ตอนที่ 4 ข้าไม่ใจร้ายกับคนป่วยหรอก

1482 คำ
พวกเขาเดินออกมาจากนั้นไม่นาน องครักษ์คนหนึ่งของบุรุษหนุ่มที่นางได้ช่วยเหลือเดินมาเชิญนางไปที่ห้อง “แม่นาง คุณชายขอเชิญท่านไปที่ห้องขอรับ” “อืม ได้สิ” “คุณหนูเจ้าคะ พวกเขา….” “ไม่มีอะไรพวกเขามิใช่ศัตรูหรอกไม่ต้องห่วง” “เจ้าค่ะ” ไป๋ซูเม่ยเดินตามองครักษ์หนุ่มไปทันที เมื่อเข้าไปในห้องที่เขานั่งอยู่และมีองครักษ์อีกคนที่คอยทำแผลให้เขาอยู่ “แม่นาง คุณชายมีเรื่องจะคุยกับท่านขอรับ” “เขาพักอยู่ที่นี่ได้จนกว่าจะหาย พวกท่านไม่ต้องห่วงเขาหรอกเพียงแต่ช่วงที่พวกท่านมาพบเขาที่นี่อย่านำพาเรื่องเดือดร้อนมาให้พวกข้าก็พอแล้ว” “ท่านรู้!! ว่าพวกเรา…” “คุณชายของเจ้าบาดเจ็บเคลื่อนไหวยังไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงลงจากเขาเลย แม้แต่เดินลงจากเตียงก็ยังไม่มีแรงมากพอหรอก เจ้าคงไม่คิดว่าจะแบกเขาลงเขาไปได้หรอกกระมัง” “คุณหนู ท่านเข้าใจถูกต้องแล้วขอรับข้าน้อยจึงอยากขอร้องท่าน....” “ได้สิไม่มีปัญหา ข้าไม่ใจร้ายกับคนป่วยหรอก” “ส่วนเรื่องค่ารักษา…” “คุณหนูข้ามิได้เดือดร้อนเรื่องเงิน นางเป็นถึงบุตรสาวของหมอหลวงไป๋เหลียน ไม่ได้ต้องการเงินมากขนาดนั้นพวกท่านทำตามที่นางพูดก็พอ” “อาหยง…” บุรุษหนุ่มมองหน้านางในทันทีเมื่อทราบว่านางคือผู้ใด เดิมทีคิดเอาไว้ว่านางต้องมิใช่คนธรรมดาอยู่แล้วเพราะท่าทางและความชำนาญเช่นนี้แม้จะบอกว่าเป็นท่านหมอเทวดาเขาก็คงเชื่อ แต่สตรีที่เก่งกาจและสามารถอยู่เพียงลำพังในป่ากับสาวใช้เพียงสองคนจะมีสักกี่คนที่ทำได้ “ที่แท้ก็คุณหนูไป๋บุตรีท่านหมอไป๋นี่เอง ล่วงเกินเจ้าแล้ว” “ช่างเถอะ ข้ามิได้พูดในฐานะนั้นกับท่าน ข้าพูดในฐานะหมอที่รักษาคนหากว่าท่านหายแล้วพวกเราต่างคนก็ต่างไป” “ขอบคุณ ข้าจะอยู่กับคุณชายที่นี่…” “ไม่ต้อง…” “ดีเลยเจ้าอยู่ก็ช่วยได้มาก อย่างน้อยช่วงนี้ที่คุณชายพวกเจ้ายังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เจ้าก็ดูแลไปก็แล้วกันข้าจะให้อาหยงนำยามาให้ตามเวลา หากว่ามีอาการอื่นที่มากกว่านี้ก็เรียกข้าได้ ส่วนเจ้าหากว่าจะลงเขาให้เดินลัดออกไปอีกทาง ข้าจะให้อาหยงเดินไปส่งเจ้า เส้นทางนั้นจะถึงในเมืองเร็วกว่าและจะไม่มีผู้ใดพบเห็นเจ้าแน่นอน” “ขอบคุณคุณหนูไป๋ขอรับ” “อืม อาหยงรีบพาเขาไป” “เจ้าค่ะ” พวกเขาเดินออกไปหมดแล้วเหลือเพียงนางและบุรุษหนุ่มตรงหน้า ไป๋ซูเม่ยมองเห็นชามข้าวที่เขากินจนหมดนางจึงเก็บของใส่ถาด “เช่นนั้น…ก่อนหน้านี้ผู้ที่เปลี่ยนชุดให้ข้า…” “ใช่ ข้าเป็นคนเปลี่ยนให้ท่านเอง มีอะไรงั้นหรือ” “ข้า…เจ้า….