@บ้านพักของไคโรที่ค่ายมวย
แตงกวานั่งทำแผลให้กับไคโรหลังจากที่เขาเพิ่งกลับมาจากชกมวย ทำแผลไปบ่นไป มันอดไม่ได้จริงๆ สภาพของเขามันแย่มาก ที่จริงก็แย่กลับมาทุกรอบนั่นแหละ เห็นว่าชนะ แต่คนชนะยังเป็นขนาดนี้ ไม่อยากนึกสภาพของคนแพ้เลย
"ไม่หน้าบูดได้ป่าว?"
"ไม่ได้" ตอบเสียงแข็ง
"หื้อ ทำไมล่ะ"
"....." แตงกวาถอนหายใจแรง ได้แต่คิดในใจ นี่ยังไม่รู้อีกหรือไงว่าเธอเป็นอะไร
ที่จริงเธอไม่ได้โกรธหรืออคติกับอาชีพของเขาแล้วล่ะ แต่มันทำใจให้ชินไม่ได้จริงๆ ทุกครั้งที่กลับมาก็สภาพเป็นแบบนี้ ในใจจริงเธออยากให้เขาเลิกชกมวยด้วยซ้ำ
"มือเบาจัง"
"อยู่นิ่งๆ สิพี่ไค ทำไมถึงได้อยู่ไม่สุขเลยเนี่ย" เธอบ่น เพราะนี่ก็พยายามมือเบาอยู่ กลัวว่าจะไปโดนแผลเขาจนเจ็บซ้ำอีกรอบเข้า
"ดุจัง" พูดเบาๆ
"เสร็จแล้วก็ไปกินข้าว กินสักนิดก็ยังดีจะได้กินยา"
"มีแฟนคอยดูแลแบบนี้ดีจังเลย"
"ไม่ต้องมาปากหวาน ดูสภาพตัวเองซิเนี่ย"
"อย่าดุพี่นักสิ"
"งั้นพี่ก็หัดฟังฉันบ้าง"
"แตงกวา พี่มีอะไรจะให้ด้วยล่ะ"
พูดจบไคโรก็หยิบเอาของบางอย่างมายื่นให้กับแฟนสาว มันเป็นสร้อยเงินที่มีจี้รูปหัวใจ และสลักชื่อย่อของเขาและเธอ KT คงย่อมาจากไคโรและแตงกวาในภาษาอังกฤษ
"ซื้ออีกแล้ว ฉันบอกแล้วไง ว่าไม่ต้องซื้อ"
"พี่เห็นมันสวยดี"
"ดูสิ คงแพงน่าดูเลย"
"หลักร้อยเอง พี่สั่งทำใหม่เพราะไม่มีที่ตรงชื่อเรา ค่าช่างไม่กี่ร้อยเหมือนกัน แค่นี้เองไม่แพงเลย"
เธอไม่รู้จะเชื่อเขาดีไหม จะบอกว่าไม่เชื่ออะไรเขาก็คงเป็นเรื่องนี้แหละ โกหกเก่งนัก! จับไม่ได้ไล่ไม่ทันก็แล้วไปเถอะ
"แต่มันสวย ดูมีราคามากกว่าหลักร้อยนะ"
"ของใหม่มันก็แบบนี้แหละ พี่ตั้งใจสั่งทำเลยนะ ของพี่ก็มี เราจะได้มีของใส่คู่กัน"
"....."
"เดี๋ยวพี่ใส่ให้นะ"
"ค่ะ"
"ทำไมถึงไม่อยากรับของที่พี่ซื้อให้นักล่ะ ชอบบ่นอยู่นั่นว่ามันแพง"
"ก็ของแพงจะซื้อทำไมล่ะ ฉันเคยบอกพี่แล้วไง ว่าทำไมฉันถึงไม่อยากรับ"
"ค้าบๆ พี่ลืมเองแหละ แต่พี่ก็ไม่ได้ซื้อบ่อยนะ นานๆ ครั้ง"
"สร้อยก็มีแล้ว กำไลก็มีแล้ว โทรศัพท์ก็มีแล้ว ไม่เอาแล้วนะ พี่หยุดซื้อได้แล้ว"
"พี่ว่ายังหยุดไม่ได้หรอก ยังเหลือของอีกอย่างนะ ของสำคัญด้วย"
"อะไร??" แตงกวาทำหน้างง เธอไม่ได้มีของอะไรที่อยากได้เลย เพราะเธอไม่ใช่คนที่ติดความหรูหรา หรือต้องซื้อของมาประดับตัวเองตลอดเวลา แต่ละอย่างที่เขาซื้อมาน่ะ ซื้อก่อนถามเธอทั้งนั้น
"แหวนไง"
"...." แหวนเหรอ? ก็จริงนะ คนเราถ้าคบกันถึงขั้นที่ได้แต่งงานกันจริงๆ แหวนมันก็คือของสำคัญอย่างนึงเลยนะ
"พี่อยากซื้อแหวนให้ อยากใส่เอาไว้ที่นิ้วนางข้างขวาเรา"
"ทำไมล่ะ?"
"พี่ได้ยินมาว่า ใส่แหวนที่นิ้วนางข้างขวามันคือการบ่งบอกว่า คนคนนั้นมีคนรักแล้ว ถ้าใส่นิ้วข้างซ้ายคือแต่งงานแล้ว"
"ไปรู้มาจากไหนเนี่ย"
"มีคนพูดให้ฟัง"
"แล้วพี่เชื่ออะไรแบบนี้ด้วยหรือไง"
"ไม่รู้สิ พี่ก็แค่อยากซื้อให้ แล้วก็อยากให้คนอื่นรู้ว่าเรามีเจ้าของแล้ว"
"แค่พี่ซ้อมไอ้แหลมไป แค่นี้คนก็รู้กันทั่วแล้ว ว่ามันถูกซ้อมเพราะมาลวนลามฉัน"
"หวังว่ามันจะเข็ดนะ ถ้ามีอีก พี่กลัวตัวเองจะยั้งมือไม่ได้"
"พ่อมันคงสั่งห้าม ไม่งั้นคงกลับมาวุ่นวายไปแล้ว" แตงกวาบอก เพราะปกติก็จะเห็นไอ้แหลมลูกผู้ใหญ่มันมาเพ่นพ่านแถวตลาดทุกวัน แต่นี่ไม่เห็นนานแล้ว
"ก็ดีที่มันยังกลัวใครอยู่บ้าง"
"พี่น่ะ ไม่ต้องไปพูดถึงใครหรอก ดูตัวเองก่อน" เห็นสภาพของเขาเท่าไหร่ก็อดไม่ได้จริงๆ มันไม่ชินสักทีเลย
"อย่าว่าสิ เรื่องแบบนี้มันห้ามไม่ได้นะ ที่จะมีแผลหรือมีรอยช้ำ"
"....." แตงกวาไม่ตอบ ก็ใช่น่ะสิ เพราะมันห้ามไม่ได้เธอเลยอึดอัดอยู่เนี่ย ถ้ามันพูดได้นะ เธอจะใส่เต็มมากกว่านี้อีก กลับมาทีไรช้ำมาตลอดเลย
"ขอบคุณนะครับที่ทำแผลให้"
"คราวหน้าจะไม่ทำละ"
"อ่าว ทำไมล่ะ?"
"ไปเจ็บตัวมาเองก็รักษาเองสิ ทีเมื่อก่อนยังไม่ได้เป็นอะไรกัน ก็เห็นอยู่ได้ทำแผลเองได้"
"มีแฟนแล้วก็อยากจะอ้อนแฟนไงครับ"
"เฮอะ!!"
"ไม่เอาซี้ อย่าหน้าบูดมันไม่สวย"
แตงกวาจัดการอะไรต่อมิอะไรให้กับแฟนหนุ่มจนเสร็จ จากนั้นก็เตรียมตัวกลับบ้าน ที่จริงเขาก็จะไปส่งเธอ แต่สภาพแบบนี้เนี่ยนะจะไปส่ง
ขณะที่กำลังยืนวุ่นอยู่ตรงรถ แตงกวาก็ไม่ได้มองว่ามีคนเดินมาหรือเปล่า
"ไอ้แตงกวา"
"อ้าว พี่สอง มาไมอ่ะ มาหาพี่ไคอ่อ?"
"อือ..มานี่คงมาดูหนังมั้ง"
"กวนละ ถามดีๆ นะ เดี๋ยวก็โดนด่าหรอก"
"เก่งนักนะกับกูเนี่ย"
"มาก็ดี ฝากดูแลต่อด้วย จะกลับแล้ว เดี๋ยวค่ำแม่จะห่วง"
"รอก่อน เดี๋ยวไปส่งเอง"
"อ่าว ไหนว่ามาหาพี่ไค"
"มาแป๊บเดียว พ่อให้เอาของมาให้มัน"
"....."
"รอนี่นะ เดี๋ยวมา ถ้าไปก่อนนะ เห็นดีกันแน่"
บอกให้รอแตงกวาก็รอ อีกอย่างเธอก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกถ้าสองจะไปส่ง เพราะเธอและเขาก็เห็นกันมาแต่เด็กแล้ว เห็นเป็นพี่ชายคนนึงถึงจะตีกันทุกครั้งที่เจอก็เถอะ ลุงเสี่ยเสมก็เอ็นดูเธอมากเพราะแตงกวาขาดพ่อมาแต่เด็ก
#ครู่นึงต่อมา
"ป้ะ เสร็จแล้ว ไอ้ไคบอกให้ไปส่งพอดีด้วย"
"อือ ที่จริงจะไปส่งเองด้วยแหละ ไม่ดูสภาพตัวเองเล้ย"
"มันก็งี้แหละ ห่วงคนอื่นก่อนตัวเองตลอด"
"ไปได้ละ ค่ำแล้วมันเย็น"
"เออๆ"
...........
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ
"โหยอีแตง มึงนี่มันกวนตีนมากนะ แฮ่ก แฮ่ก"
"เอ้าก็บอกจะมาส่ง ไม่เดินมาแล้วจะไปไง"
"มึงขี่รถกูวิ่งตาม บ้านมึงเขาไปส่งกันงี้ดิ?"
"มันก็งี้แหละ พี่ไม่ได้อยู่ในโปร ท้ายมอไซค์ฉันให้ขึ้นได้เฉพาะบางคน"
"มึงมันใจร้าย นี่กูอุตส่าห์เป็นห่วงมึงนะ"
"มาเถอะน่า เป็นนักมวยวิ่งแค่นี้จะเหนื่อยอะไร พี่ไคเค้าก็วิ่งตามฉันแบบนี้แหละ ทำเป็นบ่น"
"แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก"
สองวิ่งตามรถมอเตอร์ไซค์ของแตงกวามาส่งถึงที่บ้านของเธอ แต่กว่าจะมาถึงเขาก็แข้งขาอ่อนหมดเรี่ยวแรงไปก่อนแล้ว เลยต้องโทรให้ลูกน้องที่ค่ายขับรถมารับกลับ
"เราก็น้า ไปแกล้งพี่เขา" ผู้เป็นแม่บ่นอุบ เพราะออกมาเจอสองอยู่เหมือนกัน เห็นสภาพแล้วก็เดาได้ไม่ยาก คงจะถูกลูกสาวตัวดีของตัวเองแกล้งมาอีกแล้วสิ
"แตงไม่ได้แกล้งนะแม่ แตงเห็นพี่ไคก็วิ่งแบบนี้ ไม่เห็นเขาบ่นเลย ขากลับก็วิ่งกลับ"
"คนเราเหมือนกันที่ไหนเล่า"
"แหม ไม่อยากให้แตงแกล้ง เพราะเห็นว่าเป็นลูกใครเปล่า..."
"ไอ้แตง เอ็งนี่นะ!"
"ทำเป็นเขิน ชอบก็บอกชอบสิ ไม่เห็นต้องเขินเลย ลุงเสี่ยเสมก็เป็นคนดีออก"
"ไอ้แตง.." พูดเสียงเข้ม ข่มลูกสาวไม่ให้พูดอะไรเลยเถิดไปมากกว่านี้
"แม่โสด ลุงเสี่ยเสมก็โสด แตงไม่ใช่เด็กแล้วนะที่จะไม่รู้อะไร ทำไมแตงจะไม่รู้ว่าลุงเสี่ยเสมจีบแม่อยู่"
"เอ็งก็น้า มันเป็นไปไม่ได้หรอก เสี่ยเสมเขาเป็นใคร แม่เป็นแค่แม่ค้า มันจะไปเหมาะสมอะไรกัน"
"สมัยนี้ใครเค้าสนใจเรื่องความเหมาะสมกัน คนรักกันไม่มีใครเค้ามานั่งสนใจฐานะกันหรอก"
ผู้เป็นแม่ถอนหายใจแรงใส่ลูกสาว ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมต้องพูดเปิดทางอะไรแบบนี้ ถึงจะไม่สนใจเรื่องความเหมาะสม แต่ตอนนี้ก็อายุมากแล้ว ใครเขาจะมาสนใจเรื่องมีครอบครัวอีกล่ะ มีแต่จะใช้ชีวิตกันเท่านั้นแหละ อีกอย่างมันก็หมดแรงจะมีลูกไปแล้ว
ตั้งแต่เด็กๆ แตงกวาก็รู้จักมักคุ้นกับครอบครัวของสองมาตลอด และก็สนิทกันมากด้วย
"แตงก็แค่อยากให้แม่มีคนอยู่ข้างๆ"
"ก็เอ็งไงแตง"
"แตงรู้ แตงไม่ทิ้งแม่หรอก แตงแค่อยากให้แม่มีความสุข"
"แค่นี้แม่ก็มีความสุขแล้ว เลิกพูดได้แล้วเอ็งนี่"