ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันสว่างไสว ร่างสองร่างกำลังเริ่มต้นบทรักบทใหม่ ฝ่ายชายนั้นคือเจตน์เจ้าของโรงแรมปางสุดา โรงแรมห้าดาวซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดทางภาคเหนือของประเทศไทย ส่วนฝ่ายหญิงนั้นคือ ปุญญิศา พนักงานต้อนรับของโรงแรม ซึ่งเธอยอมเป็นเหยื่อให้เขาล่า ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองนั้นจะเรียกว่า Friends with benefits ก็ว่าได้ ไม่มีคำว่าผูกมัด ไม่มีคำว่าหึงหวง ต้องการเมื่อไหร่ก็มาได้เมื่อนั้น
และคืนนี้ความต้องการของสองคนก็ตรงกันอีกครั้ง เมื่อเจตน์เป็นฝ่ายมาหาปุญญิศาถึงที่ห้องของเธอ ซึ่งเป็นสังเวียนรักที่คุ้นเคยของทั้งคู่ หญิงสาวที่รอคอยเขาด้วยความคิดถึงอยู่แล้วก็เปิดประตูต้อนรับเขาทันที ร่างสูงจึงก้าวเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มที่มองตารู้ใจ ก่อนจะอ้าแขนรับร่างบางที่ตรงเข้าไปกอดเขาด้วยความคิดถึง
“ไหนบอกว่าจะไม่มีความรู้สึกอะไรไง” เจตน์เอ่ยแซ็วหญิงสาว
“ก็ใครใช้ให้ลีลาดีล่ะคะคุณเจตน์” ปุญญิศาเอ่ยพร้อมท่าทางยั่วยวน
“ถ้าไม่เลิกทำแบบนี้ ฉันก็คงไปไหนไม่รอดแน่ๆ” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม เขายอมรับกับตัวเองว่าเขากำลังติดใจเธอ แม้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะมีมานานร่วมปี แต่เขากลับไม่เคยเบื่อที่จะมีสัมพันธ์กับหญิงสาว
“แล้วอยากไปไหนล่ะคะ” ปุญญิศาเอ่ยถาม พลางเอามือของเธอลูบไปที่แผงอกกว้างของชายหนุ่ม เธอยอมรับว่าเธอหวั่นใจขึ้นมาทันทีเมื่อเขาพูดแบบนี้ เพราะความสัมพันธ์ที่เธอกับเขาเป็นอยู่ตอนนี้ เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการมีคนใหม่หรือจริงจังกับใคร ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ต้องจบลงทันที ซึ่งปุญญิศาไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น
“ไม่ได้อยากไปไหนหรอก แค่เธอคนเดียวฉันก็รับไม่ไหวแล้ว แม่กระดังงาลนไฟของฉัน” เจตน์กล่าวก่อนที่จะโน้มใบหน้าเข้าหาใบหน้าสวยหวาน แล้วฉวยโอกาสครอบครองที่เรียวปากบางของหญิงสาวก่อนที่ลิ้นสว่านของเขาจะสอดแทรกเข้าไปหาความหอมหวานจากโพรงปากบางอย่างไม่รู้จักเบื่อ
ฝ่ายหญิงสาวนั้นก็ใช้ลิ้นเรียวเล็กของเธอ เกี่ยวกวัดกับเรียวลิ้นร้อนของเขา ก่อนที่มือบางจะค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อของชายหนุ่มด้วยความชำนาญ ส่วนชายหนุ่มก็เช่นกัน เขาจัดการปลดเปลื้องชุดนอนสวยหวานของหญิงสาวออกจากตัวอย่างง่ายดาย
เพียงไม่นานทั้งสองร่างก็แทบจะไร้ซึ่งอาภรณ์ขวางกั้น ชายหนุ่มจึงอุ้มร่างบางขึ้นมาในอ้อมแขนแกร่ง ทั้งที่ปากของเขายังคงควานหาความหอมหวานจากโพรงปากบางของหญิงสาว ก่อนที่เขาจะพาเธอไปจบลงที่เตียง