ตอนที่ 8
มัทฉะถั่วแดง
เช้าวันต่อมา
เบนจิโร่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทั้งสองคน มองท่าทางมีพิรุธของทั้งสองคนด้วยสายตาจับผิด เมื่อต่างฝ่ายต่างไม่พูดไม่จาเอาแต่ก้มหน้าก้มตาทานอาหารเช้าอย่างผิดปกติ
“แกไปแกล้งอะไรน้องอีกหรือเปล่า” เบนจิโร่เอ่ยถามขึ้น
“ท่านปู่เห็นผมเป็นคนยังไงครับ คิดว่าผมจะว่างมานั่งแกล้งเธอทุกวันรึไง”
“เรียกน้องให้มันดีๆ หน่อย”
“แล้วผมเรียกไม่ดีตรงไหน”
“เรียกน้องว่ายูเมะจัง นี่คือคำสั่งจากฉัน”
“เฮอะ ตกลงใครหลานท่านปู่กันแน่ครับ” เซนไคโร่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ
“ไหนลองเรียกสิ”
“...”
“ถ้าแกไม่ยอมเรียกน้องว่ายูเมะจัง วันนี้ฉันก็ไม่ให้แกไปไหนจนกว่าจะได้ยินคำนี้นั่นแหละ”
“ยูเมะจัง”
“คิกๆ ~” ยูเมะหลุดหัวเราะออกมาอย่างลืมตัว เมื่อได้เห็นเซนไคโร่ถูกบังคับอย่างหมดหนทาง เหมือนกับที่เขาต่อว่าเธอเมื่อวานมันย้อนกลับเข้าตัวเขายังไงยังงั้น “ขอโทษค่ะ” ยูเมะก้มหน้าหลบสายตาเยือกเย็นจากเซนไคโร่ที่ตวัดมองมาด้วยท่าทางเลิ่กลั่ก
“ถ้าเซนไคซังแกล้งอะไรหนูยูเมะจัง หนูมาบอกปู่ได้เลยนะรู้ไหม”
“ค่ะ คุณปู่” ยูเมะรับคำด้วยรอยยิ้มที่สดใส อย่างน้อยในสถานที่ และสถานการณ์ที่ไม่คุ้นชิน เบนจิโร่ก็ยังให้ความรักความเอ็นดูเธอเหมือนเป็นลูกหลานแท้ๆ ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายลงได้บ้าง
เบนจิโร่ส่งยิ้มให้ยูเมะด้วยความเอ็นดู เพราะถึงแม้ตระกูลยากูซ่าจะต้องการผู้ชายเอาไว้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าแก๊ง แต่การที่ได้เห็นความน่ารัก ซุกซนของเด็กผู้หญิงภายในบ้านก็ทำให้บรรยากาศที่อึมครึม ดูผ่อนคลาย และสบายตามากกว่าการที่มีแต่เหล่าซามูไรเดินถือดาบไปมาภายในบ้านหลายเท่า และหากได้มีหลานตัวน้อยๆ วิ่งซนเรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะเพิ่มด้วยก็คงจะดีไม่น้อย เบนจิโร่ได้แต่คิดในใจ เพราะการที่เขาเลี้ยงดูเซนไคโร่ให้เติบโตมาพร้อมกับความเป็นผู้นำ ทำให้เขาเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง การที่จะบังคับให้เซนไคโร่แต่งงานกับยูเมะจังคงไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงแม้เขาจะใช้วิธีที่อาจจะสกปรกไปสักหน่อย แต่มันก็ยังคงต้องใช้เวลาอยู่ดี แต่ดูเหมือนวิธีของเขาก็ทำให้เขาได้เห็นปฏิกิริยาที่ตอบสนองของทั้งสองคนได้บ้าง
"วันนี้แกก็พาหนูยูเมะจังไปเดินเล่นหน่อย เผื่อน้องอยากซื้อของใช้ส่วนตัว"
"ให้คนขับรถพาไปก็ได้นี่ครับ"
"ฉันให้แกเป็นผู้ปกครองน้อง ก็เพื่อให้แกได้ดูแลน้องอย่างเต็มที่ ไอ้หลานคนนี้" เบนจิโร่ถอนหายใจอย่างปลงตก
"แบบนี้เซนไคซังก็ต้องตามใจหนูใช่ไหมคะ" ยูเมะเอ่ยถามขึ้นด้วยแววตาเป็นประกาย
"แน่นอน อยากได้อะไร อยากไปไหนก็บอกเซนไคซังเลย"
"ผมไม่ใช่คนรับใช้นะท่านปู่" เซนไคโร่แย้งขึ้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายใจ ที่ทั้งสองคนเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
"ฉันก็ไม่ได้บอกว่าแกเป็นคนใช้สักหน่อย ปู่พูดแบบนั้นเหรอยูเมะจัง"
"เปล่าค่ะ คุณปู่แค่บอกให้เซนไคซังตามใจหนูเฉยๆ" ยูเมะจังหันไปส่งยิ้มล้อเลียนเซนไคโร่ด้วยท่าทางทะเล้น ทว่ากลับถูกอีกฝ่ายตวัดหางตามองมาอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ก็ไม่ได้ต่อปากต่อคำใดๆ เพิ่มเติม
ตลาดหมู่บ้านไซบาอิ
ยูเมะเดินเล่นในตลาดด้วยความสนอกสนใจกับสิ่งของที่วางขายอยู่ในตลาด เพราะนานมากแล้วที่เธอไม่ได้มาเดินเที่ยวเล่นแบบนี้
"ถ้าเซนไคซังแกล้งหนูหนูจะฟ้องท่านปู่" ยูเมะหยุดเดินแล้วหันไปบอกดักทางเซนไคโร่เอาไว้
"ขู่ฉัน? " เซนไคโร่เลิกคิ้วหนาขึ้นเป็นสัญลักษณ์เชิงคำถาม
"ไม่ได้ขู่ค่ะ หนูแค่ป้องกันตัวเองเฉยๆ ว่าถ้าเซนไคซังคิดจะแกล้งหนูอีก หนูจะฟ้องคุณปู่"
เซนไคโร่มองหญิงสาวที่พยายามตีสีหน้าเคร่งขรึมด้วยสายตารำคาญ ก่อนจะเดินนำหน้าเธอเข้าไปในตลาด แต่ก็ถูกมือเรียวดึงแขนเสื้อไหมพรมสีเทาเอาไว้เสียก่อน ทำให้เขาต้องหันกลับไปมองอย่างเลี่ยงไม่ได้
"อะไรอีก"
"หนูอยากกินมัทฉะถั่วแดงค่ะ" ยูเมะบอกพลางส่งสายตาไปยังร้านขายไอศกรีมที่อยู่อีกฝั่งด้วยแววตาออดอ้อน
"อยากกินก็ไปซื้อ"
"..." ยูเมะแบมือทั้งสองข้างไปตรงหน้าเซนไคโร่ด้วยแววตามีความหวัง "ขอเงินหน่อยค่ะ ไม่ได้เอาเงินมา"
"แล้วเวลาออกนอนบ้านเธอ..."
"ยูเมะจังค่ะ ท่านปู่ให้เรียกว่ายูเมะจัง" ยูเมะย้ำชัดให้เซนไคโร่ฟังถึงสองรอบ
"งั้นก็ไม่ต้องกิน"
"ท่านปู่บอกให้เซนไคซังตามใจหนูนะ" คนตัวเล็กขู่ฟ่อ เมื่อเซนไคโร่หันหลังให้เธอแทนที่จะเอาเงินให้เธอไปซื้อไอศกรีมทาน
เซนไคโร่กลอกตาไปมาอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะหยิบธนบัตรใบหนึ่งวางลงบนมือเรียวอย่างจำใจ ยูเมะจึงกำเงินนั้นเดินข้ามไปซื้อไอศกรีมอีกฝั่ง ไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมกับไอศกรีมโคนสองอัน ก่อนที่เธอจะยื่นหนึ่งอันให้เซนไคโร่
"ฉันไม่กิน"
"แล้วทำไมถึงไม่กินล่ะคะ หนูซื้อมาให้แล้วกินเร็วเดี๋ยวละลายนะ"
"แล้วก่อนซื้อไม่มีปากถามฉันรึไงว่าฉันอยากกินรึเปล่า"
"ถ้าถามเซนไคซัง เซนไคซังก็คงไม่เอา"
"ก็รู้นี่ แล้วซื้อมาทำไม"
"แต่หนูอยากให้เซนไคซังลองชิมดูนี่คะ มันอร่อยนะ"
"ฉันไม่กิน"
"กินหน่อยนะ"
"ไม่กิน"
พรึ่บ!
"นี่เธอ! " เซนไคโร่เอามือปัดไอศกรีมที่หญิงสาวยื่นมาแตะริมฝีปากเขาออกอย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณ
"อร่อยไหมคะ" ยูเมะเอียงคอถามด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ก่อนจะหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาเช็ดคราบไอศกรีมที่ริมฝีปากหนาอย่างเบามือ ทำให้เซนไคโร่ที่กำลังจะต่อว่ากับการกระทำของเธอต้องหยุดชะงักไป "หนูแค่อยากให้เซนไคซังลองชิมเฉยๆ ค่ะ ถ้าไม่ชอบก็ไม่เป็นไร" ยูเมะยิ้มหวานอย่างใจดี ก่อนจะตัดสินใจกินไอศกรีมทั้งสองโคนเพียงคนเดียว
เซนไคโร่มองปลายลิ้นเล็กที่ตวัดชิมเนื้อไอศกรีมโคนที่แตะริมฝีปากเขาไปเมื่อครู่ด้วยสายตาว่างเปล่า พลางยกมือขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเอง เพราะจู่ๆ เขาก็รู้สึกอุ่นร้อนขึ้นมาตรงบริเวณกลีบปากหนา ทั้งๆ ที่เนื้อไอศกรีมมีสัมผัสที่เย็นต่างจากที่เขากำลังรู้สึกตอนนี้ลิบลับ