บทที่ 2 เข้าหอ1/2

1214 คำ
เขาควรจะหยุดทำร้ายนางสิ...เหตุใด! “อื้อออ!...ฮึก” เสียงหวานครางออกมา เมื่อเขาบดจูบอย่างหื่นกระหายจนริมฝีปากของนางบวมเจ่อ กลิ่นคาวเลือดจาง ๆ ในปากตีขึ้นจมูกจนความฝาดของเลือดขมปร่าในปากของนางชวนแทบจะคลื่นไส้ แต่เขาก็ยังไม่หยุด! ความคุกรุ่นในกายของชายผู้ไม่เคยหาความสำราญแทบจะปริแตก ยิ่งนางดิ้นรนเขายิ่งขยี้ให้แรงขึ้น ต่อให้รับรู้ว่านางเจ็บ แต่คนเจ็บกว่าคือเขาต่างหาก ใครจะรู้ดีไปกว่าคนที่เคยผ่านความชอกช้ำนี้มาก่อน ภาพใบหน้ามารดาที่สิ้นลมต่อหน้าต่อตา ทำให้เขาไม่เคยพิศวาสอยากขึ้นเตียงกับสตรีนางใด หากไม่เพราะฝ่าบาทชี้แนะหนทางแก้แค้นนี้ เขาไม่มีวันแตะต้องบุตรสาวของศัตรูเป็นเด็ดขาด สาบาน! ร่างกำยำบดเคล้าริมฝีปากเล็กอย่างดึงดัน จนปากนางยามนี้บวมเจ่อด้วยฝีมือคนใจร้ายเช่นเขา เพราะอยากลงโทษปากเล็ก ๆ นี้ว่าอย่าริกล้าหาญต่อปากต่อคำกับเขา หวังเพียงว่านี่คือบทเรียนเริ่มต้น แต่ทว่าเขาไม่คิดจะจบแค่จูบเดียวหรอก เมื่อนางอยากลองดีเขาก็ยินดีสนอง! รอยยิ้มเหี้ยมผุดขึ้น เมื่อร่างบางอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงขัดขืน และปล่อยให้เขากระทำอย่างย่ามใจ หัวใจของจิวฮวาสั่นเทาไม่ต่างจากร่างกายนัก ความตื่นตระหนกนี้เพราะเขาที่ทำให้นางหวาดกลัวอีกครั้ง ไม่...ต้องไม่ใช่แบบนี้ ข้าต้องการให้เขาหยุดรังแก มิใช่รังแกให้หนักขึ้น ต้องมีอะไรผิดพลาด! “กลัวข้าขึ้นมาบ้างแล้วหรือ...” เขาถอนจูบออก แล้วแนบใบหน้าที่ข้างแก้ม กระซิบให้ลมหายใจเป่ารดไปในหูด้วยน้ำเสียงกระเส่าและเย้ายวนกลับเช่นกัน คิดว่าเจ้ายั่วเป็นผู้เดียวหรือจิวฮวา ^_^ มือหยาบกระด้างจากการจับหอกจับกระบี่ ค่อย ๆ ดึงอาภรณ์บางเบาที่เหมาะกับการเข้าหอของร่างเล็กออกมา สอดมือเขาไปสัมผัสแผ่วเบากับต้นขานวลเนียนราวกับใยฝ้ายสีขาวที่นำมาถักทอเป็นเสื้อผ้า แม้ดวงหน้าจะมองด้านบนที่สาบเสื้อแยกออกจนเห็นชุดเอี๊ยมตัวในที่ปกปิด สองเนินอวบไว้ แต่มือร้ายกาจของเขานั้นล้วงลึกเข้ามาในกระโปรงของนาง คลึงนวดเบา ๆ อย่างเย้ายวนที่ต้นขา และเป้าหมายนั้นผู้เป็นบุรุษย่อมรู้ดีว่าคือจุดใด จิวฮวารู้สึกวาบหวามขึ้นในร่างกายจนต้องครางออกมาเสียงหวาน แม้ว่าจะขบริมฝีปากให้มันข่มความเสียวเพื่อหยุดยั้งแล้ว แต่ทว่าอารมณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้นางพ่ายแพ้แก่มัน “อื้อ...มะ...ไม่...เจ้าค่ะ...อื้อ อย่า...!” “อย่าหยุดใช่หรือไม่ ข้ารู้ดี” มือหนายังคงคืบคลานเข้าไป จวนเจียนใกล้กลีบปุบผาเต็มที เรียวนิ้วแกร่งเกี่ยวซับในตัวจิ๋วที่ปกปิดดอกไม้อันสวยงามของสตรีออกมา แล้วเหวี่ยงมันทิ้งไปข้างเตียง “หยุด...หยุด...ทะ...ท่าน...โหว...อื้อ ถ้าท่านโหวไม่หยุดข้าจะคิดว่าท่านติดบ่วงเสน่หาของข้าจนลืมแล้วซึ่งความแค้นแต่เดิมระหว่างบิดาของข้าจนสิ้น!” จิวฮวาตวาดออกมา เพื่อพยายามปรับดวงชะตาให้ไม่จบสิ้นแบบเดิม และเรียกสติเขาให้จดจ่ออยู่กับการแก้แค้นนางในทางอื่นแทน เราสองคนควรหยุดชะตาบ้าบอนี้เสียที! นางปลุกไฟแค้นของข้าให้ลุกโชนขึ้นอีกแล้ว ให้ตายสิ! หมับ!! เขาปล่อยมืออีกข้างที่รวบตรึงข้อมือของนางไว้ แล้วหันไปคว้าหมับเข้าให้ที่เนินอิ่มของนางแทน ออกแรงบีบเคล้นให้หนัก สมกับที่นางเป็นคนปลุกความโหดร้ายในกายของเขาให้ตื่นขึ้น สีหน้าเจ็บปวดของนาง ทำให้เขารู้สึกพอใจ “ชอบความรุนแรงใช่หรือไม่” เขาไม่ยั้งมือเมื่อนางชอบเช่นนี้ก็ลองดู “ไม่...ข้าเกลียด...เกลียดท่าน” “คิดว่าข้ารักเจ้างั้นหรือ...” “สาบานสิ...สาบานจะไม่รักข้า” นางให้เขาสบถสาบานออกมา แต่ทว่าอีกคนกลับไม่สนใจ “ข้าไม่ใช่ทาสของเจ้า เหตุใดต้องทำตามที่เจ้าสั่ง” นอกจากเขาจะไม่สาบานแล้ว ยังคิดหมายย่ำยีนางอีก หยาดน้ำตาใส ๆ ค่อย ๆ ไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว แม้ว่าตัวเองจะพยายามเข้มแข็งแล้วก็ตาม มือเล็กปาดลวก ๆ ออกจากใบหน้า ไม่ให้เขาเห็นความชอกช้ำในดวงตาของนาง “แค่นี้เจ็บปวดแล้วหรือ” “ไม่” “ดี...เจ้าคงไม่รู้ว่าบิดาเจ้าทำอะไรไว้กับมารดาข้าบ้าง เช่นนั้นข้าจะแสดงให้เจ้าดู” เสียงเหี้ยมตวาดลั่นออกมาอย่างโกรธจัด นางเกิดมาก็วันที่มารดาเขาสิ้นชีพลงแล้ว แล้วนางก็ไม่รู้ว่าบิดากระทำสิ่งใดบ้าง นางไม่อาจจะย้อนเรื่องที่เกิดและผ่านมาแล้วได้ ความฝันของนางคือเป็นสิ่งที่จะเกิดเบื้องหน้าเท่านั้น คลับคล้ายคลับคลาเป็นสิ่งเตือนให้ระแวดระวังภัยที่กำลังจะเกิดขึ้น “อื้อ” หลัวอวิ๋นหยาง ก้มหน้าลงประกบริมฝีปากจูบอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง เขาบีบบังคับให้ร่างเล็กรับสัมผัสที่ดุดัน ทั้งความโกรธและความเสน่หาในตัวนางอย่างไม่รู้ตัว เขาดุนดันลิ้นอุ่นชื้นเข้าไปกวาดต้อนหยอกเย้าลิ้นเล็กของนางให้ตอบรับสัมผัส จนนางเคลิบเคลิ้มตอบกลับอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว “อื้ม...!” ง่ายดายเสียจริง เสียงครางของท่านโหวดังออกมาอย่างพอใจ รสหวานของนางมันช่างเหมือนกับตอนเขาดื่มสุราดอกท้อที่มีทั้งรสชาติหวานและมัวเมาไปในตัว รู้ตัวอีกทีก็ดื่มเสียจนเมามายร่างกายโซเซไปแล้ว ฮึก...! นางต้องรับสัมผัสอย่างหลบเลี่ยงไม่ได้ จูบครั้งนี้แม้ดุดันแต่มันแฝงความต้องการในส่วนลึกซึ่งนางก็อ่านไม่ออก มันต่างจากคราแรกที่เขาต้องการทำให้นางเจ็บเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยามนี้นางไม่รับรู้สิ่งใดนอกจากปลายลิ้นที่เอาแต่ใจของเขา สอดรัดเรียวลิ้นนางจนพันเกลียว กว่าที่เขาจะปลดปล่อยให้ริมฝีปากนางเป็นอิสระ ก็จนนางเริ่มหอบหายใจสะท้านจนตัวโยน ข้าเกือบหมดลมแล้ว! แต่ความปั่นป่วนในร่างกายของนางนี่สิ จะจัดการอย่างไรดี นางพยายามสกัดกั้นอารมณ์ต้องการร่างกายบุรุษจนเผลอกัดริมฝีปากห้อเลือด อารมณ์พลุ่งพล่านทำให้ใบหน้านางแดงจัดจากการสูบฉีดของเลือดในกาย พร้อมกับดวงตาที่มองเขาด้วยความปรารถนาที่ยากจะมอดดับได้เองในยามนี้ บุรุษผู้นี้ร้ายกาจยากรับมือ! ไม่รู้ว่าเขาทำสิ่งใดกับร่างกายตนถึงได้ปั่นป่วนเช่นนี้ ร่างสูงปีนขึ้นมากดทับตัวนางที่นอนมองเขาด้วยดวงตาฉ่ำวาวอย่างระทดระทวย สติยามนี้ของนางคงกระเจิงไปไม่แพ้บุรุษเช่นเขา ยิ่งดวงตาดำทะมึนมองร่างบางด้วยความเสน่หาที่เอ่อล้นในอกแล้วยิ่งยากจะตัดใจไม่กลืนกินนาง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม