2 อาทิตย์ต่อมา
"เฮ้อ~"
เป็นอีกครั้งที่พราวต้องถอนหายใจยาว ๆ ในรอบหลายวันมานี้เพราะว่าทั้งเบื่อและก็เหงา มีเพียงเจ้าแบร์เท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อน หลังจากวันนั้นที่ลุงเดฟพาเธอไปซื้อของวันถัดมาเขาก็หายไปเลยนี่ก็สองอาทิตย์ได้แล้ว แม้เธอจะอยากถามว่าลุงเดฟไปไหนแต่ตัวเธอก็ไม่มีสิทธิ์
"โฮ่ง!!"
เสียงเห่าของสุนัขตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ เหมือนคอยเฝ้าระวังให้เธอ พอเห็นว่ามีคนเข้ามาใกล้ก็รีบเห่าทันที ทำเอาคนที่เข้ามาใหม่ถึงกับต้องก้าวขาถอยหลัง
"แบร์ไม่เห่าสิร็อกเป็นคนกันเองนะ เอาละหมอบ"
คำสั่งของพราวทำให้เจ้าหมาสี่ขาปฏิบัติตามทันที แต่สายตาก็จ้องขู่ร็อกไม่วาง
"ดูท่าทางแบร์จะมองผมเป็นศัตรูไปแล้วนะครับ" ร็อกยิ้มแห้ง
"ดูเหมือนเจ้าตัวนี้จะหวงผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้พราว ว่าแต่ร็อกมีอะไรกับพราวหรือเปล่า"
การที่เธอกับเขาพูดกันอบ่างสนทสนมขนาดนี้เพราะหลายวันก่อนเธอรู้สึกว่าการเรียกคุณมันดูห่างเหินจนเกินไป เธอเลยยื่นข้อเสนอให้เขาว่าพวกเราจะมาเป็นเพื่อนกัน แม้ตอนแรกเขาจะปฏิเสธแต่ก็ยอมใจอ่อนเพราะว่าที่นี่เธอไม่มีคนสามารถคุยได้เลยนอกจากร็อกที่วัยใกล้เคียงกัน
"พอดีเห็นว่าพราวนั่งเหงาคนเดียวเลยมาชวนคุยนะ"
"เหงาจริง ๆ นั่นแหละอยู่ที่นี่มาสองอาทิตย์ ไม่ได้ไปข้างนอกเลยเพราะปู่แม็กบอกว่าถ้าจะออกไปต้องได้รับอนุญาตจากลุงเดฟก่อน" พอนึกถึงเรื่องนี้เธอก็รู็สึกโกรธคนสั่งมาไม่ได้ ตัวเองก็ไม่อยู่สักหน่อยจะมาบังคับเธอทำไม เดี๋ยวก็โทรศัพท์ไปฟ้องพ่อกับแม่เลย
"อยากออกไปข้างนอกเหรอ"
"อือ อยากไปเที่ยวบ้างขลุกอยู่แต่บ้านแล้วรู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นบ้า"
"ฮ่า ๆ งั้นคุณพราวอยากไปกับผมไหมครับ"
ร็อกแทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองขาดคิดยังไงถึงกล้าเสนอตัวแบบนั้น มันไม่ต่างจากพาคนตรงหน้าหนีและถ้าถูกจับได้เชื่อเลยว่าเขาถูกไล่ออกชัวร์
"ร็อกจะพาพราวออกไปเหรอ"
"เออ ถ้าคุณพราวอยากไปนะ" แต่ถึงจะรู้ว่ามันเสี่ยงถูกไล่ออกเขาก็ยอมเพราะถ้ามันทำให้เธอกลับมาสดใสเหมือนวันแรกที่เขาเจอมันก็คุ้ม
"อยากสิ!! ว่าแต่เราจะไปกันยังไงเหรอร็อก"
"พรุ่งนี้ไหมครับ เพราะว่าตอนกลางวันคุณหัวหน้าพ่อบ้านไม่อยู่ครับ"
เมื่อวันก่อนเขาบังเอิญได้ยินหัวหน้าพ่อบ้านพูดกับคนสนิทของนายท่าน บอกว่าเอาของสำคัญไปให้ที่บริษัทเพราะงั้นการออกไปจากที่นี่โดยพาเธอไปคงไม่ใช่เรื่องยาก
"งั้นดีเลย!!" พราวที่ได้ยินก็ดีใจมาก "พรุ่งนี้เดี๋ยวพราวจะเตรียมตัวรอนะร็อก"
"ครับ"
"เจ้าแบร์ห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครนะ" พราวหันไปพูดหยอกล้อกับสุนัขตัวโตที่กำลังนอนมองพวกตัวเองอย่างสงสัย เธอคิดว่าเจ้าตัวนี้มันฉลาดพอที่จะเข้าใจแผนการที่เธอวางกับร็อกเพราะอย่างนั้นเลยพูดดักไว้ "เข้าใจไหมตอบก่อน"
"หงิง"
"แบร์" เธอรีบเรียกชื่อซ้ำด้วยน้ำเสียงกดดัน "เข้าใจหรือเปล่า"
"โฮ่ง!!"
เพราะถูกกดดันจากพราวสุนัขตัวใหญ่เลยต้องเห่าตอบรับ
"ถ้าอย่างนั้นผมไปเลยนะครับ"
"เดี๋ยวพราวจะรอนะร็อก"
พอพูดจบร็อกก็เดินออกไปทันที เขาไม่อยากให้หัวหน้าพ่อบ้านสังเกตเห็นก่อน
พราวหลังจากร็อกเดินออกไปก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อส่งข้อความหาเพื่อนสนิทอย่างระสามาถึงที่นี่ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว
ยัยระสาพรุ่งนี้เจอกันหน่อย : พราว
ระสา : ออกมาจากกรงทองได้แล้วเหรอ
พราวรอข้อความประมาณเกือบ 10 นาทีได้ยัยเพื่อนสนิทก็ตอบกลับด้วยข้อความประชดประชัน
ได้แล้ว สรุปจะมาเจอกันไหม : พราว
ระสา : เอาสิที่ห้างxxxนะ ฉันไปทำงานพิเศษที่นั่นนะ
ได้แล้วเจอกัน : พราว
สาเหตุหนึ่งที่เธอหงุดหงิดก็เพราะว่าไม่ได้ออกไปเจอเพื่อนสนิทนี่แหละ ถึงหัวหน้าพ่อบ้านจะบอกว่าให้เธอโทรศัพท์ไปขออนุญาตลุงเดฟ แต่ใครมันจะไปกล้าล่ะขนาดบ้านเขายังไม่ได้กลับก็แปลว่างานยุ่งมาก แล้วถ้าเธอที่เป็นแค่ผู้อาศัยวุ่นวายอีกคงจะอยู่ที่นี่ยากขึ้น เผลอๆถ้าลุงเดฟโทรศัพท์ไปบอกพ่อ เธอมีสิทธิ์ถูกเรียกกลับไปทั้งที่ยังไม่ได้ไปมหาวิทยาลัยเลยสักครั้งแน่
วันถัดมา
ช่วงเช้าของวันในคฤหาสน์ใหญ่ผ่านไปด้วยความปกติของพราวอย่างเช่นทุกวันอ่านหนังสือเล่นกับเจ้าสี่ขา แต่พอถึงบ่ายกว่า ๆ ภารกิจแบบหลบหนีจากบ้านก็เริ่มขึ้น
"พราวต้องแต่งแบบนี้ใช่ไหมร็อก" พราวที่อยู่ในชุดเมดถามคนที่ร่วมแผนการอีกครั้ง
"ใช่ครับ คุณพราวต้องออกไปทั้งชุดนี้ก่อน เอาผ้านี้มัดผมบนหัวไว้ก่อนนะครับเพราะเมดที่นี่ไม่มีใครผมสีดำ ถ้าเกิดบอดี้การ์ดที่อยู่ตรงประตูใหญ่จำได้จะยุ่งครับ"
"ได้" พราวทำตามที่ร็อกบอกอย่างว่าง่าย เธอพยายามเก็บปรอยผมที่ให้เข้าในผ้าโพกหัวมากที่สุด "แบบนี้โอเคหรือยัง"
"ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเลย"
"แล้วเราจะไปรถอะไรกัน"
"รถของคฤหาสน์ รถที่สำหรับพนักงานใช้ซื้อของแบบนี้สะดวกกว่า"
"ได้"
"งั้นคุณพราวรอผมตรงนี้ก่อนนะครับ"
ไม่นานร็อกที่เดินหายออกไปก็กลับมาพร้อมรถกระบะ พราวที่เห็นแบบนั้นก็รีบก้าวขาไปนั่งข้าง ๆ เพื่อไม่ให้ถูกจับได้
"ถ้าเราหลุดด้านบอดี้การ์ดไปได้ก็รอดแล้วครับ"
พราวพยักหน้าอย่างเข้าใจ เธอได้แต่ภาวนาว่าจะไม่ถูกจับได้ก่อนกลับมาที่นี่ ไม่อย่างนั้นเธอคิดว่าเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้คงจะต้องโทรไปบอกพ่อกับแม่ถึงวีรกรรมครั้งนี้แน่ ๆ
"จะไปไหน"
แล้วก็เป็นไปตามที่ร็อกบอก รถที่พวกเธอนั่งมาถูกขวางไว้ด้วยบอดี้การ์ดชุดดำ
"ไปซื้อของให้คุณหนูพราวครับ พอดีคุณหนูพราวอยากทานอาหารไทย" ร็อกตอบออกไปอย่างกระฉับกระเฉง ไม่มีท่าทีอึกอักเพราะเขาซ้อมมาทั้งคืน บอดี้การ์ดพวกนี้ถูกฝึกมาดีมากถ้าทำอะไรให้ดูออกมีหวังถูกจับโยนกลับเข้าไปข้างใน
"แล้วเธอเป็นใคร"
"เป็นเมดที่คุณหัวหน้าพ่อบ้านให้ดูแลคุณหนูพราวครับ"
บอดี้การ์ดลังเลเล็กน้อย พวกเขาได้รับรายงานเรื่องการดูแลแขกคนใหม่ของบ้านก็จริง แต่เรื่องของคนที่อยู่ใกล้ตัวมันไม่มี
"จะไปได้หรือยัง ถ้าเกิดว่าคุณหนูโมโหแล้วเอาไปฟ้องนายท่านพวกนายรับผิดชอบนะ พวกนายเคยได้ยินใช่ไหมว่าแบร์ยอมจำนนต่อคุณหนูคนนี้แล้วคิดดูว่าสุนัขที่โหดขนาดนั้นยังยอมศิโรราบ ต้องโหดขนาดนายท่านเลยนะ...พวกนายไม่เคยเห็นฉันไหม ฉันเนี่ยเห็นบ่อยเวลาเธอโมโหน่ากลัวมาก จริงไหมเธอ!" ร็อกหันไปถามคนข้าง ๆ ที่กำลังทำท่าทางเหมือนพยายามกำลังจะกลั้นขำอยู่
"อือ"
ส่วนพราวกำลังฟังสิ่งที่ร็อกใส่ร้ายตัวเองแล้วก็อดขำไม่ได้ ได้แต่พยักหน้าตอบรับ
"งั้นก็รีบไป" แม้ว่าจะไม่สบายใจเพราะไม่มีหนังสืออนุญาตออกจากคฤหาสน์ของหัวหน้า แต่พวกเขาก็ต้องยอมให้ออกไปเพราะวันนี้หัวหน้าพ่อบ้านไม่อยู่ด้วย
"ขอบคุณนะที่เข้าใจ"
ร็อกได้โอกาสก็รีบเหยียบคันเร่งออกไปทันที ไม่นานพวกเขาก็หลุดออกจากคฤหาสน์ใหญ่พอสมควรก็พากันหัวเราะออกมาพร้อมกันอย่างไม่นัดหมาย
"ฮ่า ๆ ร็อกสิ่งที่พูดเมื่อกี้คือความในใจที่มีต่อพราวใช่ไหม"
"ฮะ ๆ ปะ...ป่าวครับคุณพราว ผมแค่กลัวมันไม่สมจริง" ร็อกที่กำลังหัวเราะอยู่ถึงกับต้องยิ้มแห้งเพราะกลัวว่าเธอจะโกรธกับคำพูดตัวเองเมื่อกี้
"ดูทำหน้าเข้าสิ พราวล้อเล่นขอบคุณนะที่พาออกมา"
พราวหันหน้าไปยิ้มให้เขาด้วยความอ่อนโยน ทำเอาคนมองถึงกับใจเต้นรัว
'ไอ้ร็อกเอ้ย แค่นี้ต่อให้ถูกไล่ออกก็คุ้มแล้ว'