คำลวง...บ่วงปรารถนา

1680 คำ
ตอนที่ 8 หลายเดือนต่อมา... ชีวิตของพริมายังคงดำเนินไปท่ามกลางแรงกดดัน ทั้งจากยอดหนี้สินที่พอกพูนขึ้นทุกวัน และจากความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดกับภาสกร ที่นับวันยิ่งรัดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ โดยต้นเหตุเกิดมาจากค่ำคืนนั้นที่ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและยากจะถอยหลัง พริมาไม่อาจต้านทานข้อเสนอของภาสกรได้อีกต่อไป ในเมื่อตัวเลขค่าตอบแทนและคำมั่นสัญญาว่าจะช่วยเหลือเรื่องหนี้สินคือฟางเส้นสุดท้ายที่เธอคว้าเอาไว้ ความเงียบสงัดปกคลุมโรงแรมหรู แสงไฟนวลตาจากโคมไฟดีไซน์เก๋ส่องกระทบผิวกายบางของพริมาที่นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง กระจกใสสะท้อนภาพเมืองหลวงยามราตรีที่ส่องประกายระยิบระยับ ทว่าความงามภายนอกกลับมิอาจเยียวยาสภาวะสับสนในจิตใจของเธอได้ ภาสกรทอดกายลงบนโซฟาเนื้อนุ่มข้างๆ หญิงสาว ก่อนจะยื่นแก้วไวน์สีแดงก่ำให้เธอ พริมารับมาถือไว้ในมือทว่ามิได้ยกขึ้นจิบ ไอเย็นจากแก้วแก้วนั้นสัมผัสฝ่ามือบางเบา “คิดอะไรอยู่ครับ...ที่รัก คุณดูเหม่อๆ ไปนะวันนี้” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน “เปล่าค่ะ... แค่... รู้สึกแปลกๆ ค่ะ” เสียงของเธอแผ่วเบาราวกระซิบ “แปลกๆ ยังไงเหรอครับ...คุณรู้สึกยังไง? ไหนเล่าให้ผมฟังสิ” ภาสกรเอื้อมมือมาสัมผัสมือของเธอเบาๆ ความอบอุ่นจากฝ่ามือแกร่งนั้นแทรกซึมเข้าสู่ผิวเนื้อ ทำให้ความหวั่นไหวเล็กๆ ก่อตัวขึ้น “คือฉันกังวลเรื่อง...เอ่อ เรื่องภรรยาของคุณค่ะ” พริมาเว้นจังหวะคำพูด ดวงตากลมโตสบกับเขาอย่างลังเล ภาสกรคลี่ยิ้มบางๆ บีบมือเธอเบาๆ ราวกับต้องการปลอบประโลม “อย่าคิดมากสิครับ...ก็อย่างที่ผมบอกคุณไง ว่าผมกับมนต์ตราเราไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันแล้ว” “แล้วทำไมคุณไม่ยอมหย่ากับเธอล่ะคะ” น้ำเสียงของเธอเริ่มสั่นเครือ “ผมคงทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกครับ เรามีลูกด้วยกัน ผมสงสารลูกน่ะ” ภาสกรส่ายหน้าช้าๆ ดวงตาหนักแน่น คำพูดนั้นราวกับสายฟ้าฟาด พริมานิ่งงัน เงยหน้ามองเขาด้วยความเสียใจ “แล้วเรื่องที่ภรรยาคุณยินยอม... ให้คุณ... มีคนอื่น มันคือเรื่องจริงเหรอคะ...แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไง” “มันเป็นไปได้ครับ...คุณเชื่อผมนะ เราคบกันมาตั้งนาน ถ้าไม่มนต์ตราเค้าไม่ยอม ป่านนี้คงมาเล่นงานคุณไปแล้ว” น้ำเสียงของภาสกรจริงจังขึ้น ทว่ายังคงความอ่อนโยน “ก็อย่างที่ผมบอกคุณไง ชีวิตคู่ของผมกับมนต์ตรา... เรามีปัญหา มนต์ตรา... เธอไม่สามารถตอบสนองความต้องการทางกายของผมได้ครับ... ปัญหาเรื่องบนเตียง มันก็เป็นปัญหาหลักของชีวิตคู่นะครับ เราอยู่กันในฐานะพ่อและแม่ของลูก ๆ เท่านั้น” เขาพูดด้วยท่าทีที่ดูเศร้าสร้อย ราวกับแบกรับความทุกข์ทรมาน “อย่าคิดมากครับ ก็ไหนเราตกลงกันเรื่องนี้แล้วไง...หืม์!!! คุณไม่ต้องกังวลไปหรอกน่า...มนต์ตราเธอยินดีที่จะให้ผม... มีภรรยาอีกคน... ที่จะเข้ามาดูแลเรื่องนี้... เพื่อที่ชีวิตคู่ของเราจะได้ยังดำเนินต่อไปได้โดยไม่มีปัญหา” พริมาฟังด้วยความสับสนอลหม่านในหัวใจ เรื่องราวเช่นนี้เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน ถ้อยคำของภาสกรดูเหมือนจะสมเหตุสมผลในตรรกะที่บิดเบี้ยว “อย่าคิดมากสิ...พริมา คุณทั้งสวย ทั้งเก่ง ผมไม่มีวันทิ้งคุณหรอก...ผมอยากดูแลคุณจริงๆ นะครับ... แล้วผมก็ไม่ได้ต้องการแค่ความสัมพันธ์ฉาบฉวย... ผมอยากให้คุณเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผมจริง ๆ ... เป็นภรรยาอีกคน... ในแบบที่มนต์ตรายินยอม” ภาสกรย้ำคำว่า 'ภรรยาอีกคน' ราวกับต้องการสร้างความชอบธรรมให้กับสิ่งที่เขากำลังเสนอ “ผมรู้ว่ามันอาจจะฟังดูประหลาด... แต่มันคือทางออกของเราทั้งสองคนในเวลานี้... ผมจะไม่ทอดทิ้งคุณ... ผมจะดูแลคุณอย่างดีที่สุด... คุณไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรอีกแล้ว... ทั้งเรื่องหนี้สิน... หรืออนาคต... ผมดูแลคุณได้” พริมาจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาที่ฉาบด้วยแววตาจริงจัง น้ำเสียงปลอบโยนและคำมั่นสัญญาเหล่านั้น ค่อยๆ คลอนคลอนหัวใจที่เปราะบางและแบกรับภาระหนักอึ้งของเธอ ประกอบกับบุญคุณที่เขาเคยหยิบยื่นให้ ในห้วงแห่งความเหงา ความสิ้นหวัง และความปรารถนาที่จะมีใครสักคนเป็นหลักยึด คำโกหกที่ถูกร้อยเรียงอย่างแนบเนียนเรื่อง 'คำว่าภรรยาอีกคน' กลับกลายเป็นเหตุผลที่มันก็ฟังดูเป็นไปได้ในห้วงอารมณ์ที่อ่อนแอ…มากกว่าคำว่าเมียน้อยที่หลาย ๆ คนเขาเรียกกัน พริมาทอดสายตามองภาสกรอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจยาวเหยียด ราวกับยอมจำนนต่อโชคชะตา “คุณไม่ได้หลอกฉันไม่ใช่มั้ย...คุณภาส” เสียงของเธอแผ่วเบาราวกระซิบถามย้ำ ภาสกรคลี่ยิ้มอย่างพอใจ ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม “ผมไม่เคยคิดจะหลอกคุณเลย...ที่รัก” พริมาพยักหน้ารับช้าๆ แววตาว่างเปล่า ราวกับวิญญาณครึ่งหนึ่งได้หลุดลอยไป และนับจากวินาทีนั้นเอง พริมาก็ได้ก้าวเข้าสู่สถานะ 'ภรรยาชั่วคราว' อย่างเต็มตัว โดยหลงเชื่อคำลวงที่ถูกสร้างขึ้นจากความอ่อนแอในชีวิตคู่ของเขา... มาเป็นเครื่องมือในการครอบครองเธอทั้งร่างกายและหัวใจ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความตึงเครียดและความสับสนในจิตใจของพริมา คำโกหกที่ถูกร้อยเรียงอย่างแนบเนียนของภาสกรยังคงก้องอยู่ในหู ราวกับมนต์สะกดที่ค่อยๆ ครอบงำเธอ ภาสกรสังเกตเห็นความลังเลในแววตาของหญิงสาว เขารู้ดีว่าต้องใช้สัมผัสทางกายเพื่อทำลายกำแพงสุดท้ายในใจของเธอเหมือนเช่นทุกครั้ง มือแกร่งค่อยๆ เอื้อมไปลูบไล้แก้มเนียนอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนลงมาสัมผัสลำคอระหงอย่างอ่อนโยน “คุณสวยเหลือเกินพริมา...ที่รักของผม” เสียงทุ้มนุ่มกระซิบข้างใบหู ราวกับต้องมนต์สะกดกับความงามที่อยู่ตรงหน้า พริมาหลับตาลงเล็กน้อย สัมผัสจากปลายนิ้วของเขาส่งผ่านความรู้สึกวาบหวามอย่างประหลาด เธอพยายามที่จะต่อต้านน้อย ๆ เหมือนทุกครา และร่างกายก็กลับทรยศทุกครั้งไป ภาสกรค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมาใกล้ ริมฝีปากหยักแตะลงบนหน้าผากมนอย่างทะนุถนอม ก่อนจะเลื่อนลงมาสัมผัสเปลือกตาที่ปิดสนิทอย่างอ่อนโยน ความรู้สึกวูบไหวเริ่มก่อตัวขึ้นในอกของพริมา ลมหายใจเริ่มติดขัด หัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ภาสกรผละริมฝีปากออกเล็กน้อย ดวงตาคมกล้าจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่ค่อยๆ เปิดขึ้นของเธอ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ยากจะหักห้าม โดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆ อีก ภาสกรค่อยๆ โอบประคองร่างบางของพริมาให้ลุกขึ้นยืน เขาสบตาเธออย่างลึกซึ้ง ราวกับต้องการสื่อสารความรู้สึกที่อยู่ภายใน ก่อนที่ริมฝีปากหยักจะประกบลงไปอย่างแผ่วเบา สัมผัสแรกนั้นนุ่มนวล ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยแรงปรารถนาที่เก็บกักมานานหลายวัน พริมาตอบสนองต่อจูบนั้นอย่างเผลอไผล มือเรียวค่อยๆ ยกขึ้นคล้องรอบคอของภาสกรอย่างไม่รู้ตัว ปล่อยให้ความรู้สึกนำพาไป ภาสกรค่อยๆ อุ้มร่างบางของเธอขึ้น พาไปยังห้องนอนที่ตกแต่งอย่างหรูหรา แสงไฟสลัวๆ สร้างบรรยากาศที่ชวนให้ลุ่มหลง เขาค่อยๆ วางเธอลงบนเตียงเนื้อนุ่ม ก่อนจะทาบทับร่างของเธอลงไปอีกครั้ง ริมฝีปากยังคงมอบจูบที่เร่าร้อนและโหยหาอย่างต่อเนื่อง มือก็ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างอย่างทะนุถนอม เสื้อผ้าค่อยๆ ถูกปลดเปลื้องออกอย่างช้าๆ เหลือเพียงผิวเนื้อที่สัมผัสกันโดยตรง ความร้อนจากกายของทั้งสองหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เสียงครางกระเส่าดังแผ่วเบาในความมืดมิด สัมผัสที่ลึกซึ้งและแนบแน่นขึ้นเรื่อยๆ นำพาไปสู่ห้วงแห่งความสุขสมที่ทั้งคู่โหยหา ภายใต้ผ้าปูที่นอนเนื้อนุ่มละเอียด สัมผัสจากกายของภาสกรยังคงรุ่มร้อนและแนบแน่น พริมาหลับตาพริ้ม ปล่อยให้ความรู้สึกสุขสมแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เสียงครางหวานแผ่วเบาหลุดออกจากริมฝีปากอิ่มอย่างห้ามไม่อยู่ “อ๊ะ...อื้มมม!!!” เสียงหวานนั้นสั่นเครือเล็กน้อย ยามที่เรียวนิ้วแกร่งของภาสกรลูบไล้ไปตามลาดไหล่เนียนอย่างอ่อนโยน “ชอบมั้ย…ที่รัก?” เสียงทุ้มนุ่มกระซิบข้างใบหู พรมจูบเบาๆ ไปตามขมับ พริมาพยักหน้าช้าๆ ริมฝีปากเผยอขึ้นเล็กน้อย ราวกับต้องการสัมผัสที่ลึกซึ้งกว่านั้น ภาสกรเข้าใจความต้องการนั้นดี เขาก้มลงมอบจูบที่ดูดดื่มอีกครั้ง ลึกซึ้งและเนิ่นนานกว่าครั้งก่อน ปลายลิ้นอุ่นชื้นโลมเลียเข้าไปในโพรงปากหวานอย่างเชี่ยวชาญ “อ๊ะ...” เสียงครางแผ่วเบาอีกครั้งดังขึ้น เมื่อศีรษะของภาสกรเลื่อนลงต่ำ สัมผัสส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของเธออย่างช้าๆ ด้วยปลายลิ้นร้อน... ความรู้สึกวาบหวามแล่นปราดไปทั่วร่าง พริมาบิดกายเล็กน้อย ก่อนจะสบัดหน้าไปมากับหมอนนุ่ม ปล่อยให้ความสุขสมนำพาเธอไปสู่ห้วงแห่งความปรารถนา “คุณภาส!!!...อื้อ..อย่าค่ะ” เสียงเรียกชื่อเขาแผ่วพร่า ราวกับละเมอ “ขอชิมให้ชื่นใจหน่อยนะที่รัก” ภาสกรตอบกลับด้วยเสียงกระเส่า เลื่อนใบหน้าลงมาจูบซับตามซอกคอขาวเนียน สัมผัสของเขายังคงดำเนินต่อไป เร้าลึกและหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ พริมาเผลอปล่อยเสียงครางหวานออกมาอย่างไม่อาจควบคุม ความสุขสมที่ได้รับนั้น เกินกว่าที่เธอเคยสัมผัส “อื้ยยย!!!...คุณภาสขา!!!...” เสียงกระซิบแผ่วเบาที่เปล่งออกมาจากความพึงพอใจอย่างแท้จริง ภาสกรยิ้มบางๆ กับเสียงหวานนั้น เขากระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ตอบสนองต่อทุกการเคลื่อนไหวของเธออย่างอ่อนโยนและเร่าร้อน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม