อยากเป็นแฟนตัวจริงหรือเปล่า

2023 คำ
เอิงเอย... กว่าฉันจะเก็บเศษซากทุกอย่างภายในห้องจนมันสะอาดเหมือนไม่เคยเละเทะมาก่อนก็ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงโดยที่เจ้าของห้องยังไม่ตื่นคือฉันไม่ได้มาแค่สองวันเท่านั้นสภาพห้องแทบดูไม่ได้ หลังจากนั้นฉันก็เดินไปที่ครัวเพื่อลงมือทำอาหารค่ำให้เขาทาน ฉันเป็นแฟนหลอกๆของเขามาเกือบสี่ปีฉันก็เลยรู้ว่าเขาชอบอะไรไม่ชอบอะไร วันนี้ฉันทำผัดไทยวุ้นเส้นกุ้งสดกับต้มจืดแตงกวายัดไส้ให้เขาทานเพราะได้ยินเขาบ่นที่มหาลัยว่าอยากกินผัดไทยที่มันอร่อยๆเพราะเขาไปสั่งในโรงอาหารมากินแล้วมันไม่อร่อยเขากินไปได้ไม่ถึงคำก็คายทิ้งทันที และในขณะที่ฉันกำลังยืนทำอาหารอยู่ก็มีคนโทรเข้ามาพอดีเป็นพี่มานพพี่ข้างบ้านที่เขาอาสามาช่วยดูแลพ่อให้ฉันรีบกดรับสายทันทีโดยการเปิดสปีกเกอร์โฟนเพราะคิดว่าอาจจะเกี่ยวกับพ่อ "พี่นพมีอะไรหรือเปล่าคะพ่อเอยเป็นอะไรไม่สบายรึเปล่า" "พ่อเอยไม่ได้เป็นอะไรหรอก คือพี่แค่จะโทรมาถามเอยว่าเสาร์นี้เอยจะกลับน่านหรือเปล่า" "เสาร์นี้เหรอคะเอยไม่แน่ใจเหมือนกันแต่ถ้าที่มหาลัยไม่มีอะไรเอยก็น่าจะกลับนะ" "คือพอดีว่าศุกร์นี้พี่จะไปสัมมนาที่กรุงเทพเสร็จประมาณเย็นๆพี่ก็เลยอยากจะชวนเอยออกไปทานข้าวแล้ววันเสาร์เราก็ขึ้นเครื่องกลับน่านพร้อมกัน" "ก็ได้ค่ะ ยังไงพี่นพโทรมาอีกทีนะคะเอยกลัวทำงานจนลืม" "ครับได้ครับไว้เจอกันศุกร์นี้นะ" "ค่ะ" "เอ้อเดี๋ยวเอยอย่าเพิ่งวางพี่มีเรื่องจะถามเอยหน่อย" "ถามเรื่องอะไรคะ" "เห็นพ่อเอยบอกว่าเอยจะกลับมาอยู่ที่บ้านหลังจากเอยเรียนจบจริงหรือเปล่า" "ค่ะเอยคิดว่าจะกลับไปดูแลพ่อแล้วก็หางานทำที่นั่นถึงเงินเดือนจะไม่สูงเท่าที่กรุงเทพก็ตาม" "พี่ดีใจนะที่เอยตัดสินใจแบบนั้น ไว้เดี๋ยวพี่จะถามฝ่ายบุคคลให้เผื่อว่ามีตำแหน่งไหนว่างที่ตรงกับสาขาที่เอยเรียนมา ถ้ามีเราก็จะได้ทำงานด้วยกันเจอหน้ากันทุกวัน" "เอ่อ ค่ะขอบคุณนะคะพี่นพถ้างั้นเอยขอวางสายก่อนนะคะพอดีทำงานค้างอยู่" ฉันรู้ว่ามานพรู้สึกยังไงกับฉันแต่ฉันก็ให้เขาเป็นได้แค่พี่ชายเท่านั้นเพราะหัวใจของฉันได้มอบให้กับปากร้ายใจดำไปหมดแล้ว หลังจากที่คุยกับพี่มานพเสร็จฉันก็กดวางสายแล้วลงมือทำอาหารต่อเพราะกลัวว่าคนปากร้ายจะหิว "ทำอะไร" ฉันสะดุ้งเสียงของธีร์ที่จู่ๆก็โพล่งขึ้นมาท่ามกลางความเงียบเพราะฉันคิดว่าเขาจะยังไม่ตื่น "ทำอาหารให้ธีร์ไง" ฉันตอบโดยที่ไม่หันไปมองเพราะกำลังรีบแกะเปลือกกุ้งอยู่ "รู้ว่าทำอาหารที่อยากรู้ก็คือทำอะไรให้กิน" "ทำผัดไทยวุ้นเส้นกุ้งสดกับต้มจืดแตงกวายัดใส้ไง" "นี่คืออาหารแก้แฮ้งค์บ้านเธอเหรอวะ" "ก็เราได้ยินธีร์บ่นอยากกินเราก็เลยแวะซื้อของมาจากตลาดมาทำให้กิน ถ้าไม่อยากกินก็ไม่เป็นไรนะ" ถ้าเขาไม่อยากกินฉันก็จะไม่ทำเพราะแต่ละอย่างมันต้องใช้เวลาฉันไม่อยากทำแล้วไม่มีคนกิน "ไหนๆก็ซื้อของมาละรีบๆทำหิวไส้จะขาดอยู่แล้ว" "รอประมาณครึ่งชั่วโมงนะเรายังไม่ได้ทำอะไรเลยกำลังแกะกุ้งอยู่" "อะไรวะ มาถึงตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอวะหิวแล้วนะเว้ย!!!" เขาทำไมเอาแต่ใจตัวเองได้ขนาดนี้ยิ่งนับวันก็ยิ่งเอาแต่ใจมากขึ้นเรื่อยๆแล้วฉันก็ทนนิสัยแบบนี้ของเขามาได้ถึงสี่ปีเต็มๆฉันทนได้ยังไงฉันยังไม่เข้าใจตัวเองเลย "ขอโทษก็เรามัวแต่เก็บขยะเก็บเศษซากถุงยางก็เลยช้า" "เออ เออ งั้นก็รีบๆทำละกันฉันจะเข้าไปนอนต่อถ้าเสร็จแล้วไปปลุกด้วย" "อื้มม" ปั้ง!!! เสียงประตูปิดดังสนั่นลั่นไปทั่วทั้งห้องตามแรงอารมณ์ของเจ้าของห้องที่หงุดหงิดเพราะไม่ได้ดั่งใจ ฉันลอบถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าอ่อนใจก่อนจะก้มหน้าทำอาหารต่อ ยี่สิบนาทีต่อมา.. ก๊อก ก๊อก ก๊อก ฉันไปเคาะห้องเรียกเขาเพราะตอนนี้อาหารทำเสร็จแล้ว "ธีร์ อาหารเสร็จแล้ว ธีร์" ก๊อก ก๊อก ก๊อก ฉันเคาะห้องเป็นรอบที่สองแต่ดูเหมือนเจ้าของห้องจะไม่ได้ยินเพราะไม่มีเสียงตอบรับจากคนด้านใน เขาเป็นอะไรหรือเปล่าเพราะเมื่อกี้ฉันสังเกตน้ำเสียงของเขามันแหบๆเหมือนจะเจ็บคอ หรือเขาจะไม่สบาย คือถ้าเขาจะป่วยก็คงไม่แปลกเพราะเขาเล่นดื่มแอลกอฮอล์มาสองคืนติด ก๊อก ก๊อก ก๊อก ฉันเคาะห้องเขาเป็นรอบที่สามแต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับฉันลองเปิดประตูห้องเข้าไปคือในห้องมืดมากและเย็นมากเขาเปิดแอร์เบอร์อะไรทำไมถึงเย็นได้ขนาดนี้จากฉันก็เดินเข้าไปกดสวิตไฟ พอห้องทั้งห้องสว่างก็เห็นธีร์นอนคลุมโปงอยู่บนที่นอนโดยที่ขาของเขาโผล่ออกมาจากผ้าห่ม "ธีร์ ธีร์" ฉันเดินไปเขย่าตัวเขาที่นอนอยู่บนเตียงปรากฏว่าเขาตัวร้อนมากฉันรีบหยิบรีโมทมาปิดแอร์ที่เขาเปิดไว้ในอุณหภูมิสิบเจ็ดองศาก่อนที่เขาจะเป็นปอดบวมไปเสียก่อน ฉันเขย่าตัวเขาอีกรอบเพื่อให้เขารู้สึกตัว "ธีร์ ธีร์" "หื้มมมมม" "ธีร์ไม่สบายตัวร้อนมากเลยเดี๋ยวเราไปเอายาแก้ไข้มาให้นะ" เขาพยักหน้าเบาๆเหมือนรู้ตัวฉันรีบวิ่งออกไปเพื่อเอายาแก้ไข้กับน้ำเปล่าโดยที่ไม่ลืมแผ่นเจลแปะลดไข้ที่ฉันมักจะซื้อมาทิ้งไว้เพราะธีร์ไม่สบายบ่อยคือถ้าช่วงไหนเขาดื่มหนักพักผ่อนน้อยเขาก็จะไม่สบายแบบนี้เป็นประจำยาแก้ไข้กับแผ่นแปะลดไข้จึงต้องมีติดห้องไว้เสมอ ฉันกลับเข้ามาในห้องพร้อมของในถาดไม่ว่าจะเป็นยาแก้ไข้แก้ไอแก้อักเสบ แผ่นเจลลดไข้ ข้าวต้มที่ฉันทำแบบเร่งด่วนเพราะเขาต้องกินข้าวก่อนกินยาไม่อย่างนั้นยาจะไปกัดกะเพาะ "ธีร์ลุกมาทานข้าวก่อนเดี๋ยวจะได้ทานยา" "ไม่เอา ปวดหัวลุกไม่ไหว" "ไม่ไหวก็ต้องลุกไม่อย่างงั้นไม่หายนะอย่าลืมว่าพรุ่งนี้เรามีสอบน่ะ" "สอบก็สอบไปดิคนมันลุกไม่ไหวให้ทำไงวะ" เสียงงอแงอย่างคนเอาแต่ใจทำให้ฉันถึงกับส่ายหน้าอย่างเอือมระอา เขาคิดว่าตัวเองเป็นหลานเจ้าของมหาลัยก็เลยจะทำอะไรก็ได้อย่างงั้นเหรอ โดยที่เขาลืมไปว่าเมื่อเทอมก่อนเขาขาดสอบทำให้เขาถูกหักคะแนนไป "ลุกมาทานข้าวทานยาเถอะนะธีร์" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนเพราะไม่อยากให้เขานอนซมอยู่แบบนี้ "โอ๊ยจะอะไรนักหนาวะเป็นแม่ฉันรึไงบังคับอยู่ได้" เขาตะคอกใส่ฉันเสียงดังทำให้ฉันอดน้อยใจไม่ได้ ฉันหวังดีกับเขาแท้ๆ "ถ้าอย่างั้นเราวางยาแก้ไข้กับเจลแล้วก็ข้าวต้มไว้ตรงนี้นะถ้าหิวก็ลุกมาทานเองนะเรากลับล่ะค่ำแล้ว" ฉันบอกกับธีร์โดยที่ไม่รู้ว่าเขาสนใจฟังหรือเปล่า แต่ตอนนี้มันจะสามทุ่มแล้วฉันต้องรีบกลับก่อนที่รถเมล์จะหมดเพราะจากคอนโดของเขาไปหอพักของฉันมันไกลกันมาก อยากจะบอกว่าตั้งแต่คบกันมาเขายังไม่เคยรู้เลยว่าฉันพักอยู่ที่ไหนหรืออยู่กับใครเพราะเขาไม่เคยไปรับไปส่ง มีแต่ฉันที่ต้องนั่งรถเมล์มาหาเขาเอง หึ น่าอายจังเลยเนอะ เป็นแฟนปลอมๆนี่มันลำบากจริงๆไม่เหมือนผู้หญิงที่เขาควง ฉันเห็นเขาขับรถไปรับไปส่งผู้หญิงพวกนั้นไม่เคยหรอกที่เขาจะทำแบบนั้นกับฉัน คบกันมาสี่ปีฉันยังไม่เคยขึ้นรถเขาเลยสักครั้ง ก่อนจะออกมาจากห้องของเขาฉันก็รีบจัดการเก็บผัดไทยกับต้มจืดเข้าตู้เย็นเพื่อเขาจะอุ่นกินวันพรุ่งนี้ถ้าเขาลุกไหว แต่พอฉันกำลังจะก้าวขาออกจากห้องฉันก็ได้ยินเสียงแก้วแตกในห้องของธีร์ฉันรีบถอดรองเท้าแล้ววิ่งเข้าไปดูก็เห็นธีร์นั่งอยู่ข้างเตียงมือของเขากำลังคือยาแก้ไข้ส่วนแก้วน้ำมันหล่นแตกอยู่ข้างๆ "ธีร์เป็นอะไรมั้ยเจ็บตรงไหนหรือเปล่า" ฉันรีบไปจับดูที่แขนของเขาว่าโดนเศษแก้วบาดหรือเปล่า "แม่งมือไม่มีแรงเลยว่ะ" ฉันมองมือของเขาที่สั่นพอแตะไปที่ตัวตัวของเขาร้อนมากกว่าเดิมอีกฉันก็เลยวิ่งออกไปเอาขวดน้ำเปล่าขวดใหม่เข้ามาให้เขา "ถ้างั้นธีร์ทานยาแก้ไข้ไปก่อนนะส่วนยาที่เหลือทานหลังอาหารนะไม่อย่างงั้นมันจะไปกัดกระเพาะ" "ป้อนทีกินเองไม่ไหว" เสียงเขาแหบพร่ามากจนน่าสงสารฉันก็เลยหยิบมาแก้ไข้ในมือป้อนให้เขาเองจากนั้นก็เอาขวดน้ำจดจ่อไปที่ริมฝีปากแห้งที่แดงจัดเพราะพิษไข้ "อึก อึก แค่ก แค่ก" "ดื่มช้าๆสิ" ฉันดุเขาเบาๆเพราะเขารีบดื่มน้ำจนสำลัก จากนั้นฉันก็ค่อยๆพยุงเขาขึ้นไปนอนบนเตียงก่อนที่ฉันจะก้มลงเก็บเศษแก้วน้ำที่เขาทำแตกก่อนหน้านี้เพราะกลัวเขาจะไปเหยียบเข้า พอฉันเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าเขาเอาแต่จ้องหน้าฉันจนฉันเขิน "ธีร์มองหน้าเราทำไม" "ก็แค่อยากมองทำไมวะมองหน้าแฟนตัวเองไม่ได้รึไง" "ก็แค่แฟนปลอมๆ" "แล้วอยากเป็นแฟนจริงๆดูบ้างไหมล่ะ" "พูดอะไรของธีร์เนี้ยะ" "พูดเรื่องจริง" "อย่างเราคงจะสู้ผู้หญิงสาวๆสวยๆที่ธีร์ควงไม่ได้หรอกอย่างเราเป็นได้แค่แฟนปลอมๆแบบนี้ก็ดีแล้ว" "พูดเหมือนน้อยใจ" "เราจะไปน้อยใจอะไร เปล่าซะหน่อย" "แน่ใจ" เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ คือมันใกล้มากจนฉันหวั่นไหวฉันรีบขยับตัวออกทันที "เราว่าธีร์นอนพักเถอะนะเราจะกลับแล้วดึกแล้ว" "ดึกแล้วก็นอนที่นี่ดิห้องอีกห้องก็ยังว่างไม่มีใครนอน" "ไม่เป็นไรเราไม่อยากรบกวนธีร์" "บอกให้นอนที่นี่ก็นอนดิ หรือจะนอนห้องนี้บนเตียงนี้" "บ้าไม่เอาหรอก เราจะนอนเตียงเดียวห้องเดียวกับธีร์ได้ยังไง" "ทำไมจะไม่ได้เป็นแฟนกันนอนห้องเดียวกันมันผิดตรงไหน" "มันไม่ผิดถ้าเราเป็นแฟนกันจริงๆแต่นี่มันไม่ใช่ไง" "ก็ถึงถามเมื่อกี้ไงว่าอยากเป็นแฟนตัวจริงหรือเปล่า" ".........." ยอมรับว่าฉันไม่เข้าใจที่ธีร์พูดเขาต้องการอะไรกันแน่ อิธีร์นี่ไว้ใจไม่ได้เลยนะนี่ขนาดป่วยอยู่นะ5555 ดราม่ากำลังจะคืบคลานเข้ามาเตรียมตัวให้พร้อมนะคะทุกคนบอกเลยว่าพระเอกเรื่องนี้มันเห๊.....เห้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม