หลังจากสองพ่อลูกกินอิ่มแล้ว พวกเขาก็พากันเข้าไปในห้องทำงานของเธียรทรรศน์ ซึ่งเขาสั่งให้เธออยู่ช่วยสาวใช้เก็บกวาดที่นี่ให้เรียบร้อย เหมือนอยากจะกันเธอให้อยู่ห่างลูกชายให้มากที่สุด
ทำเหมือนกับว่าเธอเป็นตัวอันตรายสำหรับลูกอย่างนั้นแหละ!
แต่ไม่ว่าเขาจะคอยกีดกันเธอยังไง เธอก็ไม่คิดจะยอมแพ้ หลังจากช่วยสาวใช้ล้างจานจนเสร็จเรียบร้อย เธอก็ยกชาเข้าไปให้เขาที่ห้องทำงานอย่างมีน้ำใจ โดยมีจุดประสงค์เพียงเพื่อจะได้อยู่ใกล้ลูกชายให้มากที่สุดเท่านั้น
“ชาค่ะ” เธอวางถ้วยชาไว้บนโต๊ะ
“ฉันไม่ได้สั่ง”
“แต่แบมได้ยินสาวใช้บอกว่าปกติเวลานี้คุณจะรับชาตลอดนี่คะ แบมก็เลยอาสายกมาให้”
“แล้วพวกเค้าบอกอีกมั้ยว่าอะไรที่ฉันไม่สั่งก็แปลว่าฉันไม่ต้องการ”
“เอ่อ...ไม่ได้บอกค่ะ”
“เอาชาของเธอไปเททิ้ง แล้วไปอาบน้ำนอนซะ ฉันไม่มีอะไรจะใช้เธอแล้ว”
“คือ...”
“ทำไมอีก”
“แบม...ขออาบน้ำให้ลูกได้มั้ยคะ”
“ไม่ได้”
“ทำไมล่ะคะ”
“ลูกเป็นผู้ชาย ปกติเค้าอาบกับฉัน หรือว่าเธออยากจะอาบกับฉันด้วยอีกคนล่ะ”
“จะบ้าเหรอคะ ใครจะอยากอาบกับคุณกันล่ะ งั้น...งั้นขอฉันนั่งอยู่กับลูกเงียบๆ ได้มั้ยคะ รับรองว่าจะไม่รบกวนพวกคุณแน่นอน”
“ลูกต้องการสมาธิ เธอไม่ควรรบกวนเค้า”
“สมาธิอะไรคะ เค้าก็แค่เล่นรถไฟของเล่นเท่านั้นเอง”
“นั่นก็ต้องใช้สมาธิ”
ภีมพิมลกลอกตามองบนอย่างเหนื่อยใจ ในเมื่อขอกันดีๆ แล้วเขาไม่ให้ เธอก็จะทำหน้ามึนเลยละกัน
นอกจากเธอจะไม่เอาแก้วชาไปเก็บตามที่เขาบอกแล้ว เธอยังทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ลูกชายแล้วพูดคุยกับเขาถึงสิ่งที่เขาทำอยู่ จากนั้นก็ลูบศีรษะเล็กๆ และโอบเขาไว้ในบางครั้ง ให้เขาได้คุ้นเคยกับสัมผัสของเธอมากขึ้น โดยไม่สนใจเลยว่าคนเป็นพ่อจะเอาแต่จ้องจับผิดเธออยู่ตลอด
ก็ในเมื่อเธอบริสุทธิ์ใจแล้วทำไมจะต้องกลัวเขาด้วยล่ะ!
เธียรทรรศน์เอนตัวกับพนักพิงแล้วมองสองแม่ลูกนั่งเล่นรถไฟไปตามรางพร้อมกับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของพวกเขาในบางครั้ง ดูเหมือนลูกชายจะเข้ากับแม่ของเขาได้ดีกว่าที่คิด อาจเป็นเพราะน้ำเสียงอ่อนโยน แววตาอบอุ่นที่เธอมีให้ลูกเสมอ ทำให้ลูกชายของเขารู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย รวมไปถึงการค่อยๆ เปิดใจให้เธอทีละนิด
แต่เขาไม่เปิดใจให้เธอง่ายดายแบบนั้น!
ผู้หญิงคนนี้เต็มไปด้วยความลับที่ซ่อนอยู่ เขาเชื่อมั่นอย่างนั้น เพราะตั้งแต่วินาทีแรกที่เจอกันจนกระทั่งเธอหายไป เขาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่
ตอนที่รู้ว่าน้องธรณ์เป็นลูก เขาก็มั่นใจทันทีว่าเธอคือแม่ของลูกเพราะเธอเป็นคนเดียวที่เขาเคยมีความสัมพันธ์ด้วย แต่สิ่งที่เขายังติดใจก็คือ...ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอหายไปอยู่ที่ไหนกันแน่?
จะไปเป็นผู้ช่วยเชฟอยู่บนเรือสำราญจริงๆ น่ะหรือ?
ทำไมถึงกล้าทิ้งลูกเอาไว้?
ทำไมถึงต้องเป็นสี่ปี?
แล้วถ้าหากว่าเรื่องคืนนั้นเป็นเรื่องบังเอิญ ทำไมเธอถึงรู้ว่าเขาเป็นใคร รู้แม้กระทั่งว่าบ้านของเขาอยู่ที่ไหน เหมือนว่าเธอรู้จักเขาอยู่ก่อนแล้ว?
หากเป็นเช่นนั้นจริง เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นก็อาจจะไม่ใช่ความผิดพลาดแต่เป็นความตั้งใจ แต่ถ้าเธอตั้งใจเข้าหาเขา ในเมื่อนอนกับเขาแล้วทำไมถึงหายไปเฉยๆ ทำไมไม่คิดจะเรียกร้องอะไรจากเขาเลย?
คำถามมากมายที่ยังไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งเขาจะถามเธอเลยก็ได้ แต่เธอจะพูดความจริงหรือไม่ก็คงไม่อาจคาดเดา เพราะฉะนั้นพอเธอกลับไปเมื่อวานนี้เขาก็เลยสั่งให้คนไปสืบเรื่องราวทั้งหมดของเธอ อย่างน้อยก็ขอให้ได้รู้ความจริงเกี่ยวกับเธอก่อน
ความจริงที่เป็นข้อเท็จจริงและมีหลักฐานมาพิสูจน์
ไม่ใช่ความจริงที่ออกมาจากปากของคนที่เขาไม่คิดจะไว้ใจอย่างเธอเท่านั้น!
“คุณหมอคะ”
เสียงของเธอดึงเขากลับมาจากความคิดอันสับสนวุ่นวาย
“มีอะไร”
“เหมือนลูกจะง่วงแล้วนะคะ คุณพาลูกไปอาบน้ำเข้านอนดีมั้ยคะ นี่ก็สามทุ่มกว่าแล้วนะคะ ปกติลูกนอนกี่โมงเหรอคะ”
“ประมาณสามทุ่มนี่แหละ”
“แล้วคุณทำงานเสร็จหรือยังคะ ถ้ายังไม่เสร็จ...ให้ฉันพาเค้าไปอาบน้ำเข้านอนก่อนก็ได้นะคะ เสร็จแล้วฉันค่อยกลับห้องเอง”
“ไม่ต้องหรอก ฉันจะพาเค้าไปเอง เธอกลับห้องไปดีกว่า”
ภีมพิมลมองหน้าลูกชายครู่หนึ่งแล้วก็ต้องตัดใจ รู้ว่าเขาคงไม่ได้ใจดีให้เธอได้ทำอะไรอย่างที่อยากทำในตอนนี้
“งั้น...แม่ไปก่อนนะครับน้องธรณ์ พรุ่งนี้เจอกันนะครับ” เธอบอกพลางก้มหน้าลงไปจูบที่หน้าผากของลูกอย่างอ่อนโยน
“พรุ่งนี้เจอกันครับ คุณ...คุณแบม”
ก็ยังไม่กล้าเรียกเธอว่าแม่อยู่ดีสินะ...
“ครับ พรุ่งนี้เจอกันนะแม่จะทำโจ๊กอร่อยๆ ให้ลูกกิน ว่าแต่พรุ่งนี้คุณจะพาลูกไปไหนอีกมั้ยคะ”
“ถามทำไม”
“คือแบม...แค่อยากไปด้วยน่ะค่ะ แบมอยากใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากที่สุด”
“พรุ่งนี้ฉันไปทำงาน ปกติจะพาเค้าไปฝากไว้กับคุณแม่ที่บ้านท่านน่ะ เธออยากไปด้วยมั้ยล่ะ”
“ไปค่ะ ขอแค่ได้อยู่กับลูก ที่ไหนฉันก็ไปทั้งนั้น”
“งั้นพรุ่งนี้ทำอาหารเสร็จก็ไปแต่งตัวรอละกัน ฉันจะออกบ้านตอนเจ็ดโมงครึ่ง”
“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณหมอ”
เธอเผลอส่งยิ้มหวานไปให้เขา ก่อนจะหันกลับมายิ้มให้ลูกชายแล้วจึงได้ก้าวออกไปจากห้องนั้นโดยมีสายตาของสองพ่อลูกมองตาม แต่อาจจะมองคนละแบบ