แคก ๆ เอ่อ…” “หึ หากท่านอายตอนนี้คิดว่าไม่ทันแล้วกระมัง ส่วนหากว่าท่านจะถามข้า ข้าก็จะตอบว่าข้าเป็นหมอ หน้าที่รักษาท่านให้หายเป็นสิ่งที่ข้าต้องทำเช่นกัน” “เช่นนั้น….ก็ต้องขอบคุณเจ้าแล้ว” “ข้าจะไปยกยามาให้ท่านรอสักครู่” “แม่นางไป๋” “มีสิ่งใดอีกงั้นหรือ….องค์ซื่อจื่อ” “เจ้า…ได้ยินงั้นหรือ” “แม้ว่าจะไม่อยากได้ยินแต่กระท่อมไม้แห่งนี้มิใช่ที่ที่ควรจะพูดคุยเรื่องลับ ๆ นักหรอกท่านว่าหรือไม่ อย่าห่วงเลยไม่ว่าท่านจะเป็นผู้ใดต่อให้เป็นองค์ชายข้าก็มิได้สนใจ” “ข้า…ไม่ได้คิดจะโกหกเจ้า” “ข้าเข้าใจ หากเป็นข้า…จนจากกันไปแล้วข้าก็ไม่คิดจะพูดหรอก เอาล่ะข้าจะยกชามไปเก็บท่านก็นอนพักดี ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน” นางเดินถือถาดอาหารออกไปแล้วเขาจึงนึกขำกับท่าทางนั้นของนาง แม้ว่าเขาจะไม่เคยพบเห็นบุตรของท่านหมอหลวงมาก่อนแต่คำร่ำลือต่าง ๆ เกี่ยวกับนางทั้งด้านความชำนาญศาสตร์ทั้งสี่ ความรู้ทางการแพทย์และยังรูปโฉมที่งดงามล่มบ้านล่มเมืองนั่นเมื่อเห็นเช่นนี้แล้วเขาพบว่าที่รำลือกันนั่น ยังน้อยกว่านั้นมากนัก “เย็นชาชะมัด หึ” เขาเคยนึกดูแคลนสตรีเช่นนางมาก่อนเพราะเขาเป็นองค์ซื่อจื่อ เป็นทายาทเพียงคนเดียวของท่านอ๋องแห่ง หยางโจวที่จะขึ้นสืบทอดอำนาจและปกครองเมืองหยางโจว เขาเป็นรองเพียงเหล่าองค์ชายไม่กี่พระองค์เท่านั้น และแน่นอนว่าหลาย ๆ พระองค์ก็เป็นคู่อริเก่ากับเขาและไม่อยากให้เขามีชีวิตอยู่เพื่อแย่งอำนาจในเมืองหลวง “ท่านดื่มยานี้แล้วจะรู้สึกง่วงแต่ยานี้จะช่วยฟื้นฟูภายในได้ดีกว่า ท่านมีวิชายุทธ์พลังปราณของท่านจะฟื้นตัวเร็วขึ้นหากมีแรงก็…” “คุณชาย…” ต้าหมินเดินเข้ามาพอดีที่เขากำลังฟังนางพูด เมื่อเห็นว่าองครักษ์ของเขาเข้ามาแล้วนางจึงหันไปมองและหยุดพูดทันที “เช่นนั้นพวกท่านก็พักผ่อนเถอะ ข้าจะให้อาหยงนำเครื่องนอนมาเพิ่มให้ข้าขอตัวก่อน” แม้ว่าอยากจะคุยต่ออีกสักหน่อยแต่นางก็เดินออกไปแล้ว “เว่ยเฟิงหรง” ซื่อจื่อหนุ่มหันมามองค้อนให้กับองครักษ์อย่างเสียมิได้ “คุณชาย เหตุใดท่านมองข้าเช่นนั้นขอรับ” “เจ้ามันไม่รู้ความจริง ๆ” “ข้าน้อย…ทำสิ่งใดผิดหรือขอรับ” “ช่างเถอะ ให้คนตามสืบหรือยังว่าเป็นฝีมือผู้ใดกันแน่ ข้าเพียงแค่ก้าวขาออกจากหยางโจวก็ถูกลอบทำร้ายที่ชายแดนจนระเห็จมาถึงที่นี่ หากไม่ได้นางช่วยไว้ละก็ข้าคงเป็นอาหารของเสือไปแล้ว” “เรื่องนี้มีผู้ต้องสงสัยอยู่เพียงสองคนขอรับ องค์ชายสี่เสวียนอวี่และองค์ชายหกเสวียนฟง” “หึ พระโอรสของฮองเฮาดูเหมือนว่าจะเกรงกลัวข้าที่เป็นเพียงพระนัดดา (หลานชาย) ของฝ่าบาทมากกว่าเหล่าองค์ชายที่อยู่ใกล้ตัวพวกเขาเสียอีก” “มีผู้ใดไม่ทราบบ้างว่าคุณชายเป็นขุนศึกที่มีความสามารถและเป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ” “เจ้าส่งข่าวไปในวังหลวงให้หานลั่วหรือยัง” “ส่งไปแล้วขอรับ องค์ชายสามก็ส่งจดหมายกลับมาแล้วว่าหากว่าพบตัวท่านแล้วให้ซ่อนตัวก่อน หากพวกเขาไม่พบท่านพวกนั้นคงไม่มีทางหยุดแน่” “เราอยู่ที่นี่ได้อีกไม่นานแล้ว มิเช่นนั้นพวกนางจะเดือดร้อนไปด้วย” “คุณชาย ท่านเป็นห่วงคุณหนูไป๋หรือขอรับ” “ว่าแต่ว่า เหตุใดบุตรสาวของท่านหมอไป๋ถึงมาปลีกวิเวกอยู่ที่นี่คนเดียวเล่า นางมิได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสตรีอันดับหนึ่งของเมืองหยางโจวในตอนนี้หรอกหรือ” “ใช่ขอรับ แต่เห็นว่านางทะเลาะกับท่านหมอเรื่อง…เอ่อ ที่ท่านอ๋องประทานอนุไปให้และบุตรสาวของอนุผู้นั้นทำให้นางเสียโฉม” “เสียโฉมงั้นหรือ ข้าไม่เห็นว่านางจะมีรอยแผลใด ๆ เลยนี่ เจ้าเองก็เห็นรูปโฉมที่งดงามนั่นมิใช่หรือ” “คุณชายท่านลืมไปหรือไม่ว่านางเป็นหมอนะขอรับ” “อ่อ…นั่นสินะ” ห้าวันถัดมา เว่ยเฟิงหรงพักฟื้นจนหายดีแล้ว ตอนนี้เขาเริ่มกลับมาฝึกวิชาดาบแล้ว ช่วงเวลาที่พักอยู่ที่นี่เขาพบกับไป๋ซูเม่ยเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น นางจะแวะมาตรวจเขาเพียงแค่สองวันหนึ่งครั้งและหากไม่มีอาการอื่น ๆ เขาก็แทบจะไม่เห็นนางเลย จนเมื่อกลางดึกคืนนี้ที่เขาเดินออกมารับลมด้านนอกและเดินไปยังเชิงเขาใกล้ ๆ เพราะได้ยินเสียงต้นไม้ไหวและบางอย่างระเบิด เขาจึงเดินเข้าไปอย่างใคร่รู้และพบกับนางอยู่ที่นั่น “นอกจากวิชาแพทย์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว วรยุทธ์นางร้ายกาจถึงเพียงนี้เชียวงั้นหรือ” ราวกับนางได้ยินเพราะไม่นานลมและกิ่งไผ่ตรงหน้าก็ถูกนางพัดและโจมตีเขา เว่ยเฟิงหรงม้วนตัวเพื่อหลบกิ่งไม้นั้นและไปยืนตรงหน้านาง ไป๋ซูเม่ยถอยหลังและตั้งท่าเพื่อต่อสู้แต่เมื่อนางเห็นว่าเป็นเขาจึงได้หยุด “ท่านมาทำอะไรที่นี่” “ข้าเคยได้ยินมาว่าเจ้ามีความชำนาญด้านศาสตร์ทั้งสี่ กลอนหมากอักษรและวาดภาพแต่นึกไม่ถึงว่าจะมีวรยุทธ์ที่เก่งกาจด้วย”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม