“ใช่เห็นแก่ตัวจริงๆ ครับคุณอา แค่ตัวเองไม่ต้องเจ็บปวด ลูกสาวเจ็บปวดแทน คิดยังไงก็เห็นแก่ตัวจริงๆ นั่นแหล่ะ” เอกภพเอ่ยออกมาสำทับด้วยความพึงพอใจ เขาได้ยินการสนทนาของสองพ่อลูกตั้งแต่แรก แต่เขาเลือกที่จะออกมาเพราะประโยคนี้
“มันจะมากเกินไปแล้วนะคุณ” มายาวีที่นั่งอยู่ข้างๆ บิดารีบตำหนิเขาทันที ไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ ในเมื่อตกลงที่จะชดใช้ความผิดบาปแทนบิดาแล้ว เขาก็ควรที่จะหยุดระรานบิดา ไม่ใช่หาช่วงทางกระแนะกระแหนบิดาแบบนี้
“มันไม่มากเกินไปหรอก สำหรับสิ่งที่พ่อคุณทำกับพ่อผม เพราะต่อให้ผมพูดยังไง พ่อคุณก็คงไม่ตายเหมือนพ่อผมหรอก” เอกภพเอ่ยออกมาเสียงขุ่น เขาไม่พอใจหญิงสาวที่กล้ามาตำหนิเขา โดยที่ไม่ได้ดูพ่อตนเองเลยว่าเป็นคนแบบไหน คนเลวแบบพ่อของเธอไม่ควรจะมีใครมาปกป้องให้ลอยนวลจากความผิดครั้งนี้
“ก็ฉันนี่ไง เป็นตัวแทนคำขอโทษของพ่อแล้ว เพราะฉะนั้นคุณก็ควรหยุดว่าพ่อเสียๆ หายๆ ได้แล้ว” มายาวีเถียงกลับทันควัน คุณมนัสมองทั้งคู่แล้วยิ่งหนักใจ เริ่มต้นการพบหน้ากันก็เริ่มทะเลาะกันแล้ว ถ้าบุตรสาวไปเป็นนางบำเรอของเขาจริงๆ คงเกิดสงครามแน่ๆ แค่คิดก็ห่วงบุตรสาวจนแทบจะไม่อยากปล่อยให้เธอไปเป็นนางบำเรอของเอกภพเลย
“ผมไม่ผิด ผมพูดความจริง ก็พ่อคุณเห็นแก่ตัวจริงๆ นี่นา เพราะฉะนั้นอย่ามาปกป้อง พ่อคุณควรรู้ตัวว่าเขาเป็นคนยังไง” เอกภพก็ไม่ยอมลดราวาศอกให้หญิงสาวเช่นกัน เธอเป็นแค่นางบำเรอ เธอไม่ควรมาขึ้นเสียงกับเขาแบบนี้ คนอย่างเธอต้องเจอเขาทรมานอย่างหนักที่กล้ามาต่อปากต่อคำโดยไม่สำนึกผิดแม้สักนิด
“พอเถอะทั้งสองคน ถ้ามันลำบากขนาดนั้น อาตายให้ก็ได้นะ ความแค้นของเอกจะได้จบสักที มายด์ก็จะได้ไม่ต้องมารับกรรมนะลูก” คุณมนัสเอ่ยออกมาอย่างตัดสินใจ สองสามวันมานี้ ท่านรู้สึกหนักหน่วงหัวใจเหลือเกิน ท่านก็เหนื่อยกับการมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ เพราะความรู้สึกผิดกำลังทำร้ายการอยากมีชีวิตอยู่ของท่านลงเรื่อยๆ
“ไม่นะคะพ่อ พ่ออย่าคิดแบบนั้นค่ะ พ่อต้องอยู่ต่อนะคะ มายด์ยอมทุกอย่างได้เพื่อพ่อนะคะ ขออย่างเดียวพ่อต้องอยู่กับมายด์ไปนานๆ” มายาวีรีบห้ามบิดาทันที คนที่เธอรักที่สุดบนโลกใบนี้คือบิดา ตั้งแต่จำความได้ เธอก็มีกันสองคนพ่อลูก จะให้ท่านมาจบชีวิตตนเองแบบนั้นเธอทนไม่ไหวหรอก