สมศักดิ์นั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้าน ชายสูงวัยอายุหกสิบกว่า ทอดมองไปยังเบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมาย มองไปยังถนนเหมือนกำลังรอคอยใครบางคนกลับมา จนนางผ่อนที่ยืนดูผู้เป็นสามีก็สงสารและสมน้ำหน้า ตั้งแต่วันที่มะปรางออกจากบ้านไป สามีนางก็มีอาการซึมอย่างที่เห็น แต่คนปากแข็งเจ้าอารมณ์กลับไม่ยอมรับความจริง ว่าตัวเองเป็นห่วงและคิดถึงลูกสาวมากขนาดไหน แม้ปากจะพร่ำประโยคเจ็บช้ำน้ำใจใส่ลูกสาว ทว่าหัวใจของคนเป็นพ่อ ย่อมมีความรักและห่วงใยไม่จางหาย “เมื่อวานมะปรางโทรมาถาม ว่าพ่อเป็นยังไงบ้าง มะปรางห่วงพ่อนะ” นางผ่อนเอ่ยขึ้น พร้อมกับทรุดตัวลงนั่งข้างสามี หัวใจที่ห่อเหี่ยวแห้งแล้งเหมือนจะเต้นแรงขึ้นจากเดิม เมื่อได้ยินประโยคที่ภรรยากล่าวมา แต่เพราะทิฐิและความถือดี ทำให้สมศักดิ์เลือกที่จะกดความเป็นห่วงไว้ให้ลึกสุดใจ “หึ! มันห่วงพ่อ หรือว่ามันไม่มีเงินกันแน่ ไม่ใช่ถูกไอ้ผู้ชายคนนั้นทิ้งแล้วซมซานอยากจะก