“ทำไม ตะลึงเลยหรือไง ฉันสวยพอที่จะเป็นเจ้าสาวคุณมั้ย” น้ำค้างกล่าวกับชายหนุ่มซึ่งได้ยินเพียงสองคน
“ก็สวยเพราะเครื่องสำอางค์เท่านั้นแหล่ะ พอล้างออกก็จืดเหมือนเดิม” ชายหนุ่มไม่ยอมรับว่าเขากำลังตะลึงกับความสวยของเจ้าสาว เรื่องอะไรเขาจะยอมรับให้เธอมาเยาะเย้ยเขา ไม่มีวันนั้นอย่างแน่นอน
“ต่อไปนี้จะเข้าสู่พิธีหมั้นหมาย เจ้าบ่าวสวมแหวนให้เจ้าสาวด้วยครับ” พิธีกรในงานกล่าวขึ้น เจ้าบ่าวหยิบแหวนขึ้นมา ก่อนที่จะนิ่งสักพักแล้วกัดฟันสวมแหวนให้กับเจ้าสาว น้ำค้างจ้องมองชายหนุ่มด้วยความลุ้น เธอกลัวว่าเขาจะถอนตัวกลางคัน ถ้าเกิดเรื่องนี้ขึ้นมีหวังเธอต้องอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนอย่างแน่นอน
“กราบพี่เขาสิลูก” ผู้เป็นมารดาหันมากระซิบบอกบุตรสาวหลังจากที่อิธานสวมแหวนให้เธอเรียบร้อย น้ำค้างจำใจต้องกราบลงที่ตักของชายหนุ่ม ซึ่งใบหน้าของหญิงสาวแสดงออกชัดเจนถึงความไม่เต็มใจของเธอ หลังจากที่กราบอย่างลวกๆ เรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็รีบลุกขึ้นทันที
“ต่อไปเจ้าสาวสวมแหวนให้กับเจ้าบ่าวนะครับ” พิธีกรประการต่ออีกครั้ง น้ำค้างจึงหยิบแหวนที่วางอยู่ในพานมาสวมให้ชายหนุ่มอย่างลวกๆ อิธานมองที่หญิงสาวด้วยความรู้สึกหมั่นไส้ ทีตอนมีเรื่องบังคับให้เขาแต่งงานด้วย แต่ทีตอนนี้ทำราวกับไม่อยากแต่งงานกับเขา เธอจะเอายังไงกันแน่น้ำค้าง
“คุณไม่กราบฉันบ้างเหรอ” หญิงสาวกล่าวกับชายหนุ่มซึ่งยังคงได้ยินกันเพียงสองคน
“มีอย่างที่ไหนล่ะที่เจ้าบ่าวเขากราบเจ้าสาวยัยแม่มด” อิธานตาเขียวใส่หญิงสาว นี่เธอจะให้เขากราบเธอจริงๆ หรือนี่
“ก็นึกว่ามันจะมีไง สมัยนี้ผู้หญิงกับผู้ชายเท่าเทียมกันแล้ว” หญิงสาวยังแสร้งกล่าวแบบทองไม่รู้ร้อน
“คืนนี้เธอจะซ่าส์ไม่ออกคอยดู” อิธานเค้นเสียงรอดไรฟัน เขาไม่พอใจหญิงสาว แต่ด้วยเพราะอยู่ในช่วงพิธีการ ทำให้เขาไม่สามารถแสดงออกได้มากนัก
น้ำค้างไม่ได้หวั่นเกรงแต่อย่างใด เธอยังแอบยิ้มทะเล้นให้ชายหนุ่ม กว่าจะผ่านพิธีการแต่ละขั้นตอนได้ ก็เล่นเอาทั้งคู่ฟัดกันไปหลายยก ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายต่างมองด้วยความเป็นห่วง แม้จะไม่รู้ว่าทั้งสองสนทนาอะไรกัน แต่ถ้าดูจากอากัปกริยาแล้ว ดูท่าแล้วว่าคงไม่ลงรอยกันอย่างแน่นอน
กว่าจะผ่านพิธีต่างๆ ไปจนถึงงานแต่งช่วงเย็น ก็เล่นเอาทั้งเจ้าสาวและเจ้าบ่าวเพลียไปตามๆ กัน และเมื่อถึงพิธีที่น้ำค้างไม่อยากให้ถึงเวลานั้นที่สุดก็มาถึง นั่นก็คือพิธีส่งตัวเข้าหอนั่นเอง หญิงสาวเดินมานั่งลงที่พื้นพร้อมกับเจ้าบ่าวของเธอ ในขณะที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็นั่งอยู่บนเตียง
และเมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเริ่มให้โอวาท ทั้งสองก็รับฟังด้วยความสงบ แต่เพียงแค่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายออกไปจากห้องเท่านั้น สงครามย่อมๆ ระหว่างเจ้าบ่าวและเจ้าสาวหมาดๆ ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
“จะไปนอนที่ไหนก็ไป” น้ำค้างไล่ชายหนุ่มทันทีที่ญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายออกไปจากห้อง
“ได้ไงล่ะ ก็แต่งงานกันแล้ว คิดว่าจะรอดเหรอ” อิธานยกยิ้มอย่างเหนือกว่าชัดเจน
“ฉันไม่มีวันมีอะไรกับคุณอีกหรอก” หญิงสาวตวาดแว้ดทันที
“ถ้าไม่อยากมีแล้วมาบังคับฉันให้แต่งงานกับเธอทำไมล่ะ อย่าคิดว่าเธอจะรอดจากฉันไปได้เลยยัยแม่มด” อิธานเดินเข้าหาหญิงสาวด้วยใบหน้าจริงจัง นั่นทำให้เธอรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดออกมานั้นไม่ใช่แค่พูดเล่น แต่เขาคงคิดจะทำเช่นนั้นจริงๆ
“ฉันก็แค่อยากจะดัดนิสัยคุณ เพราะฉะนั้นออกไปซะ อย่ามาวุ่นวายกับฉันอีก”
“พูดแบบนี้ก็สวยดิครับ แต่งงานแต่ไม่ยอมให้ผัวนอนด้วย แล้วคิดว่าผัวคนนี้มันจะยอมมั้ย มา..มะ..เรามารื้อฟื้นความหลังวันนั้นกันดีกว่า” กล่าวจบอิธานก็รวบตัวหญิงสาวเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอุ่นอย่างรวดเร็ว