หลายวันต่อมา
รถยนต์คันหรูซึ่งแทนไทรับหน้าที่เป็นคนขับเลี้ยวเข้ามาจอดภายในโรงจอดรถของคฤหาสน์หลังใหญ่ วันนี้โชคดีที่เคลียร์งานในกาสิโนเสร็จเร็วเขาจึงได้เลิกงานก่อนสองทุ่ม หลังจากที่ทำงานลากยาวยี่สิบชั่วโมงมาหลายวัน
แทนไทในวัย 30 ปี ชินกับงานที่กำหนดเวลาไม่แน่นอนแบบนี้เสียแล้ว เพราะเขาทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ปฐพีมาเกือบ4ปี จากที่เพื่อนชวนมาเป็นบอดี้การ์ดให้ แต่จับพลัดจับผลูกลายมาเป็นมือขวาคนสนิท ทำงานเทียบเท่าเจ้านายอย่างปฐพีมาเฟียผู้เป็นเจ้าของธุรกิจกาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
แต่อีกไม่นานก็คงต้องกลับไปช่วยธุรกิจครอบครัวที่อเมริกา ส่วนงานที่ช่วยปฐพีอยู่ตอนนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่เมืองไทย ซึ่งเป็นบ้านเกิดที่แทนไทจากไปตั้งแต่อายุ15ปี
"จะรีบไปไหน ไม่อยู่ทานข้าวกับแม่กูก่อน"
เมื่อเห็นว่ามือขวาคนสนิทเดินลงจากรถที่ขับมาส่งเขาถึงบ้าน จากนั้นก็หยิบกุญแจรถบิ๊กไบค์คู่ใจออกมาก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย ช่วงนี้แทนไทเงียบและเคร่งเครียดผิดปกติคล้ายกำลังมีปัญหาบางอย่าง จนเจ้านายอย่างปฐพีอดสงสัยไม่ได้ เพราะปกติแทนไทเป็นคนติดตลกไม่ค่อยเงียบปากหากไม่มีเรื่องเครียดจริงๆ หรือว่าเขาให้แทนไททำงานเยอะเกินไป แต่มันก็เป็นแบบนี้มานานแล้วนี่หว่า
"ผมยังมีธุระที่ต้องไปทำต่อไม่รบกวนนายกับคุณวีร์ดีกว่า ที่สำคัญอีกไม่นานคุณวีร์ก็จะผ่าตัดแล้วนายเป็นลูกก็ควรอยู่กับท่านเยอะๆ ส่วนงานอะไรที่ให้ผมทำแทนได้สั่งมาได้เลย"
มองไปอีกทางก็เห็นหญิงวัยกลางคนกำลังเดินออกมาจากตัวบ้าน คงได้ยินเสียงรถลูกชายมาจอดนานแล้วแต่ยังไม่เห็นลูกเข้าบ้านสักที
"สภาพมึงทำงานยี่สิบสี่ชั่วโมงไม่พักมาสามสี่วันแล้ว กูถามจริงเถอะ มึงมีเรื่องอะไรที่มึงไม่ได้บอกกูมั้ย"
"ถ้าเรื่องงานผมจัดการหมดแล้ว แต่เรื่องส่วนตัวผมขอเก็บเป็นเรื่องส่วนตัวนะครับ"
มือขวามาเฟียเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขายกมือไหว้มาชาวีร์แม่ของปฐพีอย่างนอบน้อม จากนั้นก็เดินไปขึ้นคร่อมรถบิ๊กไบค์คันสีดำทะมึน สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วขับออกไปด้วยความเร็ว ไม่ได้สนใจสายตาเป็นห่วงจากเจ้านายเลยแม้แต่น้อย
"มิเชลจะเลิกงานยังวะ" พึมพำกับตัวเองถึงเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันหลายวัน เห็นเธอลงสตอรี่ในอินสตาแกรมว่าประชุมทั้งวันตอนนี้อาจจะยังไม่เลิกงาน คิดได้อย่างนั้นก็เปลี่ยนปลายทางจากคอนโดตรงไปยังCITYZEN ASTOTEL โรงแรมหรูใจกลางเมืองทันที
ด้านมิเชล
"สามทุ่มแล้วเหรอเนี่ย"
หญิงสาวเอนหลังพิงไปกับพนักเก้าอี้ด้วยความเหนื่อยล้า สูดลมหายใจเข้าออกยาวๆ บรรเทาอาการปวดเมื่อยจากการทำงาน มือเล็กเอื้อมไปหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบแต่ก็พบว่าไม่เหลือสักหยด ไฟจากออฟฟิศรอบนอกเปิดสว่างจ้าทว่าพนักงานโซนนี้กลับบ้านกันหมดแล้ว
"หิวจัง" มือเล็กลูบท้องตัวเองป้อยๆ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆ ขึ้นมาเปิดอ่านข่าวสารบ้านเมืองในโซเชียลมีเดีย ดูเพจแนะนำอาหารการกินเรียกน้ำย่อยตัวเอง
หลายวันมานี้มิเชลมีงานหลายอย่างที่ต้องจัดการ ทั้งงานที่โรงแรมและธุรกิจอื่นๆ ซึ่งกำลังจะร่วมหุ้นกันกับโอลีฟ มากไปกว่านั้นคือโรงแรมที่ภูเก็ตก็กำลังมีปัญหา พ่อของเธอยังคงจัดการงานอยู่ที่นั่น งานทุกอย่างในโรงแรมที่กรุงเทพมิเชลจึงเป็นคนดูแลเองทั้งหมดทำให้ไม่มีแม้แต่เวลาพักผ่อน กว่าจะเลิกงานบางครั้งก็ปาไปเที่ยงคืน พอกลับถึงคอนโดก็หลับปางตาย
แต่ก็ยังพอมีเวลาคิดถึงแทนไทอยู่บ้าง
ทว่าฝ่ายนั้นสิหายไปเลย ไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายวันแล้ว
ครืดๆ ครืดๆ
-พี่แม็กตันซ์-
"โทรมาป่านนี้อย่ามาของานน้องนะ" เสียงงัวเงียกรอกเสียงลงโทรศัพท์ ปลายสายได้ยินก็รู้ได้ทันทีว่ามิเชลยังไม่เลิกงาน
(ของานอะไรตอนนี้ แกนั่นแหละเลิกงานกลับบ้านได้แล้ว)
"เชลเพิ่งทำงานเสร็จค่ะ อ้อ แผนการตลาดช่วงสงกรานต์ส่งเข้าอีเมลให้พี่แล้วนะคะ"
(พี่ดูแล้ว ขอบใจเรามาก ยังไงก็พักผ่อนบ้างนะ เมื่อกี้พี่โทรหาแด๊ดมาทางนั้นก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พี่จะบินไปหาแด๊ดพรุ่งนี้แกไปกับพี่ไหม)
"ไม่ค่อยดีหมายความว่ายังไงคะ" ร่างสวยเด้งตัวนั่งหลังตรงท่าทางไม่สบายใจ เพราะครั้งนี้ธุรกิจโรงแรมที่นั่นมีผลกระทบจากการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ตอนนี้กำลังถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียด แม้พ่อของเธอจะมั่นใจว่าไม่มีความผิดแต่ก็ยังวางใจไม่ได้
(อาจจะได้รื้อถอนบางส่วน)
"คงไม่หรอกค่ะ แด๊ดไม่ใช่คนสะเพร่าขนาดนั้น"
(พี่เลยอยากไปดูด้วยตัวเองนี่ไง ว่าพอจะมีทางไหนรอดได้บ้าง)
ได้ยินอย่างนั้นก็ใจหายวาบ เพราะที่นั่นลงทุนสร้างไปไม่ใช่น้อย เรื่องกำไรไม่ต้องพูดถึง แล้วไหนคนงานที่จะต้องตกงานอีก สองพี่น้องปรึกษากันถึงวิธีที่พอจะเป็นไปได้ซึ่งยังไม่มีทางออกที่แน่ชัด มิเชลร้อนรนจนอยากเดินทางไปที่นั่นกับพี่ชายแต่ก็ห่วงงานทางนี้เช่นกัน
ก๊อก! ก๊อก!
วางสายจากพี่ชายได้สักพักประตูห้องทำงานก็ถูกเคาะและเปิดเข้ามาโดยผู้ติดตามของเธอ ชินโค้งศีรษะให้ผู้เป็นเจ้านายแทนคำขออนุญาต ซึ่งมิเชลรู้อยู่แล้วว่าคงเป็นคำสั่งของพี่ชายที่ให้ผู้ติดตามหนุ่มขึ้นมาตามเธอกลับบ้าน
"คุณหนูครับ"
"พี่แม็กซ์สั่งให้มาตามฉันกลับบ้านสินะ"
"ครับ วันนี้จะกลับบ้านหรือคอนโดครับ"
"กลับคอนโดดีกว่า นายไปเอารถมารับฉันที่ด้านหน้าโรงแรมก็แล้วกัน"
"ครับ"
ชินเดินออกจากห้องทำงานไปแล้วส่วนมิเชลนั้นก็รวบของลงกระเป๋าถือ จากนั้นก็ออกจากห้องทำงานเพื่อเดินไปขึ้นรถที่หน้าโรงแรม ระหว่างนั้นก็แวะถามสวัสดิภาพของพนักงานกะดึกไปด้วย
"เอ๊ะ..."
เมื่อถึงหน้าประตูโรงแรมฝีเท้าสวยบนรองเท้าส้นสูงชะงักเล็กน้อย มือก็กำหูกระเป๋าถือแน่นด้วยความประหม่า เพราะสายตาดันเหลือบไปเห็นร่างสูงที่คุ้นเคยเข้าพอดิบพอดี
'ไม่ได้เจอหน้าตั้งหลายวันคิดถึงจังเลย'