เรื่องจริงหรือฝันไป

1242 คำ
ตอนที่ 5 เรื่องจริงหรือฝันไป “ลองจับดูซิครับ” เสียงของคนงานโรคจิต ดังก้องอยู่ในหูของน้ำทิพย์ และภาพของ ท่อนมังกรลำใหญ่ที่เต็มไปด้วยเส้นเอ็นนั้นก็ติดตราตรึงใจของเธอจนกระทั่งตื่น . . “น้ำ ตื่นได้แล้วจะนอนกินบ้านกินเมืองรึไง” เสียงมารดาร้องเรียกอยู่ด้านล่าง ทำให้ น้ำทิพย์ผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วยความตกใจ มองไปรอบข้างถึงรู้ว่าเป็นเวลาสายโด่งแล้ว ก้มมองตัวเองที่อยู่ในชุดนอนลายหมีพลูที่เตรียมไว้ก่อนอาบน้ำเมื่อวาน อะไรกัน! เธอฝันไปเหรอเนี่ย ทำไมเป็นฝันที่สมจริงนัก หญิงสาวเผลอลูบไล้ตามเรียวปากและเนื้อตัวของตัวเอง นึกถึงสัมผัสจากปลายลิ้นสากหนาที่โลมเลียไปทั่วร่างโดยเฉพาะกลีบเนื้อบอบบาง ก่อนที่เธอจะเห็นเขายกยิ้มตรงมุมปากเล็กน้อย และผละร่างออกไป เมื่อเธอมึนเมาจะหลับใหล คาร์ดิแกนสีชมพูกับหมวกที่วางอยู่บนปลายเตียง ทำให้น้ำทิพย์ ดีดกายลุกขึ้น แสดงว่า ...เธอไม่ได้ฝันไป . . “เห็นว่าทางคุณเรช แจ้งว่าอาจจะให้คนมาปรับพื้นที่ไร่บางส่วนที่รกร้างตรงริมเขา พรุ่งนี้อาจต้องไปช่วยดูหน่อย” พ่อของเธอคุยกับแม่ เมื่อน้ำทิพย์เดินลงมาข้างล่าง คุณเรชที่เอ่ยถึง น่าจะเป็นคุณอัครเรช เจ้าชองที่อันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ ในชีวิตนี้ น้ำทิพย์ได้เจอท่านอยู่ไม่กี่ครั้ง เห็นว่ามีที่ดินอยู่ทั่วประเทศ สงสัยจะลืมไปแล้วว่าเคยมีที่อยู่ตรงนี้ “มิน่า เมื่อเข้าเห็นคนของสิริวัฒนามาเพียบเลย” แม่ของเธอเอ่ยขึ้น ขณะกำลังจัดเตรียมของให้พ่อ หันมามองน้ำทิพย์ ที่เดินมาชงโอวัลติน “น้ำ เอาใข่ไปให้คนงานเพิ่มหน่อย แม่กลัวเขาจะไม่พอกิน” คำบอกของแม่ ทำให้น้ำทิพย์ ขนชูชันขึ้นมาอีกรอบ ทั้งจากเหตุการณ์ตั้งแต่ไปส่งใข่ จนถึงเมื่อคืนนี้ “ให้ไอ้จ้อยไปเหอะแม่ วันนี้หนูจะเข้าไปสัมภาษณ์งานในเมือง” น้ำทิพย์ เอ่ยปฎิเสธ ต่อไปหากไม่มีเหตุจำเป็นคอขาดบาดตายจริงๆ เธอจะไม่เหยียบไปที่นั่นเด็ดขาด “เออๆ ก็ได้ ขอให้ได้นะลูก” แม่หันมาพูดอย่างอ่อนโยน แม้นานๆทีจะมีคำเอ่ยพวกนี้ออกมา แต่น้ำทิพย์ก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่ เพราะการสัมภาษณ์งานวันนี้ ในตำแหน่งบัญชี รับแค่ 1 อัตราเท่านั้น แต่ก็ยังดี ที่มีการเรียกสัมภาษณ์ . . เจแมริออท ดีเวลลอปเม้นท์ เป็นกลุ่มบริษัทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมทางภาคเหนือ ถือเป็นบริษัทใหญ่ที่ต้องการมาเปิดตลาดเพิ่มในตอนนี้ “เรามีแพลนจะตีตลาดเพื่อรองรับเชตอาเชียนทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ เจแมริออทเลยต้องการพนักงานที่มีฝีมือ ประจำที่นี่” ฝ่ายบุคคลสัมภาษณ์เธอ น้ำทิพย์พยักหน้ารับหลังจากตอบคำถามไปเกือบหมดแล้ว สังเกตว่าผู้หญิงตรงหน้าอายุประมาณห้าสิบปี พลิกเอกสารดูข้อมูลเธอไปมา เห็นบอกว่า ชื่อคุณจิณ เป็นมือขวาของนายใหญ่ เวลามีงานอะไร จะเรียกใช้คนนี้ตลอด “จริงๆ นายเรา ได้ดูข้อมูลคุณ น้ำทิพย์ เบื้องต้นแล้ว ก็เห็นว่าน่าสนใจ” คำพูดของคุณจิณทำให้น้ำทิพย์ เบิกตากว้างอย่างลิงโลด “แต่ถ้าเป็นฝ่ายบัญชี เราอยากได้คนที่สามารถเซ็นงบได้ เป็นระดับสมุห์บัญชีมากกว่า” คุณจิณเอ่ยเสียงราบเรียบ นั่นทำให้ น้ำทิพย์ หน้าเสียเล็กน้อย เธอเองเพิ่งเรียนจบและทำงานบัญชีได้ไม่กี่ปี ยังไม่มีประสบการณ์ถึงขึ้นปิดงบบัญชีและเซ็นผู้สอบบัญชีได้ “แต่หลังจากที่ นายพี่ได้ดูรีซูเม่ของคุณน้ำทิพย์แล้ว อยากให้มาทำเป็นเลขาหรือผู้ช่วยจะพอได้มั้ย พอดีนายอาจจะมาประจำที่นี่นาน และเราอาจจะสร้างโรงแรมที่นี่เพิ่ม” น้ำทิทย์เริ่มรู้สึกลังเล เธอยังไม่เคยทำตำแหน่งเลขา และรู้ว่าอาจจะเป็นงานที่ค่อนข้างจะจุกจิกพอสมควร “ถ้าคุณสนใจ นายพี่อาจจะคุยรายละเอียดเพิ่ม ส่วนเงินเดือนจะได้มากกว่าที่คุณขอมา” คำว่าได้เงินมากกว่าที่ขอมานั้นสำคัญนัก มันจะมีเรื่องอะไรที่สำคัญกว่านี้เหรอ ..ยายน้ำ “ตกลงค่ะ ดิฉันเป็นคนเรียนรู้งานได้เร็ว มั่นใจว่าจะสามารถปฎิบัติหน้าที่เลขาได้เป็นอย่างดี” น้ำทิพย์รีบพรีเซ้นต์ตัวเอง ต่อหน้าคุณจิณ “งั้น เชิญที่ห้องนายได้เลยค่ะ คุณเจคอบ สิริวัฒนา จะได้คุยรายละเอียดงานเพิ่มได้” เจคอบ สิริวัฒนา งั้นเหรอ หมายว่าว่า เจแมริออท เป็นบริษัทในเครือของกลุ่ม JWP ที่เธอเคยไปสมัครหลายครั้งแล้วไม่เคยจะได้เลย ได้ข่าวคนที่จะได้ทำงานที่นี่ ต้องมีฝีมือจริงๆ แถมคนที่นั่นยังเคยบอกว่าที่JWP ไม่เคยมีเด็กฝากเด็กเส้นอีกด้วย สิริวัฒนา งั้นก็เป็นนามสกุลของคุณอัครเรช เจ้าของที่ดินหลายพันกว่าไร่ข้างๆ บ้านเธอนะซิ ...น้ำทิพย์ร้องอุทานในใจ เมื่อลำดับเหตุการณ์ได้ อะไร มันจะบังเอิญขนาดนั้นนะ น้ำทิพย์ พยายามระงับอารมณ์ตัวเองให้ปกติ เมื่อต้องเข้าสัมภาษณ์ เพราะรู้ว่าเขาคือ เจคอบ สิริวัฒนา ลูกชายคนเล็กของกลุ่มJWP การมาบุกเบิกที่นี่ ทางสำนักงานใหญ่มอบหมายให้ทางคุณเจคอบ ดูแลรับผิดขอบทั้งหมด น้ำทิพย์จำได้ เด็กชายตัวน้อยที่อายุไล่เลี่ยกับเธอ . “คุณเจคะ คุณน้ำที่นัดสัมภาษณ์และคุยรายละเอียดงานมาถึงแล้วค่ะ” คุณจิณเคาะประตูห้องเพียงสองครั้ง ก่อนที่คนในห้องซึ่งหันหน้าไปทางหน้าต่างจะตอบ “เชิญครับ” เสียงนุ่มหูที่คุ้นเคยนี้ เหมือนน้ำทิพย์จะเคยได้ยินจากที่ไหนสักแห่ง แต่เธอไม่มีเวลาเวลาฟุ้งซ่านนาน จำต้องเดินเข้ามาในห้องและนั่งเก้าอี้หน้าโต๊ะที่ คุณเจคอบ หันหลังให้ “เอกสารคุณน้ำค่ะ” คุณจิณวางเอกสารบนโต๊ะ ก่อนจะเดินเลี่ยงออกจากห้องไปและเปิดประตูเบาๆ “สวัสดีค่ะ น้ำทิพย์ค่ะ” น้ำทิพย์เอ่ยขึ้นเพื่อกระตุ้นความหึกเหิมในใจของตัวเอง หลังจากร่างในชุดสูทเนื้อดีนั้นยังนั่งหันหลังให้ “จริงๆ ดิฉันเคยทำงานด้านบัญชีมาสองปี มีความเชี่ยวชาญด้านเอกสารและการประสานงานอย่างดี แน่ใจว่าจะสามารถทำตำแหน่งเลขาได้เป็นอย่างดีค่ะ” เธอพยายามพูดอย่างมั่นใจไม่ตะกุกตะกัก “ครับ” คนบนเก้าอี้ตอบรับ และหมุนตัวกลับมาอย่างช้าๆ และเมื่อ น้ำทิพย์ ได้เห็นหน้าของเขาชัดๆ และสบตาคู่สีนิลเข้มที่มีแววทะเล้นจากใบหน้าหล่อเหลานั้น ก็ทำให้เธอต้องอ้าปากค้าง “นะ...นี่นาย” น้ำทิพย์เอ่ยตะกุกตะกัก บ้าบออะไรกันเนี่ย! ถ้าตอนนี้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกยังดูน่าเชื่อถือกว่านี้ นี่เจ้าคนงานโรคจิตข้างไร่ ..คือ เจคอบ สิริวัฒนาเหรอเนี่ย “ทำไมเหรอครับ” ปากหยักได้รูปเอ่ยถาม ตาคู่สีนิลสบตาคนตรงหน้านิ่ง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม