06 | หนีความจริง

1428 คำ
@เวลา 19:48 น. หลังจากพาลูกสาวเข้าไปนอนในห้อง ไอยลดาก็เดินตรงมาที่ห้องทำงานของนัตตี้ทันที “ทำแบบนี้หมายความว่ายังไงค่ะเจ้” “เรื่องอะไรเหรอ?” “เจ้รู้ดีว่าดาหมายถึงเรื่องอะไร ทำไมเจ้ไม่บอกดาว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเจ้าของแบรนด์นั่น”ไอยลดาเริ่มหัวเสียกับเรื่องที่เจอมา ไม่คิดเลยว่าโลกจะกลมได้ขนาดนี้ “เฮ้อ... เจ้ว่าจริงๆ แล้วก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนะ ดาก็เห็นว่างานทุกอย่างมันก็ราบรื่นดี ดาติดใจตรงไหนงั้นเหรอ” หญิงวัยกลางคนพยายามพูดอย่างใจเย็น เธอเข้าใจดีว่าไอยลดาคิดอะไรอยู่ แต่เธอก็อยากให้ไอยลดายอมรับความจริงและใช้ชีวิตให้มีความสุข และที่สำคัญเธอจะปิดบังเรื่องคิริณไปตลอดไม่ได้ “เจ้ก็รู้ว่าในชีวิตดามีคิริณแค่คนเดียว” ไอยลดาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนลง แววตาของเธอบ่งบอกถึงความกลัว เธอกลัวว่าจะเสียลูกสาวสุดที่รักไป เธอกลัวเขาจะมาพรากลูกสาวไปจากเธอ “เจ้รู้ว่าดาคิดยังไง แต่ดาก็ควรจะเห็นใจลูกด้วย เด็กมันต้องการพ่อต้องการครอบครัว ดารู้มั้ยว่าเพราะอะไรคิริณถึงอยากถ่ายแบบ ทั้งๆ ที่รู้ว่าดาไม่ชอบ” “...” ไอยลดาได้แต่ยืนนิ่ง ในหัวคิดอะไรเต็มหัวไปหมด “คิริณบอกกับเจ้ว่าอยากถ่ายแบบเยอะๆ เพราะอยากให้พ่อเห็นเธอในนิตยสารต่างๆ พ่อจะได้กลับมาหาคิริณ” คนพูดทั้งพูดทั้งสงสารหลาน และเธอพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้หลานมีความสุข ถึงแม้ผู้เป็นแม่จะไม่เห็นด้วยก็ตาม ได้ยินเช่นนั้น... ไอยลดาถึงกับทรุดตัวนั่งลงที่เก้าอี้อย่างหมดเรี่ยวแรง ไม่คิดเลยว่าลูกสาวจะคิดอะไรได้ถึงขนาดนี้ หรือว่ามันถึงเวลาแล้วที่เธอควรบอกให้ลูกรู้ว่าพ่อของเธอคือใคร เฮ้อ..เพียงแค่คิดถึงผู้ชายคนนั้นกับภรรยาของเขาหัวใจของเธอก็ปวดหนึบขึ้นมา ไอยลดาคิดไม่ตกกับเรื่องนี้อยู่หลายวัน วันนี้ก็เหมือนกันที่เธอยืนเหม่อลอยอยู่ในครัว “ดา เจ้ขอคุยอะไรด้วยหน่อย” นัตตี้เดินเข้ามาถามไอยลดาที่กำลังยืนทำกับข้าวอยู่ “ค่ะเจ้ มีอะไรเหรอคะ” “คุณติน่าเธออยากให้คิริณไปถ่ายแบบให้อีก ดาจะว่ายังไง” “...” ไอยลดาหยุดชะงักทันทีกับสิ่งที่ได้ยิน “เจ้แล้วแต่ดานะ แต่เจ้อยากให้ดาคิดดูให้ดีๆ” ไอยลดาได้แต่ยืนคิดทบทวนกับสิ่งที่ได้ยิน เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะทำยังไงดี ถ้าลูกรู้จักพ่อแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นนะ .. @ คฤหาสน์ตระกูลเวลล์ คริสติน่านั่งทำหน้าเคร่งเครียดอยู่ในสวนที่เป็นมุมโปรด เธอพยายามติดต่อนางแบบตัวน้อยไปหลายวันแล้วแต่ก็ไม่มีการตอบรับกลับมาสักที นี่ก็ใกล้จะถึงวันเปิดตัวแล้วด้วย “อะไรทำให้น้องพี่ทำหน้าเคร่งเครียดขนาดนั้น” เสียงของพี่ชายดังขึ้นมาทำให้คริสติน่าละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ไปมองหน้าพี่ชายแทน “เรื่องงานหน่ะค่ะ น้องติดต่อนางแบบตัวน้อยมาถ่ายให้ยังไม่ได้เลย ใกล้จะถึงวันงานแล้วด้วย” “ทำไมเหรอ เขาไม่อยากรับงานหรือแค่ต้องการเรียกร้องค่าตัวเพิ่ม” “ไม่ใช่หรอกค่ะพี่” “ถ้าเขาไม่รับ ก็หาคนอื่นสิ จะไปคิดมากทำไม” ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแล้วยกมือขึ้นวางบนหัวของน้องสาวเหมือนที่ชอบทำ “คนอื่นก็หาได้นะคะ แต่น้องรู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้ยังไงก็ไม่รู้ พี่ดูสิคะ เด็กอะไรไม่รู้น่ารักมากๆ แถมยังพูดเก่งอีกด้วย” คริสติน่าเอ่ยชมด้วยความเอ็นดู และตั้งใจจะเปิดรูปให้พี่ชายดู แต่ยังไม่ทันได้เปิด เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นมา “คริสคะ” คริสเตียนหันไปมองตามเสียงด้วยท่าทางแปลกใจ ที่เห็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายกลับมาเร็วกว่าที่คิด ส่วนคริสติน่าได้แต่กรอกตาใส่แล้วสนใจงานของเธอต่อ “อยู่กับน้องติน่านี่เอง นุชนึกว่าสามีพาสาวที่ไหนมาบ้านตอนนุชไม่อยู่ซะอีก” นุชนาถแกล้งแซวสามีพร้อมรอยยิ้ม แล้วเข้าไปสวมกอดสามีด้วยความคิดถึง “ไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดไม่ใช่เหรอคะ ทำไมกลับมาเร็วจัง หรือจริงๆ แล้วไม่ได้ตั้งใจไปเยี่ยม แต่ตั้งใจไปที่อื่น” “แหม่... น้องติน่าก็ ชอบพูดเล่นอยู่เรื่อยเลยนะคะ” นุชนาถถึงกับหน้าถอดสีเมื่อโดนจี้ใจดำ “ฉันพูดจริงค่ะ ไม่ได้ล้อเล่น เดินทางบ่อยแบบนี้ เมื่อไหร่จะมีลูกสักทีคะ” “ไม่เอาน่าติน่า อย่าพูดถึงเรื่องนี้เลย” คริสเตียนเป็นฝ่ายสงบศึก ก่อนที่เรื่องจะเกินเลยไปมากกว่านี้ “พี่พร้อมอยู่แล้วจ๊ะ ถามพี่ชายติน่าเองดีกว่า ว่าพร้อมมีลูกหรือเปล่า” นุชนาถพูดออกไปอย่างไม่อาย และแอบประชดสามีไปด้วย มันก็จริงทีแรกเธอไม่พร้อมจะมีลูก แต่ตอนนี้เธอจะทำทุกวิธีให้ท้องกับคริสเตียนให้ได้ “หมายความว่ายังไงคะพี่คริส” คริสติน่าหันไปถามพี่ชายด้วยความสงสัย “พี่ไปทำงานดีกว่า น้องอยู่บ้านดูแลคุณแม่ด้วยหล่ะ” คริสเตียนตัดบทแล้วเดินออกไปทันที “น้องติน่าไม่ต้องกลัวว่าจะโดนบังคับแต่งงานหรอกนะจ๊ะ ยังไงพี่ก็ต้องมีหลานให้คุณปู่ให้ได้ ไม่แน่ตอนนี้พี่อาจจะมีแล้วก็ได้” นุชนาถพูดเสียงหวานแล้วลูบที่หน้าท้องตัวเองเบาๆ “มีให้ได้ก่อนเถอะ” คริสติน่ายกยิ้มที่มุมปากก่อนจะรีบเก็บข้าวของกลับเข้าไปข้างใน ไม่สนใจผู้หญิงอีกคน ‘นังเด็กบ้า คิดว่าฉันชอบแกนักหรือไง รอให้ฉันท้องก่อนเถอะ ฉันจะไม่ไว้หน้าแกเลย’ นุชนาถมองตามหลังน้องสามีด้วยท่าทางเกลียดชัง คริสติน่าเป็นคนเดียวที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอ แต่ก็ยังดีที่เธอไม่เคยบอกใคร เพราะเหตุผลง่ายๆ ไม่อยากทำลายครอบครัวของพี่ชาย .. ครืด~~ ครืด~~ เสียงเรียกเข้าดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่เจ้าของเครื่องกลับไม่ว่างที่จะรับสาย เขาเคร่งเครียดกับงานตรงหน้าจนไม่รู้ว่าตอนนี้มันเกือบจะบ่ายสามแล้ว และยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยสักนิด ก๊อก!! ก๊อก!! เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาก่อนจะปรากฏร่างสูงในชุดสูทสีเข้ม เขาคือลูอีส ทาเลอร์ หรือลูซ มาเฟียหนุ่มในคราบนักธุรกิจที่เป็นเพื่อนรักของคริสเตียน และบังเอิญว่าวันนี้เขาผ่านมาทางนี้พอดี ก็เลยแวะเข้ามาทักทายเพื่อนรักสักหน่อย “เฮ้... เคร่งเครียดไปหรือเปล่าเพื่อน” ลูอีสทักทายเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงทะเล้นตามสไตล์ที่มีให้เห็นเฉพาะกลุ่มเพื่อน แต่กับคนทั่วไปเขาจะกลายเป็นคนนิ่งขรึมทันที “มาไงวะ” คริสเตียนถามเพื่อนโดยที่สายตายังคงจับจ้องที่เอกสารตรงหน้า “คุยกับเพื่อนไม่คิดจะมองหน้าเลยเหรอวะ” ลูอีสแกล้งแซวออกไปก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะทำงานของคริสเตียน “นายมีธุระอะไรรีบพูดมาเถอะ ช่วงนี้ฉันงานยุ่งมาก ไม่มีเวลาคุยเรื่องไร้สาระหรอกนะ” “ถ้าการที่เพื่อนมาชวนไปทานข้าวเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับนาย ฉันก็ไม่รบกวนเวลาของนายหรอกเพื่อน ไปหล่ะ!!” มาเฟียหนุ่มแกล้งตัดพ้อด้วยท่าทางน้อยใจ “กลายเป็นคนขี้น้อยใจตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” “ก็ตั้งแต่เพื่อนแต่งงานมีครอบครัวไปหมดนั่นแหละ ไอ้ฟรานก็อีกคน กลัวเมียจนไม่กล้าออกจากบ้าน อ่อนชิป!!” ลูอีสพูดออกไปตามที่เห็น เขาคนหนึ่งแหละจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนมาควบคุมเขาได้เด็ดขาด “เอาเป็นว่าฉันจะยอมไปทานข้าวเป็นเพื่อนนายก็ได้ เพราะถึงฉันจะแต่งงาน ฉันก็ยังเป็นคริสเตียนคนเดิม ไม่มีใครมาเปลี่ยนแปลงฉันได้” คริสเตียนพูดออกมาอย่างมั่นใจ ว่าจะไม่มีใครมาบงการชีวิตของเขาได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม