ตอนที่ 7
รู้จักกันแล้ว
ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้นเสียงรถยนต์ก็ดังขึ้นหน้าบ้านจากนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาด้านใน เมลินญาน์ที่นั่งก้มหน้านวดให้คุณยายอยู่ก็เงยหน้าขึ้นแล้วก็ต้องตกใจเพราะผู้ชายเพราะคนที่เดินเข้ามาก็คือผู้ชายที่ขับรถเกือบจะชนเธอเมื่อหลายวันก่อน
“อ้าวคุณ....”
“นี่เธอ....”
“มาได้สักทีนะ มานั่งก่อนสิเดี๋ยวยายจะแนะนำให้รู้จักกัน เคยเจอกันแล้วใช่ไหม”
“ค่ะคุณยาย เขาเป็นใครเหรอคะ”
“เขาชื่ออัลเฟรดเป็นหลานของยาย”
“สวัสดีค่ะคุณอัลเฟรดหนูชื่อเมลินค่ะเป็นผู้ช่วยของคุณยาย” หญิงสาวแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มสดใส
“อือ สวัสดี”
“หนูเคยได้ยินคุณยายพูดถึงหลานชายแต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นลูกครึ่ง” หญิงสาวสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วก็อมยิ้มเพราะหลานชายของคุณยายราตรีทั้งหล่อทั้งหุ่นดีกว่าที่เธอคิดไว้
“หลานของยายเป็นลูกครึ่งเยอรมันจ้ะ”
“อ๋อ....”
“คุณยายครับวันนี้คุณยายไม่สบายเป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“ยายไม่เป็นอะไรหรอกมากหรอก ก็แค่อ่อนเพลียตามประสาคนแก่ แล้วใครโทรบอกล่ะหมออำนาจหรือเปล่า”
“น้าประนอมครับ”
“อ้อ อย่างนี้นี่เอง” คุณยายโล่งใจเพราะเธอยังไม่อยากให้หมออำนาจบอก เธออยากจะวางแผนให้รอบคอบอีกนิดก่อนจะบอกเรื่องนี้และพูดถึงเรื่องแต่งงาน ถ้าพูดเรื่องนี้เร็วไปก็กลัวว่าอัลเฟรโด้จะจับได้เสียก่อน
“หมอบอกว่ายังไงบ้างครับ”
“ก็ตามที่ยายบอกไปนั่นแหละลูก ยายแค่อ่อนเพลีย มันเป็นโรคคนแก่นอนพักสักหน่อยก็หาย”
“แน่นะครับคุณยาย”
“แน่สิยายจะโกหกไปทำไมล่ะ ไหนๆ ก็มาแล้วเย็นนี้ก็อยู่กินข้าวกับยายนะ”
“ได้ครับคุณยาย”
“ยายขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะนั่งคุยกันไปก่อน หนูเมลินก็ขึ้นมานั่งบนข้างบนได้แล้วลูก”
“คุณยายจะให้หนูพาไปเข้าห้องน้ำไหมคะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ”
เมื่อคุณยายออกไปแล้วในห้องรับแขกก็เหลือแค่อัลเฟรโด้กับเมลินญาน์
“ฉันขอโทษเรื่องวันนั้นด้วยนะ อันที่จริงฉันน่าจะขอโทษเธอตั้งแต่วันนั้น ยังไงวันนี้ฉันถือโอกาสขอโทษเธอเลยด้วยก็แล้วกันนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะหนูเองต่างหากที่เดินไม่ดูทาง”
“ถ้าเป็นคนอื่นคงเรียกค่าเสียหายไปแล้วนะ วันนั้นเจ็บมากไหม”
“หนูมีแค่แผลถลอกค่ะ ตอนนี้ก็หายแล้ว” หญิฃสาวยกข้อศอกให้กับชายหนุ่มดูซึ่งตอนนี้ยังมีสะเก็ดแผลอยู่เล็กน้อย
“บ้านเธออยู่ห่างจากที่นี่มากไหม”
“ไม่มากหรอกค่ะ บ้านหนูอยู่ซอยถัดไปนี่เอง”
“แล้วปกติเวลาไปไหนมาไหนเธอทำยังไงล่ะ”
“หนูขี่มอเตอร์ไซค์ค่ะ แต่พอดีมอเตอร์ไซค์มันสตาร์ทไม่ติดหนูเลยเอาไปไว้ที่อู่ซ่อมอีกไม่กี่วันก็เสร็จแล้ว”
“แล้วเวลาไปเก็บเงินไปยังไง”
“น้าเดชไปส่งค่ะ แต่ถ้ารถหนูซ่อมเสร็จหนูคิดว่าจะขี่รถไปเองดีกว่า”
“ถ้าเป็นตลาดที่อยู่หน้าซอยก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าอีกสองตลาดฉันว่าเธอไปกับน้าเดชนั่นแหละดีแล้ว ถึงเงินจะไม่เยอะแต่มันก็อันตราย”
“ค่ะ”
“เธอขับรถยนต์ไม่เป็นเหรอ”
“ไม่ค่ะ”
“หาเวลาไปเรียนสิ จะได้ขับรถไปเอง”
“หนูจะเอารถที่ไหนมาขับล่ะคะ”
“ก็รถคันเล็กที่จอดอยู่ในโรงรถไงล่ะ รถคันนั้นผู้ช่วยคนก่อนของยายเขาก็ใช้อยู่ ค่าเรียนมาเบิกกับฉันก็ได้นะ” อัลเฟรโด้เสนอเพราะอยากให้ผู้ช่วยคนใหม่ของคุณยายทำงานกับท่านนานๆ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครทำงานได้นานเลย
“หนูคิดว่ามันไม่จำเป็นเลยที่จะใช้รถยนต์ค่ะ”
“แต่ฉันว่ามันปลอดภัยกว่านะ อีกอย่างน้าเดชก็อาจต้องขับรถไปทำธุระอย่างอื่นหรือพาคุณยายออกไปข้างนอกบ้าง”
“หนูลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย เอาไว้หนูจะหาเวลาไปเรียนนะคะ”
อัลเฟรโด้นั่งคุยกับเมลินญาน์จนถึงเวลาทานอาหารคุณยายก็มาตามและพากันไปยังห้องครัว
หลังทานอาหารเสร็จเมลินญาน์ก็ประคองของคุณยายมานั่งหน้าทีวีจากนั้นก็กระซิบถามคุณยายระหว่างที่เอาอัลเฟรโด้เข้าห้องน้ำ
“คุณยายคะทำไมคุณยายบอกคุณอัลเฟรดไปแบบนั้นล่ะคะ”
“หนูหมายถึงเรื่องอะไร”
“ก็เรื่องที่คุณยายไม่สบายไงคะ”
“อัลเฟรดเขางานยุ่งยายไม่อยากให้เขาต้องเป็นห่วงนะ”
“แล้วยาที่หมอบอกจะส่งมาให้ล่ะคะ เมื่อไหร่จะมา”
“น่าจะเป็นพรุ่งนี้จ้ะ”
“แล้วคืนนี้ยายจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม” หญิงสาวรู้สึกเป็นห่วงคุณยายราตรีมาก
“เดี๋ยวคืนนี้ยายจะให้ปัทเข้าไปนอนกับยายด้วย อะไรจะได้ช่วยเหลือกัน”
“ดีเหมือนกันค่ะ นี่ก็ดึกแล้วหนูขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวยายให้คนขับรถไปส่งนะเดินกลับเวลานี้มันอันตราย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณยาย ซอยบ้านคุณยายก็มีแสงไฟส่องสว่างตลอดหนูอยากเดินกลับจะได้เป็นการออกกำลังกายด้วย”
“ถ้ามันเป็นช่วงกลางวันยายจะไม่ว่าอะไรเลยแต่นี่มันค่ำแล้วถึงมันจะมีไฟส่งสว่างตลอดทางแต่มันก็ยังอันตรายสำหรับผู้หญิงอยู่ดี ให้คนขับรถไปส่งเถอะนะ”
“ก็ได้ค่ะ”
คุณยายคุณยายราตรีกำลังจะเรียกให้ปัทมาไปบอกคนขับรถแต่เมื่อหลานชายเธอออกมาจากห้องน้ำท่านก็ยิ้ม
“อัลเฟรดจะกลับเลยหรือเปล่าลูก”
“ครับคุณยาย ผมขอโทษด้วยนะครับที่คืนนี้นอนค้างกับคุณยายไม่ได้ แต่ถ้าคุณยายมีอะไรโทรหาผมได้ตลอด ปัทอย่าลืมนะคืนนี้ไปนอนกับคุณยายในห้องด้วย ถ้าคุณยายไม่สบายหรือเป็นอะไรรีบโทรหาฉันและตามรถพยาบาลทันที”
“ค่ะคุณอัลเฟรด ปัทจะดูแลคุณยายอย่างดี”
“ถ้างั้นยายฝากหลานไปส่งหมูเมลินที่บ้านด้วยได้ไหม บ้านเธออยู่ซอยถัดไปนี่เอง”
“ได้ครับ ผมไปก่อนนะครับคุณยายดูแลตัวเองด้วยนะครับ”
“หนูไปก่อนนะคะคุณยาย สวัสดีค่ะ” เมลินญาน์ยกมือไว้คุณยายก่อนจะรีบเดินตามอัลเฟรโด้ไปที่รถ
“คุณอัลเฟรดคะ เดี๋ยวคุณจอดรถส่งหนูที่หน้าปากซอยถัดไปนะคะหนูเดินเข้าไปเองได้ซอยนั้นมันแคบค่ะ” หญิงสาวบอกกับอัลเฟรโด้ด้วยความเกรงใจ
“แคบแต่รถยนต์เข้าได้ใช่ไหมล่ะ”
“ใช่ค่ะ แต่หนูก็ไม่อยากรบกวนคุณให้เสียเวลา”
“ฉันรับปากกับคุณยายว่าจะไปส่งเธอ ก็ให้ฉันไปส่งเธอเถอะถ้าคุณยายมารู้ที่หลังว่าฉันส่งเธอไม่ถึงบ้านท่านจะไม่สบายใจเอานะ”
“งั้นก็ได้ค่ะ”
แล้วอัลเฟรโด้ก็ขับรถเอาไปตามทางที่หญิงสาวบอกก่อนจะจอดรถลงหน้าบ้านหลังเล็กที่เวลานี้ด้านในมืดสนิท
“บ้านเธอมืดมากเลยนะอยู่บ้านคนเดียวเหรอ”
“หนูอยู่บ้านคนเดียวค่ะ”
“ให้ฉันเดินเข้าไปส่งข้างในไหม”
“คุณคะนี่บ้านของหนูนะคะ หนูอยู่มาตั้งแต่เกิดค่ะไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกค่ะ เดี๋ยวหนูใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์ส่องก็ได้คุณกลับไปเถอะค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง” หญิงสาวยกมือไหว้ก่อนจะลงจากรถและเดินเข้ามาในบ้านโดยใช้โทรศัพท์แทนไฟฉายเพื่อส่องนำทาง อัลเฟรโด้รอจนเห็นไฟจากในบ้านสว่างขึ้นก็ขับรถกลับ
การได้คุยกับเมลินญาน์วันนี้ก็ทำให้เขาเบาใจได้ว่าเธอจะเป็นผู้ช่วยที่ดีของคุณยายได้