ตอแหล...1

420 คำ
“ขอบใจมากกรณ์” ทันทีที่ปกรณ์วางร่างไร้สติลงที่ห้องที่เจ้านายเขาสั่ง กาวีก็เอ่ยปากขอบคุณเขา แต่สิ่งที่เจ้านายของเขาให้ปกรณ์ทำ เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้กำลังนอนหมดสติอยู่ที่ห้อง ที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรเลย แม้แต่หมอนหรือผ้าห่มก็ยังไม่มี เหมือนว่าเธอถูกจับตัวมา เพื่อที่จะกักขังไว้เพื่อเหตุผลอะไรสักอย่าง แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยถามผู้เป็นนายออกไป “ให้ผมไปเอาผ้าห่มกับหมอนมาให้เธอมั้ยครับ” ด้วยมนุษยธรรมทำให้ปกรณ์เอ่ยถามออกไป แม้ว่าจะไม่รู้ว่าเจ้านายของเขา มีวัตถุประสงค์อะไรจึงทำเช่นนี้ “ไม่ต้อง!! ผู้หญิงคนนี้มันเหมาะที่จะอยู่แบบนี้ มาเหนื่อยๆ ไปพักเถอะ ถ้าฉันต้องการอะไรเดี๋ยวเรียกเอง” กาวีเอ่ยออกมาเสียงห้วน เพราะรับรู้ดีว่าลูกน้องของตนเองกำลังสงสารผู้หญิงคนนี้ เขาพยายามจะใจเย็น ด้วยเพราะว่าปกรณ์ไม่รู้เรื่องนี้ เขาจึงสั่งให้ปกรณ์ออกไป ส่วนเรื่องของปรายฟ้าให้มันเป็นหน้าที่ของเขา ในเมื่อร่านมากขนาดที่กล้าแย่งของของคนอื่น งั้นก็ต้องกล้ารับผลของการกระทำของตัวเองด้วย แต่เขาไม่หวังหรอกนะว่าผู้หญิงคนนี้จะยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำ เพราะไม่มีคนที่ทำผิดคนไหนกล้าที่จะยืดอกรับผิดในสิ่งที่ตัวเองทำหรอกนะ “ครับนาย” เมื่อเห็นท่าทางอารมณ์เสียของผู้เป็นนาย ปกรณ์ก็เลยต้องออกไปทันที ก่อนที่นายของเขาจะหันมาจัดการเขาแทนผู้หญิงคนนั้น พอปกรณ์ออกไปจากห้องเท่านั้นแหล่ะ กาวีก็ละความสนใจจากเขาทันที ตอนนี้สายตาของชายหนุ่มมองมาที่ปรายฟ้าด้วยแววตาที่เหี้ยมเกรียม ขอเพียงเธอฟื้นขึ้นมาเท่านั้นแหล่ะ เธอจะเริ่มสัมผัสกับนรกบนดินที่เธอต้องจดจำเอาไว้จนวันตายของเธอ ปรายฟ้ายังคงสลบไม่ได้สติ กว่าที่เธอจะฟื้นขึ้นมาก็เป็นกลางดึกของคืนนั้น เธอลืมตาขึ้นมาท่ามกลางความหนาวเหน็บ พื้นกระเบื้องที่แข็งและไม่มีอะไรรองมันทำให้เธอหนาวเหน็บมากกว่าเดิมอีก นี่เธออยู่ที่ไหน เธอพยายามที่จะกระพริบตาถี่ๆ เพื่อที่จะปรับสายตาให้รับกับแสงไฟสลัวภายในห้อง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม