมาเดี๋ยวนี้นะ เจ้าหนีเที่ยวครั้งก่อน ถูกลงโทษให้คัดอักษรห้าร้อยจบ ยังไม่เข็ดอีกรึ" ท่านยายเดือดดาล ไม้เรียวก็ไม่อาจต้าน ต้องเป็นอาวุธลับถึงจะสาสม แต่กระนั้นก็ไม่อาจหยุดยั้งการหลบหนีของหลานสาวได้
"ไปจับนางมา" เสียงท่านย่าตะโกนไล่หลัง พร้อมไม้เท้าสลักรูปผีเสื้อลอยลิ่วตามหลังหลานสาว
มู่เหลียนกระโดดหลบไปทางซ้าย ตีลังกากลางอากาศอย่างอ่อนช้อยอีกครั้ง แล้วทำท่าประสานมือคารวะท่านผู้เฒ่าทั้งสองกลางอากาศ
ท่านย่า ท่านยาย ซัดอาวุธลับ ซัดไม้เท้าใส่อย่างไร้ปราณี
"ข้าขอออกไปเล่นกับแมวน้ำทะเลสักครู่แล้วจะกลับมาเอง" นั่นคือประโยคบอกเล่าที่แปลว่ามิใช่ประโยคขออนุญาตแต่อย่างใด
มู่เหลียนดีดกายขึ้นบนหลังม้า ควบออกไปนอกกำแพงจวนสกุลมู่ หลังกำแพงมีผู้คุ้มกันร่างบึกบึนรออยู่ก่อนแล้ว
ร่างเล็กควบม้านำหน้าไปทางทะเลตงไห่ นางสวมอาภรณ์ราวกับเด็กชาย น้อยครั้งที่สตรีผู้เงียบขรึมอย่างมู่เหลียนจะสวมกระโปรง
นอกเสียจากถูกบังคับเท่านั้น
เสียงนกหวีดทำจากหยกสีน้ำเงินดังขึ้นหวีดหวิว มือเรียวเทถังใส่ปลาขนาดใหญ่ริมทะเลสองถัง เทไปบนผิวน้ำเงียบสงบ
ไม่นานนัก แมวน้ำทะเลตัวอวบอ้วนสองตัวปรากฎกายขึ้นบนผิวน้ำ กินปลาที่นางเทให้อย่างตะกละตะกลาม
มู่เหลียนนำเชือกนุ่มคล้องคอพวกมัน ร่างเล็กเหยียบยืนบนหลังแมวน้ำทั้งสองตัวด้วยขาคนละข้าง
"ไป๊! ว่ายเร็ว ๆ เจ้าแมวน้ำทะเลอ้วน" ใบหน้างดงามยิ้มอย่างร่าเริงสดใส การหนีออกมาเที่ยวเล่นช่างเพลิดเพลินใจเสียจริง
แม้เกือบต้องทำให้ท่านย่ากับท่านยายเป็นลม แต่นางก็หนีออกมาได้ และหนีออกมาบ่อยเสียด้วย
แมวน้ำสองตัวพานางออกไปโต้คลื่นท่ามกลางสายลมพริ้วไหว ไอทะเลลอยมาตามสายลมทำให้ผมเหนียวแต่ให้ความรู้สึกสดชื่นสดใสในหัวใจดวงน้อย
มู่เหลียนคาดว่ากลับไปคงได้รับโทษคัดคัมภีร์อีกสักห้าร้อยจบ แต่นางก็ไม่เคยคัดจบรอบเลยสักครั้ง
บุตรีเดียวแห่งจวนสกุลมู่ จะทำสิ่งใดก็ได้
หรือคิดว่าข้าจะสน?
ข้าคือมู่เหลียน ...นายหญิงน้อยสกุลมู่ผู้ไม่สนโลก