ชินหวางอ๋องเล่ออี้นั่งจ้องมองหน้าซีดเผือดของอดีตพระชายา นางนอนอยู่บนเตียงกว้าง เตียงที่เขาเคยนอนกอดนางทุกค่ำคืน แสงสว่างส่องเข้ามาทางหน้าต่าง เขาอังมือใต้จมูกโด่งรั้น ไร้ซึ่งลมหายใจหรือสัญญาณชีพ ร่างนางซีดลงเรื่อย ๆ ร่างนุ่มละมุนเริ่มแข็งขึ้นเล็กน้อย
นางตายแล้ว
พิษดับสูญ คือพิษร้ายแรง ตายง่าย ไร้ความทรมาน เขาเลือกพิษนี้จากบรรดาพิษหลายร้อยหลายพันชนิดในใต้หล้า เลือกเองกับมือ เพื่อให้นางตายทรมานน้อยที่สุด
ใครบ้างเล่าจะอยากฆ่าเมียของตน
ใครบ้างเล่าอยากเห็นสตรีคู่ดวงใจต้องตกตายไปต่อหน้าต่อตา
ใครบ้างเล่าหากเห็นนวลนางผู้เคยเคียงหมอนสิ้นลมแล้วจะมีความสุข
เขาคลุมผ้าห่มร่างนาง เรียกนางกำนัลเข้ามาเปลี่ยนชุดให้นางตามศักดิ์ชินหวางเฟย ศักดิ์ตี๋ฝูเหริน ชายาเอกและชายาเพียงคนเดียวของชินหวางอ๋องเล่ออี้
เล่ออี้ไม่มีชายารองหรือแม้แต่อนุในตำหนักก็ไม่มี ชินหวางอ๋องมีนางเพียงคนเดียวเท่านั้น หนึ่งเดียวผู้เคยนอนกอดแนบกายทุกค่ำคืน
นางกำนัลยกถาดทองคำด้านบนวางเครื่องทรงเต็มพิธีการตำแหน่งชินหวางเฟย รวมทั้งเครื่องทรงอันวิจิตรละเมียดสมเกียรติทุกประการ อาภรณ์สีแดงสลับทองปักด้วยดิ้นทองคำแท้เต็มผืนผ้า สง่างามยิ่งกว่าเครื่องทรงของฮองเฮาในรัชกาลก่อน มงกุฎรวมถึงเครื่องประดับล้วนสูงค่าอลังการ
อาภรณ์งดงามสตรีย่อมชื่นชอบ แต่ใครบ้างเล่าจะอยากสวมเมื่อยามสิ้นลมแล้ว
นางกำนัลหกคนกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าให้พระชายาเอกหวินชิง ชินหวางอ๋องเล่ออี้ทอดสายตามองออกนอกหน้าต่าง สวนหน้าตำหนักเต็มไปด้วยดอกเหมยกุ้ยสีแดงสดบานสะพรั่ง ดอกไม้กำลังส่งกลิ่นหอมกำจายไปทั่วบริเวณ ทั้งตำหนักปลูกเหมยกุ้ยสีแดงเต็มไปหมด ต้องเป็นสายพันธุ์จากทางเหนือใช้เวลาเดินทางมาถึงที่นี่ราวสองเดือน เหมยกุ้ยพันธุ์นี้ส่งกลิ่นหอมไกล งดงามยิ่งนัก แต่ยังน้อยกว่าความงามของหวินชิง
นางชื่นชอบดอกไม้นี้มาก
เล่ออี้ปรายตามองร่างงดงามในอาภรณ์ชุดเครื่องทรงตามพิธีการ โดยพฤตินัยเล่ออี้คือองค์ฮ่องเต้อย่างไม่ต้องสงสัย แม้มีตำแหน่งฮ่องเต้สถาปนาแด่องค์รัชทายาทเล่อเสียนหลง แต่อำนาจที่แท้จริงอยู่ในมือพยัคฆ์ร้ายผู้เป็นเสด็จอาขององค์ฮ่องเต้ เขามีหน้าที่บริหารราชกิจแทนฝ่าบาท กุมตราลัญจกรอำนาจสูงสุดอยู่ในมือ
ยิ่งสูง ยิ่งหนาว ดั่งคำกล่าวนี้ ช่างเป็นความจริง
เขามองร่างนาง มองความงดงามในอาภรณ์วิจิตร ความรู้สึกโดดเดี่ยวถั่งโถมเข้ามา คลื่นอารมณ์โถมทับจนแทบไม่อาจทนไหว นางตายแล้ว ตายด้วยน้ำมือเขาผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของภรรยา สามีคนใดบ้างกล้ายื่นสุราพิษให้ภรรยาดื่ม มองนางตายในอ้อมกอด มันคงมีแต่เล่ออี้เท่านั้นที่ทำได้
ใจต้องเหี้ยมเพียงใดจึงทนไหว
องค์รักษ์นำโลงศพทำจากไม้หลี่แกะสลักประดับหยกขาวลงมาตั้งบนตั่งยกสูงตัวใหญ่ องค์รักทำความเคารพเต็มพิธีการเบื้องหน้าศพของพระชายา องครักษ์สี่นายเคลื่อนกายเข้าใกล้หมายจะเคลื่อนย้ายศพของพระชายาเอกหวินชิงใส่ในโลง
"ไม่ต้อง ข้าจะเป็นผู้อุ้มนางใส่ในโลงเอง" เสียงเข้มทุ้มของท่านอ๋องดังขึ้น
เล่ออี้เดินเข้าไปที่เตียง ยืนมองร่างอันไร้วิญญาณของชายาเอก เขาก้มลงอุ้มร่างระหงไว้ในอ้อมกอด อุ้มร่างอันเริ่มแข็งทื่อไปใส่ในโลงเย็น ภายในบรรจุหยกเหมันต์ไว้ให้ไอเย็นเฉียบ เขายืนมองใบหน้าของนาง ร่างของหวินชิงนอนสงบนิ่งอยู่ในโลง เขาก้มลงประทับรอยจูบบนหน้าผากนางคราหนึ่ง
"เคลื่อนขบวนศพไปยังสุสานราชวงศ์" ชินหวางอ๋องเล่ออี้สั่งการด้วยเสียงอันดัง
ขบวนองครักษ์สองร้อยคน พร้อมนางกำนัลสองร้อยคนแต่งกายอย่างชุดไว้ทุกข์เคลื่อนขบวนไปยังสุสานราชวงศ์อย่างสมเกียรติ
ท่านอ๋องกระตุกม้านำขบวน ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยนั้นซ่อนอารมณ์ความรู้สึกอันยากต่อการคาดเดา