ยังคิดไม่ตก

1466 คำ
ตอนที่ 9 ยังคิดไม่ตก เมลินญาน์กลับมาที่บ้านของตนเองด้วยท่าทางเครียดหนักกับข้อเสนอที่คุณยายราตรีเสนอให้ หญิงสาวไม่รู้จะปรึกษาเรื่องนี้กับใครเพราะมันฟังดูเป็นเรื่องใหญ่มาก เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองแล้วก็วางลงทำซ้ำเดิมอยู่หลายครั้งก่อนจะตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาศศิภาเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอ “ว่าไงเมลินทำงานสนุกไหม” ศศิภาทักทายด้วยน้ำเสียงร่าเริง “ก็สนุกดีนะ ฉันได้เจออะไรใหม่ๆ ตลอดแล้วแกล่ะขิงเป็นยังไงบ้างละ” “ช่วงนี้อยู่แต่บ้านเบื่อมาก ตื่นเช้าก็ต้องมาช่วยแม่ขายของ ฉันอยากมีอิสระเหมือนแกบ้างจังเลย” “มีอิสระแต่มันก็ต้องแลกมาด้วยการรับผิดชอบตัวเองนะขิง ฉันว่าการมีครอบครัวนั่นแหละดีที่สุด” “อือ ฉันจะพยายามมองแบบนั้นนะ ตอนนี้แกเป็นยังไงบ้างเรื่องบ้านไปถึงไหนแล้ว แกจะได้อยู่ที่นั่นต่อไหม ถ้าอยู่ต่อไม่ได้มาอยู่กับฉันก่อนก็ได้นะ” “ไม่เป็นไรหรอกฉันพอมีทางออกอยู่ที่โทรหาแกวันนี้ก็อยากจะปรึกษาแกบางเรื่อง” แล้วเมลินญาน์ก็เล่าเรื่องข้อเสนอของคุณยายราตรีให้ศศิภาฟังอย่างละเอียด “แกคิดว่าจะเอายังไงล่ะเมลิน แกจะรับข้อเสนอไหม” “ถ้าเป็นแกละขิงแกจะทำเอายังไง” “ถ้าฉันเป็นแกฉันจะรีบรับข้อเสนอทันทีเลย บ้านของแกที่ติดจำนองอยู่มันก็หลายล้าน อดทนแต่งงานกับหลานชายคุณยายอีกสองปีแกก็จะได้ตึกคืนมาอีกรวมแล้วก็เยอะอยู่นะ แกลองคิดดูนะว่าแกต้องทำงานกี่ปีกันถึงจะเก็บเงินได้เยอะขนาดนั้น” “แต่มันเหมือนฉันขายตัวเลยนะ” “ขายตัวที่ไหน ถ้าขายตัวก็คือไปนอนกับผู้ชายแล้วได้แค่เงินแต่นี่คุณยายบอกว่าจะให้แกแต่งงานเลยนะ ฉันว่ามันต่างกันมากหรือที่แกคิดมากเพราะว่าหลานชายของคุณยายไม่หล่อแกเลยไม่ยอมตอบตกลง” ศศิภารู้ว่าเพื่อนมักจะแพ้ทางผู้ชายหน้าตาดี “ตรงกันข้ามเลยแหละ” “หมายความว่าหล่อมากเหรอ” “ใช่แล้วล่ะคุณอัลเฟรดเขาหล่อมากหุ่นดี ตัวสูงเป็นลูกครึ่งด้วยนะ” หญิงสาวยิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าหล่อคมของอัลเฟรโด้ “แล้วปัญหามันอยู่ตรงไหนล่ะเมลิน ฉันว่าตกลงไปเถอะ ตอนนี้แกไม่มีแฟนสักหน่อย ได้แต่งงานกับคนหล่อแล้วยังได้สมบัติของแม่คืนมาอีกนี่เจอคนหล่อๆ แบบนี้ถ้าเป็นฉันไม่ต้องคิดมากเลย” ศศิภาหัวเราะและเชียร์เพื่อนอย่างเต็มที่ เพราะถ้าเป็นตัวเธอเองก็คงจะยอมทำตามข้อเสนออย่างแน่นอน “ขิงฉันจริงจังนะ” เมลินญาน์ทำเสียงดุใส่เพราะเธอกำลังเครียดแต่เพื่อนกลับหัวเราะ “ฉันก็จริงจังไง ฉันอยากให้แกแต่งงานกับเขานะ” “แต่เขาอายุมากกว่าฉันนะ” “แล้วเขาอายุเท่าไหร่ล่ะ” “น่าจะซักสามสิบได้แล้วมั้งห่างกับเราตั้งสิบสองปีเลยนะ” “มันก็แค่สิบสองปีเองนะ ฉันเคยเห็นบางคนเขาอายุต่างกันตั้งเยอะผู้ชายน่ะชอบผู้หญิงเด็กๆ ขี้อ้อน” “แต่เขาดูขรึมๆ นะ ถ้าฉันไปอ้อนมากๆ ฉันก็กลัวเขาจะรำคาญสิ” “แกก็ลงอ้อนดูก่อนสิ เผลอๆ แกจะได้มากกว่าตึกกับบ้านที่คุณยายเสนออีกนะ” “ฉันคงไม่โลภมากมากขนาดนั้นหรอก แค่เจอเขาฉันก็ยังรู้สึกประหม่าทุกครั้ง” “เขาคุยกับแกดีหรือเปล่า” “ก็ดีนะเพราะเขาเห็นฉันเป็นผู้ช่วยของคุณยาย แต่ถ้าเขารู้ว่าจะต้องแต่งงานกับฉัน ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาจะคุยกับฉันดีหรือเปล่า” “ที่แกมาถามฉันเพราะลังเลใช่ไหมล่ะ” “อือ ใจหนึ่งก็อยากรับข้อเสนอ แต่อีกใจก็กลัว” “แต่ยังไม่ได้ตอบตกลงใช่ไหม” “ยังหรอกคุณยายให้เวลาฉันคิดก่อนน่ะ” “แล้วเขาล่ะตกลงหรือเปล่า” “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน” “เอาอย่างนี้สิแกก็หยั่งเชิงไปก่อน บอกคุณยายว่าแกเองก็ไม่มีใครและจะแต่งก็ได้ แต่ก็อยากให้หลานชายของคุณยายเต็มใจแต่งงานกับแกด้วยและให้เขายอมรับแกในฐานะภรรยาไม่ใช่แต่งแล้วให้ขลุกอยู่แต่ในบ้านไม่พาออกงานส่วนตัวเขาก็ออกไปกับผู้หญิงคนอื่นแบบนั้นมันใช้ไม่ได้เลย” “ฉันไม่รู้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายแบบนั้นหรือเปล่าเพราะปกติเขาไม่ได้อยู่ที่บ้านคุณยายน่ะสองสามวันถึงจะมากินข้าวที่บ้านคุณยายสักที” “แกก็ลองถามคุณยายสิหลานชายเขาเป็นคนนิสัยยังไง ถามให้แน่ใจก่อนว่าในวันแต่งงานจะไม่มีผู้หญิงคนไหนมาโวยวาย แล้วแกก็ควรตกลงกับเขาด้วยนะว่าถ้าแต่งงานแล้วห้ามเขาไปมีผู้หญิงคนอื่นเด็ดขาดทำสัญญาเลย ถ้าเขาผิดสัญญาแกก็ฟ้องหย่าแค่นั้นเอง” “แกพูดเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ เลยนะขิง การแต่งงานมันเรื่องใหญ่เลยนะแก แล้วถ้าหย่าขึ้นมาล่ะ ฉันก็ต้องกลายเป็นแม่หม้าย” “โธ่...เมลินสมัยนี้การแต่งงานการหย่าร้างมันเป็นเรื่องที่คนในสังคมรับได้นะ แต่งกันแล้วอยู่ไปไม่มีความสุขก็หย่ากันแค่นั้นเองแกอย่าคิดอะไรมากเลย” “แกจะไม่ให้ฉันคิดมากได้ยังไง แกก็รู้นี่ว่าฉันยังไม่เคยมีแฟนมาก่อนถ้าฉันแต่งงานกับเขาฉันก็ต้องนอนกับเขานะแล้วแกคิดว่ามันจะเป็นยังไง” หญิงสาวเป็นกังวลเรื่องนี้มาก “ฉันก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเพราะฉันก็ไม่เคยมีแฟนเหมือนกัน เอาน่าเรื่องพวกนี้ไม่ยากหรอก” “แกหมายถึงเรื่องอะไรไม่ยาก” “ก็เรื่องบนเตียงไง” “แกนี่ทะลึ่งใหญ่แล้ว ไม่เคยมีแฟนแล้วยังจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่ยากมันยังไงกันแน่” “แหมแกก็ตอนนี้สื่อลามกตามอินเตอร์เน็ตมีเยอะแยะแกก็เรียนรู้ไว้บ้าง เผลอๆ เขาจะหลงจนโงหัวไม่ขึ้น” “ฉันไม่ได้หวังอะไรขนาดนั้นหรอก ฉันหวังแค่ว่าจะได้ตึกนั้นคืนมาถ้าครบสองปีแล้วฉันอยู่กับเขาไม่มีความสุขก็คงต้องหย่า” “แต่ฉันว่าอย่าเพิ่งพูดเรื่องนั้นเลยนะ แกยังไม่ได้แต่งงานกับเขาเลยนะ” “ฉันก็ไม่รู้ว่าแต่งงานไปแล้วมันจะเป็นยังไงบ้าง” “แกเป็นคนสวยน่ารักหุ่นก็ดีขนาดนั้น ฉันว่ายังไงผู้ชายก็ต้องชอบ” “แต่คุณอัลเฟรดเขาเป็นคนมีเสน่ห์ ฉันว่ารอบกายของเขาก็คงเจอผู้หญิงสวยๆ เยอะ” “ถ้าเขาเจอผู้หญิงสวยเยอะแล้วทำไมเขาเป็นโสดมาถึงทุกวันนี้” “อันนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันหรือบางทีเขาคงอยากจะใช้ชีวิตเหมือนเพลย์บอยทั่วไปละมั้ง” “งั้นภารกิจของแกก็คือปราบเพลย์บอยให้อยู่หมัด” “พูดเป็นเล่นน่ะแก ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจเลย” “ฉันคิดว่าแกคนตอบตกลงนะ ผู้หญิงทุกคนก็อยากจะมีแฟนหล่อๆ รวยๆ กันทั้งนั้นอีกอย่างไม่มีใครรักษาความบริสุทธิ์ได้ตลอดไปหรอกนะ” “แต่ฉันก็อยากเก็บไว้ให้คนที่รัก” “เรื่องนั่นมันก็เป็นเรื่องดี แต่แกได้แต่งงานออกหน้าออกตาก็ยังดีกว่าบางคนที่มีแฟนคบไปเรื่อยๆ นอนกับผู้ชายไปทั่วแต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรเลย ฉันไม่ได้สนับสนุนให้แกเอาตัวเข้าแลก แต่คนที่เสนอเป็นคุณยายของเขา ฉันว่าท่านก็คงมองเห็นอะไรในตัวแกถึงได้อยากให้แกแต่งงานกับหลานของเขา แกลองคุยกับคุณยายดูสิว่าเพราะอะไรถึงอยากได้แกเป็นหลานสะใภ้” “ขอบใจนะขิงฉันว่าพรุ่งนี้จะลองคุยกับคุณยายดู บางทีอาจจะมีอะไรที่ฉันยังไม่รู้ก็ได้” เมื่อได้คุยกับเพื่อนแล้วเมลินญาน์ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากหญิงสาวคุยเรื่องทั่วไปอีกพักใหญ่ก่อนจะวางสายและอาบน้ำเข้านอนในสมองยังคงคิดวนเวียนถึงข้อเสนอของคุณยายราตรีและคิดว่าพรุ่งนี้จะต้องถามถึงเหตุผลว่าทำไมถึงอยากจะได้เธอเป็นหลานสะใภ้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม