หลังจากที่เดินเข้ามาหลังร้าน หญิงสาวก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด นั่นทำให้เจนิตาหรือเจน เข้ามาถามลูกน้องด้วยความเป็นห่วง แม้ว่าเธอจะดุและเข้มงวดกับลูกน้อง แต่หากว่าลูกน้องเจอปัญหา เธอก็จะรีบยื่นมือเข้าไปช่วยทันที
“นาเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม บอกพี่สิ มีใครมันมาลวนลามนาหรือเปล่า” เจนิตาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ค่ะพี่เจน ไม่มีใครทำอะไรนา” นิรนาเอ่ยออกไปตามจริง เขาก็แค่ลูกค้า แต่เป็นลูกค้าที่ยังมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเธอเสมอมา
“ไม่มี งั้นนาเป็นอะไร มีอะไรบอกพี่ได้นะ พี่ก็เหมือนพี่สาวนา พี่จะได้ช่วยนาไง” เจนิตายังคงซักต่อด้วยความเป็นห่วง ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและนิรนามันมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง เพราะเธอรักนิรนาเหมือนน้องสาว แล้วอยู่ดีๆ น้องสาวของเธอมานั่งร้องไห้แบบนี้ เธอก็เลยเป็นห่วงอย่างมาก
“พี่เหมเขามาที่นี่” นิรนาเอ่ยออกมาเสียงสั่น
“เหมไหน” เวลาที่เจนิตาพะวงหรือตกใจเธอจะคิดอะไรไม่ค่อยออก
“พี่เหมอดีตสามีของนาไงคะ” ยิ่งเอ่ยชื่อเขา นิรนายิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม
“เขาไม่ได้มาวุ่นวายค่ะ เขาแค่เข้ามาสั่งอาหารที่ร้าน แต่เป็นนาเองที่อ่อนแอ” นิรนาเอ่ยออกมาตามตรง เธอไม่อยากให้ร้ายเหมันต์ เขาอาจจะบังเอิญผ่านมาที่นี่ มาเป็นลูกค้าจริงๆ และเขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรก็ได้ เขาอาจจะแค่ทักทายเธอตามประสาคนรู้จักเท่านั้น แต่เป็นเธอเองต่างหากล่ะที่ไม่เข้มแข็งพอ ไม่สามารถทักทายเขาได้ตามปกติ อย่างที่คนเคยรู้จักหรือใช้ชีวิตร่วมกันเขาทำกัน
“คงไม่เคยลืมเขาเลยสินะ” เจนิตาเอ่ยออกมาด้วยความเห็นใจ เธอจำวันแรกได้ดี วันที่นิรนามาของานทำที่นี่ เธอเหมือนนกปีกหักที่กำลังบาดเจ็บอย่างรุนแรง แววตาของเธอก็เต็มไปด้วยความเศร้า เหมือนว่าเธอจะไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ด้วยซ้ำ กว่าที่เธอจะดีขึ้นได้ขนาดนี้มันใช้เวลาหลายปีทีเดียว แต่วันนี้สิ่งที่เจนิตาเห็นตรงหน้า มันกำลังบ่งบอกว่านิรนาไม่เคยดีขึ้น แค่พยายามดีขึ้นเท่านั้น