บทที่8

1610 คำ
บทที่8 ฉันตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่าเสียงที่ว่าคุ้นเคยเมื่อกี้จะใช่พี่โยธาจริงๆ หรือเปล่า สรุปคือใช่เขาจริงๆ ด้วย แถมตอนนี้เขาก็ดูเหมือนไม่อยากจะเชื่อสายตัวเองด้วยว่าจะเจอฉันที่นี้ แต่สายตาและสีหน้านั่นก็เปลี่ยนเป็นอีกแบบทันทีเมื่อเขาตั้งสติได้ ก่อนจะหันไปทางพี่บาเทนเดอร์อีกครั้งเพื่อรับคำตอบที่ถามออกไปก่อนหน้านี้ "เฮียวาโยยังไม่เข้ามาเลยครับคุณโยธา" สิ้นเสียงพี่บาเทนเดอร์ตอบ พี่โยธาก็พยักหน้ารับก่อนจะปลีกตัวเดินไปอีกทาง ฉันที่ยังไม่ละสายตาจากเขาเลยต้องรีบลงจากเก้าอี้วิ่งตามเขาไปให้ทัน ก่อนที่เขาจะหายตัวไปอีก หมับ! "เดี๋ยวพี่โยธา" ฉันคว้าแขนข้างหนึ่งของพี่โยธาไว้ ก่อนที่ประตูลิฟต์จะถูกปิดลง และก่อนที่มันจะถูกปิดลงฉันก็ไม่รอช้าที่จะย้ายตัวเองเข้าไปอยู่ในลิฟต์กับเขาด้วยเสียเลย "เข้ามาด้วยทำไม" เสียงทุ้มติดรำคาญเอ่ยถามฉัน แหม่ ไม่เจอกันหลายวันไม่คิดถึงกันบ้างหรือไง จูบก็จูบกันแล้ว คิดถึงกันบ้างหน่อยก็ได้นะ นี่อะไรเจอหน้ากันแล้วมาทำเสียงห้วนติดรำคาญใส่เฉยเลย น่าโกรธชะมัด "ก็อยากไปด้วยอะ" "ไปไหน" "ก็แล้วพี่จะไปไหนละ" "ชั้นบนไม่อนุญาตให้คนนอกเข้า" "งั้นพี่ก็ทำให้พริกเป็นคนในสิ ง่ายจะตาย" "ทำยังไง" "จับพริกทำเมีย" มุมปากแสยะยิ้มทันทีที่ฉันว่าอย่างนั้นออกไป แถมยังกลอกตาเหมือนเอือมระอาใส่ด้วย ฉันที่เห็นแบบนั้นแล้วถึงกับใจสั่นวูบเลย นี่เขาเอือมระอาที่ฉันตอแยเขาขนาดนี้เลยเหรอ น่าน้อยใจชะมัด "เธอกลับไปได้แล้ว ที่นี่ไม่เหมาะกับเธอหรอก" "ไม่กลับ วันนี้เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องพี่โยธา" "คุยอะไร" เขาถามฉันเสียงห้วน จ้องด้วยสายตาเบื่อหน่ายเต็มประดามาที่ฉัน เขานี่มัน...น่าโดนหยิกเอวจริงๆ เลย "พี่หายไปไหนมา พริกส่งข้อความไปพี่ก็ไม่ตอบ โทรไปก็ไม่รับแถมยังไม่มากินข้าวพร้อมเพื่อนอีก จะหนีหน้าพริกไปถึงไหน แค่พริกจูบพี่แค่นั้นพี่ถึงกับต้องหายหน้าหายตาไปจากพริกเลยเหรอ มันไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอพี่โยธา" "พูดจบยัง" เหอะ พูดจบยังงั้นเหรอ ฉันพูดยาวเป็นหางว่าวไปขนาดนั้น เขาตอบมาแค่ว่าพูดจบยังงั้นเหรอ มันจะเกินไปแล้วนะ! "นี่! คิดว่าพริกชอบพี่แล้วพี่จะทำยังไงกับความรู้สึกพริกก็ได้งั้นเหรอ เห็นใจคนที่ทุ่มเทเพื่อพี่หน่อยได้มั้ยวะ นี่ชอบนะเว้ย ชอบฉิบหายอะเข้าใจปะ อย่าเล่นตัวได้ไหม" เออ มันสุดแล้วอะ โมโหฉิบหาย ตอบมาได้ไงว่าพูดจบยัง คิดว่าตัวเองหล่อนักเหรอ ก็หล่อแหละ นี่ก็สวยไง มีผู้ชายตามจีบเป็นพรวนแต่ไม่เอาไง สนใจอยู่คนเดียวก็ตาบ้าตรงหน้านี่แหละ แล้วดูทำกับฉัน ตอบแทนคนที่ชอบ คนที่คอยตามจีบกันแบบนี้เหรอ คือเข้าใจปะ ว่าถ้าไม่ชอบกันเลยตั้งแต่ตอนแรกอะ ฉันก็ไม่พยายามขนาดนี้หรอก แต่นี่ให้ความหวังไง ทำดีกับฉันทำเหมือนใส่ใจอบอุ่นกับฉัน ใครมันจะไม่หวั่นไหวไม่ชอบบ้างวะ ตัดภาพมาที่ตอนนี้ดิ เป็นบ้าอะไรที่ต้องเย็นชากันขนาดนี้ด้วยอะ "แล้วใครให้เธอมาชอบฉัน" "แล้วใครใช้ให้พี่ทำดีด้วยวะ" "..." "..." พอฉันลั่นประโยคสุดท้ายด้วยความเดือดดาลออกไปพี่โยธาก็เงียบไปทันที เอาแต่จ้องตาฉันอย่างเดียวก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วดึงแขนฉันให้ขยับไปยืนข้างๆ เขาแทนก่อนจะกดขึ้นชั้นสามของผับในที่สุด ตอนนี้ฉันเลยกลายมาอยู่ในห้องทำงานขนาดใหญ่กับเขาสองคน โดยที่เขากำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะห่างจากฉันไปประมาณหนึ่ง ส่วนฉันตอนนี้ก็นั่งอยู่บนโซฟาที่เขาพามาทิ้งให้นั่งอย่างเงียบๆ ไป ใช่แล้ว หลังจากที่ลิฟต์จอดที่ชั้นสามพี่โยธาก็ดึงแขนฉันให้เดินตามเขาไป ก่อนจะถึงหน้าห้องห้องหนึ่งซึ่งก็คือห้องที่ฉันนั่งทิ้งลมหายใจอยู่ตอนนี้ พาเข้ามาปุ๊บเขาก็ทิ้งให้ฉันนั่งลงบนโซฟา ส่วนเขาก็เดินไปเปิดคอมนั่งทำงานอะไรไม่รู้อยู่คนเดียว โดยที่ไม่พูดไม่ถามอะไรฉันอีกเลย เราต่างฝ่ายต่างเงียบไม่มีใครปริปากพูดอีกหลังจากใส่อารมณ์ในลิฟต์ไปก่อนหน้านี้ เฮ้อ เอาจริงๆ เลยนะ ฉันโคตรอึดอัดกับความเป็นอยู่ตอนนี้เลย ถึงแม้ว่าห้องมันจะกว้างขวางมากมีวิวกลางคืนให้มองเห็นผ่านกระจกใสด้านหลังพี่โยธาก็เถอะ แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเลย มันอึดอัดแบบอยากระเบิดอารมณ์ออกมา อึดอัดที่เขาเงียบไม่พูดกับฉันและฉันก็ไม่ชอบที่เดาทางเขาไม่ออกแบบนี้ด้วย แถมฉันก็ไม่รู้ว่าภายใต้การนั่งทำงานของเขาตอนนี้ เขากำลังคิดอะไรอยู่หรือเปล่า "พี่โยธา...พี่เป็นเจ้าของที่นี่เหรอ" ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นคุยกับอีกฝ่ายยังไง เลยละลาบละล้วงถามเรื่องส่วนตัวละกันเพราะมันน่าถามที่สุดแล้ว "...เปล่า" "ถ้าเปล่าแล้วพี่ไปนั่งทำอะไรตรงนั้น ห้องนี้มันเป็นห้องของเจ้าของผับนี่" เพราะฉันทันสังเกตเห็นป้ายที่ติดตรงประตูก่อนเข้ามาก่อนหน้านี้ว่ามันเขียนว่าห้องผู้บริหาร ซึ่งหมายถึงห้องของเจ้าของผับ แล้วถ้าพี่โยธาไม่ใช่เจ้าของแล้วเขาไปนั่งทำอะไรตรงนั้น "พี่ชายฉันเป็นเจ้าของที่นี่ ส่วนฉันเป็นน้องจะนั่งตรงไหนก็ได้" แหม่ ดูตอบคำถามเข้า ปากแซ่บใช้ได้นะพ่อคุณ "งั้นก็ช่วยมานั่งในใจพริกหน่อยได้ไหม" ว่าจบฉันก็ยกมือขึ้นมาเท้าคางกะพริบตาปริบๆ มองตาคนที่ช้อนสายตาขึ้นมามองฉันด้วยสายตาเชิญชวนอย่างยั่วยวนพร้อมกับรอยยิ้มขยี้ใจไปหนึ่งกรุบ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหาเขาที่โต๊ะปิดโน้ตบุ๊คตรงหน้าของเขาลงไป จากนั้นก็ใช้นิ้วชี้ลากไปกับโต๊ะขณะที่กำลังเดินอ้อมเพื่อไปนั่งตักของเขาในเวลาต่อมา... "พี่ใจอ่อนให้พริกบ้างเถอะ พริกรู้นะว่าพี่ก็ชอบพริก ไม่งั้นพี่จะใจดีกับพริกทำไม" "..." "ถ้าพี่ไม่ชอบพริก วันนั้นพี่ก็คงไม่พาพริกไปที่ห้องของพี่...จริงไหม" ฉันพูดพร้อมกับสบสายตาของพี่โยธาอย่างยั่วยวน ไม่ลืมที่จะใช้นิ้วเรียวสวยของตัวเองกรีดกรายเล่นบนแผงอกน่าซบนั่นไปด้วย หมับ! แต่…สิ่งที่ไม่คาดคิดก็มักจะเกิดขึ้นกับฉันเสมอ 3นาทีต่อมา… “อี้โออ้า! อี้อำอ้าอะไออองอี้เอี้ย” ฉันอยากจะบ้าตาย ยั่วยวนขนาดนั้นแล้วยังเมินเฉยอีกเหรอเนี่ย แล้วไม่ได้เมินเฉยกันธรรมดาด้วยนะ ตาพี่โยธาบ้านั่น เขาจับฉันมามัดมือมัดเท้าแถมยังใช้สกอตช์เทปปิดปากฉันด้วยก่อนจะเอาฉันมาโยนทิ้งในห้องนอนมืดๆ คนเดียว ส่วนเขาก็ออกไปไหนแล้วไม่รู้ ใช่! เขา มัด แขน มัด ขา ฉัน! พวกเธออ่านไม่ผิดหรอก คนหล่อคนนั้นที่ฉันเฝ้าอวยมาตลอดว่าเป็นพ่อเทพบุตร เขา มัด แขน มัด ขาฉันค่ะ! ฮึ่ย! แล้วห้องมันก็มืดขนาดนี้ ไม่สงสารผู้หญิงตัวเล็กๆ สเปกชายไทยแบบฉันบ้างเลยหรือไง ปึก! แอ๊ดด! “มาถึงนานยังวะ” เสียงใครอะ อยู่ ๆ ฉันก็ได้ยินเสียงเหมือนผู้ชายดังขึ้นอยู่ข้างนอก ฉันก็เลยพยายามลงจากเตียงด้วยสภาพโดนมัดมือมัดเท้า โดดดึ๊งๆ เป็นผีจีนเพื่อเอาหูแนบไว้กับบานประตู “ไม่นานเท่าไหร่ เออเฮีย ผมติดตั้งพวกโปรแกรมที่เฮียต้องการเสร็จแล้วนะ” “เหรอวะ โคตรไว งั้นก็ขอบใจมึงด้วยที่มาช่วย” “อืม ไม่เป็นไร งั้นผมไปก่อนนะ” ฮะ! ปะไปก่อน ไปไหน เดี๋ยวสิ แล้วฉันละ ฉันอยู่นี้นะ พาฉันออกไปด้วยสิ พี่โยธา! “อื้อ! เอี๋ยว!” ฉันพยายามอย่างมากที่จะสลัดไอ้เชือกที่มัดมือออก แต่สลัดยังไงพยายามแค่ไหนมันก็ไม่หลุดนะสิ ฮรื่อ นี่กะจะขังฉันไว้ที่นี่จริงเหรอ? ปึก! ทว่า…แสงไฟจากข้างนอกก็ส่องเข้ามา และใช่ค่ะ อยู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิด และคนที่มาเปิดก็ไม่ใช่ใครที่ไหนด้วย เขาคือคนที่มัดมือมัดเท้าฉันนั่นแหละ แถมตอนนี้ก็ไม่พูดมากทำเพลงด้วย เขารีบขยับตัวเดินเข้ามาอุ้มฉันพาดบ่าไว้ จากนั้นก็หมุนตัวเดินผ่านหน้าโต๊ะทำงานที่มีผู้ชายหน้าตาหล่อไม่แพ้เขาแต่ดูทรงแบดกว่ากำลังช้อนตาขึ้นมามองตามเราสองคนด้วยสายตาแอบงงงวยจนสุดสายตา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม