5 | ไร้ตัวตน

1182 คำ
เช้าวันต่อมา อมีนาตื่นแต่เช้ามาช่วยงานในครัวเฉกเช่นทุกวัน ทว่าวันนี้ร่างกายของเธอกลับไม่เอื้ออำนวย ทำให้การทำงานล้าช้าจนน่าสงสัย “ไม่สบายเหรอ” เสียงของเพียงดาวเพื่อนวัยเดียวกันกับอมีนาที่มีพ่อเป็นคนขับรถให้คุณท่านทั้งสอง เพียงดาวเป็นสาวสวยไม่ต่างจากอมีนา แต่ความที่เป็นคนนิ่งๆ ติดไปทางเย็นชา ทำให้ไม่มีเสน่ห์เหมือนอมีนา ความนิ่งพูดน้อยของเพียงดาวทำให้เธอไม่ค่อยลงรอยกับคนรอบข้างทั้งที่คฤหาสน์และที่มหาวิทยาลัย คงจะมีแค่อมีนาคนเดียวที่เข้าใจเพียงดาวและมีเพียงดาวคนเดียวที่เข้าใจอมีนา “เปล่า” อมีนาตอบด้วยท่าทางมีพิรุธ “แต่ท่าทางเธอดูผิดปกตินะ” เพียงดาวมองเพื่อนสนิทด้วยสายตาจับผิดและยังคงนิ่งจับสังเกตเพื่อนราวกับว่าไปรู้เรื่องอะไรมา “กินยาหรือยัง” เพียงดาวถามขึ้นมาอีกครั้งแต่คำว่ากินยาทำให้คนที่มีเรื่องปิดบังอย่างอมีนาเสียอาการทันที เธอเลิ่กลั่กจนจับอะไรถูกผิดไปหมด “ดาวถามอะไรเนี่ย มีนสบายดีจะไปกินยาทำไมล่ะ” อมีนาบอกออกไปโดยที่ ไม่สบสายตาของเพียงดาวเลยแม้แต่น้อย เพราะกลัวว่าเพียงดาวจะจับพิรุธได้เหมือนทุกๆ ครั้งที่อมีนามีเรื่องปิดบัง “มีเรื่องอะไรปิดบังฉันอยู่หรือเปล่า” นั่นไง! เพียงดาวเริ่มสงสัยจริงๆ ด้วย อมีนายืนนิ่งคิดไม่ออกว่าจะทำยังไงดี จะสารภาพไปตามตรงดีไหม เพราะเธอรู้นิสัยของเพียงดาวดี หากสงสัยอะไรแล้วคงไม่ปล่อยผ่านแน่ๆ โดยเฉพาะเรื่องของเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวอย่างอมีนา “อมีนา!!” เสียงแหลมที่คุ้นเคยดังมาจากหน้าประตูห้องครัวทำให้สองสาวหันไปมองอมีนาที่ยังไม่ทันได้พูดอะไร หมับ!! เสื้อนักศึกษาตัวจิ๋วก็ถูกปาเข้ามาใส่หน้าของเธออย่างแรง ฝีมือของเมษาน้องสาวต่างแม่ของอมีนา “ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำเสื้อเป็นรอย เธอรีดยังไงให้มันไหม้ขนาดนี้ ห๊ะ!!” เมษาตะคอกใส่หน้าพี่สาวต่างแม่อย่างไม่สนใจว่าใครจะอยู่ด้วย การถูกเลี้ยงแบบเอาแต่ใจตั้งแต่เด็กและไม่เคยทำอะไรเองทำให้เมษาเป็นเด็กก้าวร้าวนิสัยเสียเป็นอย่างมาก “คือว่าพี่…” อมีนากำลังจะบอกออกไปว่าเธอไม่ได้เป็นคนรีดชุดนี้แต่ก็โดนนวลจันทร์เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน “โวยวายอะไรกัน” ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไร แต่สายตาที่มองไปยังอมีนาก็บ่งบอกชัดเจนว่าคนที่ผิดต้องเป็นเธอ “แกทำอะไรน้อง” “เฮ้อ… บทแม่เลี้ยงใจร้ายมาอีกแล้ว” เพียงดาวอดแขวะแม่ลูกนิสัยเสียไม่ได้จริงๆ ทำไมถึงได้ร้ายขนาดนี้ “อย่ามาปากดีนะนังดาว คราวก่อนฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับแกเลยนะ เป็นเด็กเป็นเล็กหัดเคารพผู้ใหญ่ซะบ้าง” “ผู้ใหญ่แบบนี้ยังมีความน่าเคารพอยู่เหรอ” “อิดาว!!” “พอเถอะค่ะ เดี๋ยวคุณท่านจะรอนานนะคะ” คราวนี้อมีนาเป็นฝ่ายห้ามศึก “ไม่ต้องทำมาเป็นห้ามคนอื่นหรอก แกคิดว่าฉันลืมเรื่องชุด…” “แค่เรื่องชุดอย่าไปใส่ใจเลยลูก ตอนนี้แม่ว่าลูกรีบเอาอาหารไปเสิร์ฟก่อนดีกว่า” ผู้เป็นแม่ที่เป็นต้นเหตุรีดเสื้อลูกสาวไหม้จึงหาเรื่องอื่นมาแทรก “ทำไมต้องเป็นหนูด้วยล่ะแม่ เรื่องในครัวเป็นงานของอมีนาหนิหนูจะไปเรียนสายนะ” “สายหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอกลูก เพราะวันนี้คุณชายมาทานข้าวเช้าที่นี่กับคุณท่าน” นวลจันทร์บอกลูกสาวด้วยท่าทางตื่นเต้น ความฝันของหล่อนก็ไม่มีอะไรนอกเสียจากอยากได้คุณชายมาเป็นลูกเขยหวังสูงจนน่าหมั่นไส้เสียจริง “จริงเหรอแม่” “ก็จริงหน่ะสิ รีบๆ ออกไปเลย ก่อนที่คนอื่นมันจะเสนอหน้าไป” ไม่พูดเปล่าแต่กลับจิกหางตาไปยังลูกเลี้ยงที่ตั้งหน้าตั้งตาจัดจานอาหารให้สวยงามและเสร็จตามเวลาที่กำหนด การกระทำเหล่านี้ไม่ใช่การทำเอาหน้าแต่เป็นหน้าที่ของอมีนามาตั้งแต่ไหนแต่ไร จะเรียกว่าเป็นพรสวรรค์ที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นทวดก็ว่าได้ เพราะอมีนานั้นทำอาหารอร่อยมากจึงได้รับหน้าที่ทำอาหารในทุกๆ เช้าก่อนที่จะไปมหาวิทยาลัย “เสร็จแล้วใช่ไหม เอามานี่!!” เมษาเข้าไปแย่งถาดอาหารเช้าที่อมีนาพึ่งจะจัดแต่งเสร็จไปไว้ในมือของตัวเองอย่างหน้าไม่อาย “ไปเรียนกันเถอะหมดหน้าที่เราแล้ว” เพียงดาวถอดผ้ากันเปื้อนออกก่อนจะเดินออกไปจากห้องครัว ‘ดีเหมือนกันจะได้ไปเรียนเร็วๆ’ อมีนาบอกตัวเองภายในใจโดยที่ความรู้สึกลึกๆ ในใจไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย สองสาวเดินออกมารอรถเมล์เฉกเช่นทุกวันตั้งแต่ปีหนึ่งจนกระทั่งตอนนี้ก็ปีสี่แล้วและอีกไม่กี่เดือนพวกเธอก็จะได้ฝึกงานแล้ว “ถ้าไม่ไหวก็กลับไปพัก เดี๋ยวลาให้” เพียงดาวที่เห็นท่าทางไม่ค่อยจะดีนักของเพื่อนจึงได้บอกออกไปด้วยความเป็นห่วง “ไม่เป็นไร มีนไปไหว” อมีนาเลือกที่จะยิ้มให้เพื่อนเพื่อความสบายใจและพูดคุยกันเรื่องงานมหาวิทยาลัยที่ไปสมัครพร้อมรอยยิ้มก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะจางหายไปจากใบหน้าสวย เมื่อรถคันหรูหลายคันขับเคลื่อนผ่านจุดที่พวกเธอกำลังยืนรอรถเมล์อยู่ หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบใบหน้าก็เห่อร้อนขึ้นมาเมื่อรู้ได้ว่ารถหรูเหล่านั้นเป็นรถของใคร รู้แม้กระทั่งว่าเจ้าของรถเหล่านั้นนั่งอยู่คันไหน “คนรวยนี่ใช้ทรัพยากรโลกได้สิ้นเปลืองจริงๆ ทำไมต้องไปกันทีละหลายคันขนาดนี้” เพียงดาวพูดขึ้นมาขณะที่มองรถคันหรูขับผ่านไปแล้ว อมีนาที่ยังเสียอาการกับบางคนที่เพิ่งผ่านไปจึงไม่ได้ฟังในสิ่งที่เพื่อนพูดออกมาเลยแม้แต่น้อย ในหัวเอาแต่นึกไปถึงภาพกิจกรรมการชดใช้หนี้ด้วยร่างกายในค่ำคืนที่ผ่านมา เพียงแค่คิดก็รู้สึกถึงความเจ็บแสบตรงกลางหว่างขา ความรู้สึกเหมือนโดนมีดกรีดตรงเนินเนื้อสาวยังชัดเจน “ไม่เห็นรู้สึกดีอย่างที่คนอื่นบอกเลยสักนิด” อมีนาพึมพำออกมาอย่างลืมตัว “อะไรไม่ดี” “ปะ… เปล่า ไม่มีอะไร ไปกันเถอะรถมาแล้ว” รถเมล์ช่างมาได้จังหวะเสียจริง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม