“ก็ขี้อาย แต่แอบหื่น”
“พี่คิน เอาจริงๆ สิคะ” เธอค้อนให้เขา ชอบวกเข้าหาเรื่องบนเตียงอยู่เรื่อย
“ก็จริงน่ะสิ ขี้อาย ไม่ค่อยกล้า แต่หื่นนะเรา” เขาโยกศีรษะเธอไปมาอย่างเอ็นดู
“วดีเปล่าเสียหน่อย” เธอทำหน้างอ
“วดีเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก เป็นตัวของตัวเอง แล้วก็จริงใจ” เขาม้วนผมเธอเล่น ก่อนจะไล้แก้มเบาๆ
“แล้วพี่คินล่ะคะ รู้ตัวเองหรือเปล่าว่าเป็นคนยังไง”
“พี่มองตัวเองไม่ทะลุหรอก ต้องให้คนอื่นมอง แล้ววดีคิดว่าพี่เป็นคนยังไง”
“พี่คินอบอุ่นและน่ารักค่ะ เป็นผู้นำและก็ฉลาด”
“แล้วตอนนี้ล่ะ พี่กำลังคิดอะไรอยู่” ภาคินพลิกร่างภรรยาลงด้านล่าง ก่อนจะคร่อมทับ
“พี่คินกำลังหื่น...” จบคำพูดของภรรยา เสียงหัวเราะของเขาก็ดังขึ้น ภาคินหัวเราะเต็มเสียง เขามองหน้างอๆ ของเธอแล้วอดอมยิ้มตามไม่ได้
“ถูกต้องนะครับ เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นความจริง พี่ก็ต้องทำให้วดีเห็นใช่ไหม...”
จบคำพูดของเขาคือรสจูบกำซาบซ่านและดูดดื่ม เธอรับรู้ได้ถึงบทรักที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง บนผืนหญ้าเขียวขจี ภายใต้ท้องฟ้าสีครามและรอบกายที่มีเกลียวคลื่นซัดสาดเป็นระลอกเหมือนบทเพลงพิศวาสที่ซ่านซ่ารัญจวนจิต
เสียงหอบของภรรยาทำให้ภาคินยิ่งกระแทกกายเข้าหา สะโพกกลมกลึงของเธอกระทบกับหน้าขาแกร่งของเขาจนเกิดเสียง มือน้อยเกร็งจิกอยู่กับพื้นหญ้า เขาแนบชิดล้ำลึก เธอสัมผัสได้ถึงตัวตนของเขาที่ฝังเข้ามาในกายเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ภาคินหอบประสานกับภรรยา เนื้อตัวของเขาชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ
“นอนดูดาวด้วยกัน” เขาเชยคางมนให้แหงนขึ้นมารับรสจูบซาบซ่าน เธอผ่อนลมหายใจร้อนระอุด้วยความพิศวาสออกมา พร้อมๆ กับจังหวะรักของเขาที่รุกรานเข้ามาอย่างหนักหน่วงมิดเม้น ตอกย้ำถึงความเป็นหนึ่งเดียวในการหลอมรวมสอดประสาน
“ชอบไหม” เขากระซิบถามเสียงหอบ
“อะไรที่พี่คินชอบ วดีก็ชอบด้วยค่ะ”
“ชื่นใจ” เขาจูบหนักๆ ที่ซอกคอชื้นเหงื่อ ก่อนจะจับเธอนั่งคุกเข่า
“วดีทรมานจังค่ะ” เธอพูดเสียงหอบ ในขณะที่เขาดึงรักแร้ของเธอด้วยแขนแข็งแรง รั้งไปด้านหลังให้เธอแนบชิดกับแผ่นอกของเขา ในขณะที่สะโพกสอบยังเคลื่อนไหวเข้าหาเธอจนได้ยินเสียงดังกึกๆ ของเนื้อกายที่เสียดสีกัน
“เราจะมีลูกสักกี่คนดี”
“พี่คินชอบถาม วดีไม่รู้หรอกค่ะ ต้องแล้วแต่พี่คิน”
“พูดแบบนี้ท้าทายพี่” เขาก้มลงขบเม้มใบหูของเธอ หญิงสาวร้องครางเบี่ยงหน้าหลบด้วยความเสียวซ่าน แต่ก็หนีไม่พ้นเมื่อเขาดึงคางของเธอมาบดจูบซ้ำๆ ตอกย้ำถึงความแนบชิดของเรือนกายตลอดร่าง
“วดีแล้วแต่พี่คินค่ะ”
“สักสิบคน”
“วดีคงกลายเป็นแม่หมู นมยาน อ้วนเป็นพะโล้ สะโพกเป็นกระด้ง” เธอพูดแล้วหัวเราะคิก
“ถึงตอนนั้นพี่ก็คงเป็นตาแก่ให้ลูกๆ ปีนขึ้นมาบนเนื้อตัว” เขาจินตนาการตาม
“ถ้าวดีน่าเกลียดแบบนั้น พี่คินไม่อายเหรอคะ ที่จะควงไปไหนมาไหน”
“แล้วถ้าพี่ลงพุงล่ะ วดีอายหรือเปล่า” เขากอบกุมอกอิ่มของเธอ เคล้นคลึงหนักๆ แล้วสะกิดยอดถันไปมา ได้ยินเสียงครางของเธอเป็นระยะ นั่นทำให้เขาพึงพอใจที่ทำให้เธอมีความสุขกับบทพิศวาสที่เกิดขึ้น
“พี่คินตอบวดีมาก่อนสิคะ วดีถามก่อน”
“มันก็คงน่าเกลียด”
“พี่คิน!” เธอเรียกเขาเสียงแง่งอน
“สำหรับคนอื่น แต่พี่ไม่เห็นจะสน สำหรับพี่ วดีก็คือวดี เมียที่พี่รัก”
“ปากหวานเกินไปแล้วนะคะ” เธอเหมือนจะลอยได้เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น
“วดียังไม่ตอบคำถามพี่เลยนะ”
“ถ้าพี่คินอ้วนลงพุงน่ะเหรอคะ วดีก็จะบังคับให้ออกกำลังกายลดหุ่น โดยการชวนไปวิ่งน่ะสิคะ วดีจะได้กลับมาหุ่นดีเหมือนเดิมไม่อ้วนเผละ”
“ตอบไม่ตรงคำถาม” เขาขยับสะโพกถี่ยิบ เสียงหอบประสานกันระงม ราชาวดีเริ่มจะพูดไม่เป็นภาษาเมื่อเขาเร่งเร้าเธอทั้งส่วนบนส่วนล่าง และอยากให้เธอตอบคำถามไปด้วย
“ไม่รังเกียจหรอกค่ะ ใครจะรังเกียจสามีตัวเอง ชีวิตนี้ทั้งชีวิต วดีมีแค่พี่คินและจะมีกันตลอดไป ขอแค่พี่คินเชื่อใจวดี ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม”
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม พี่รู้คนดี” อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ปัญหาทุกอย่างย่อมเกิดขึ้นได้ ขอให้เราหนักแน่นเป็นพอ
มือใหญ่ของชายหนุ่มกอบกุมทรวงอกอวบอิ่มเอาไว้เต็มๆ เขาดึงเธอมาหาแล้วสอดประสานเข้าหาครั้งแล้วครั้งเล่า ราชาวดีหวีดร้องสุดเสียงเมื่อเขาส่งเธอไปสู่ความสุขอย่างรุนแรง ก่อนที่กายชายจะขยับกระแทกกระชั้นถี่เข้ามาอีกหลายครั้งก่อนจะตามติดเธอไป
“ดูสิเหงื่อเต็มเลย อยากอาบน้ำอุ่นแล้วใช่ไหม” เขาตวัดอุ้มร่างน้อยของภรรยาขึ้นสู่อ้อมแขน
“พี่คินจะอาบให้เหรอคะ”
“พูดแบบนี้อยากให้พี่อาบน้ำให้”
“ก็... ไม่รู้สิคะ”
“ถ้าอยากให้อาบให้ต้องหอมแก้ม ออดอ้อนพี่ก่อน”
เขาทำแก้มป่องให้เธอหอม ราชาวดีอมยิ้ม ก่อนจะหอมแก้มของเขาฟอดใหญ่ทั้งซ้ายทั้งขวา เธอกล้าแสดงความรักกับเขามากขึ้น ยังไงเขาก็คือสามี จะมัวมาเขินอายจนเกินเหตุมันก็จะทำให้เขาหงุดหงิด เธอไม่อยากให้เขาหงุดหงิดรำคาญและอยากเอาใจเขาบ้าง ได้ทำแบบนี้เธอรู้สึกดีเหลือเกิน ในเมื่อทำแล้วมีความสุขจะมัวฝืนใจ เหนียมอายไม่กล้าสักอย่าง มันดูน่ารำคาญ
“น้ำอุ่นพอดีไหม” เขาเป็นคนจัดการผสมน้ำให้เธอเสียเอง ราชาวดีวางทาบกับหลังมือที่ประสานกันบนขอบอ่าง เธอหลับตาพริ้มเมื่อเขาขยับเข้ามาทางเบื้องหลัง
“สบายตัวมากๆ เลยค่ะ” เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิง ยิ่งมือของเขาที่นวดคลึงมาที่ไหล่ยิ่งทำให้รู้สึกสบายตัว
“พี่คินนวดเป็นด้วย” เธอแปลกใจในการกระทำหลายอย่างของเขา
“นวดให้เมียคนเดียว กับคนอื่นไม่เคย”
“พี่คินเมื่อยไหมคะ ให้วดีนวดให้บ้างไหม” เธอถามเขาอย่างเอาใจ
“เอาไว้ไปนวดที่เตียง”
เขากระซิบบอกอยู่ริมหู เธอสัมผัสถึงความแข็งแกร่งของเขาที่ดุนดันอยู่กับสะโพกกลมกลึง เขาตื่นตัวอีกครั้งและเธอก็พร้อมสำหรับเขาเช่นกัน นิ้วแกร่งเกลี่ยไปตามกลีบดอกไม้สาว กระตุ้นให้เธอเบ่งบานรอรับการรุกรานที่หนักหน่วง
“อื้อ...”
เธอร้องครางเมื่อเขาฝังกายเข้ามาหาล้ำลึกและไร้ช่องว่าง เนื้อกายภายในเสียดสีเข้าหากัน เส้นไหมหยาบกระด้างทำตัวเหมือนนักเลงอันธพาล เสียดสีเข้ามาหาความอ่อนละมุนอย่างไม่ปรานี ยอดอกของเธอถูกมือใหญ่ฟอนเฟ้นหนักๆ เขาพลิกกายให้เธอนั่งพิงกับขอบอ่าง ก่อนจะยกขาเพรียวพาดไปกับขอบอ่าง เพื่อแยกขาเธอออกให้กว้าง
“พอไหมคะ” ราชาวดีเอ่ยถามเสียงสั่นพร่าเมื่อมือเขาจับกระชับปลายขาของเธอทั้งสองข้าง
“ยกสะโพกให้พี่ด้วยวดี” เขาสั่งเสียงห้าวต่ำ และทันทีที่เธอยกสะโพกให้ เขาก็กดลึกลงมาหา ราชาวดีอ้าปากค้าง เมื่อเขาฝังกายเข้ามาล้ำลึก
“คืนนี้วดีจะได้นอนตอนไหนคะ” เธอเริ่มโอดครวญนิดๆ
“ถ้าง่วงก็นอนก่อนได้เลย พี่ไม่ว่าอะไร”
“หลับทั้งๆ ที่พี่คินยังทำแบบนี้อยู่เหรอคะ” เธอตาโตมองเขาแล้วหน้าแดง
“ก็นอนเฉยๆ ให้พี่ทำก็พอ ถ้าวดีเหนื่อย”
“พี่คินทำเอาวดีพูดไม่ออก” เธอส่ายหน้าไปมา
“ทำไมล่ะ”
“ก็เมื่อก่อนพี่คินสุภาพ”
“แล้วตอนนี้พี่หยาบคายหรือไง”
“แต่พี่คิน...” เธอกัดปากตัวเอง ก่อนจะกระซิบที่หูของเขา ได้ยินเสียงหัวเราะของเขาก็ค้อนให้
“เมื่อก่อนพี่ก็เป็นแบบนี้แหละ แต่ต้องหักห้ามใจ ตอนนี้พี่ไม่ต้องหักห้ามใจแล้วไง วดีเป็นเมียและพี่มีสิทธิ์จะทำ”
“อย่าบอกนะคะว่าพี่คินคิดเรื่องนี้ตลอดเวลา”
“ก็คิดตลอดแหละ แต่ยังไม่ถึงเวลา กลัวเด็กน้อยจะตื่นกลัวไม่ยอมแต่งงานด้วย”
“ร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ เหมือนหมาป่าจอมวายร้าย”
“ใครบอกกันล่ะ เขาเรียกว่ารู้จักรุกในช่วงเวลาที่เหมาะสม ตอนนั้นเรายังไม่แต่งงานกัน ถ้าพี่ล่วงเกินวดีในแง่หนึ่งอาจจะเป็นการผูกมัด แต่วดีอาจจะรู้สึกไม่ดีกับความสัมพันธ์นั้น” เขารู้ว่าเธอค่อนข้างจะหวงเนื้อหวงตัว เพราะหลังจากครั้งแรกที่เขาเผลอใจสัมผัสเธอแนบชิด เธอก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาอีก
“พี่คินแคร์วดีเหรอคะ”
“ยิ่งกว่าแคร์อีกคนดี” เขาวางหน้าผากกับหน้าผากของเธอ สะโพกสอบขยับถี่ขึ้นเรื่อยๆ เป็นจังหวะไม่เร่งรีบ แต่มิดเม้นทุกการสอดประสาน