ค่ำวันนั้นหลังจากพาเจ้ากุ้ยอ๋องตัวแสบแห่งวังหลวงมาส่งให้กับมารดา แล้วเขาก็รั้งอยู่ที่จวนนิ่งอันโหวเพื่อดื่มกับสหายรักสักหน่อย ยามนี้นิ่งอันโหวมีบุตรสาวอีกคนชื่อว่าอวิ๋นจ้าวอิง อายุเพิ่งจะ 1 หนาวเศษเท่านั้นเพราะว่าเจ้าเพื่อนของเขาขยันปั้นเจ้าก้อนแป้งออกมาแทบจะหัวปีท้ายปี สำหรับบุตรสาวของสหายรักเขาก็จะแต่งตั้งเป็นท่านหญิงเช่นกัน รอให้ได้สามหนาวก่อน ดวงตามังกรมองไปยังพระจันทร์ที่ส่องสว่างอยู่ท่ามกลางท้องนภายามค่ำคืนเช่นนี้ นั่นทำให้อวิ๋นหยางมองสหายรักอย่างรู้สึกแปลกไป เจิ้งหลี่ไม่เคยเหม่อลอยดั่งคนกำลังตกหลุมรักเช่นนี้มาก่อน เขาจึงหันไปกระซิบถามฉีกงกง “ท่านกงกง...อาการเป็นอย่างไร” “วันนี้พบคุณหนูสี่สกุลว่าน ว่านเข่อชิง” เมื่ออวิ๋น หยางได้ความกระจ่างแล้วเขาก็พยักหน้าทันที แล้วหันเป็นเทสุรารสเลิศในเหยือกส่งให้สหาย “ดื่มหน่อยดีหรือไม่ เอาแต่ชมจันทร์ คิดถึงผู้ใดอยู่หรือฝ่าบาท” เจิ้งหลี่