“อย่าสนใจเลยพวกแก พูดมากไว้ฟ้องทีเดียว”
“เออจริง ฟ้องทีเดียวได้เงินด้วย” จีจี้พยักหน้าเห็นด้วย แล้วทั้งสี่สาวก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องข่าวลืออะไรนั่นอีก สี่สาวยังให้ความสนใจกับการเมาท์มอยเรื่องสัพเพเหระและคุยเรื่องวิชาเรียนต่าง ๆ
ฟากสองหนุ่มในห้องนั่งเล่น ตอนนี้กำลังขะมักเขม้นกับการตีป้อมฝ่ายตรงข้าม
“มึงกับน้องนิชานี่ยังไง” อาชวินถามธรรนธ์ที่ตั้งหน้าตั้งตาตีป้อมกว่าทุกครั้ง ตั้งใจจนมีพิรุธ
“ไม่มีอะไร โอ๊ย! แพ้เลยแม่ง เพราะยายตัวซวยคนเดียวเลย”
“มึงแม่ง! ไปเรียกผู้หญิงเขาอย่างนั้นได้ยังไง” อาชวินผู้ถูกอบรมมาอย่างดี การด่าว่าผู้หญิงนั้นไม่ใช่เรื่องที่ครอบครัวเขานิยม
“เรื่องมันยาว” ธรรนธ์ถอนหายใจเมื่อนึกถึงนิชา เขากับเธอบ้านอยู่ติดกัน ตอนเด็กเขากับเธอสนิทกัน ด้วยอายุที่ห่างกันสี่ปีทำให้เธอค่อนข้างติดเขา แต่เมื่อเขาเข้าช่วงวัยรุ่น แต่เธอกลับยังเป็นเด็ก เขาพยายามตีตัวออกหากเธอเรื่อย ๆ
แต่สิ่งที่ทำให้ธรรนธ์ไม่อยากเข้าใกล้เธอ เพราะเวลาเขาเจอเธอมักจะโชคร้าย ตอนแรกเขาก็ไม่อยากเชื่อ แต่เมื่อเจอเหตุการณ์หลายครั้งเข้า เขาเลยกลัวที่จะเจอเธอ
“ไม่มีทางแก้เหรอ” อาชวินถามขึ้น สำหรับเขาศาสตร์ที่มองไม่เห็น ครอบครัวเขาค่อนข้างให้ความเชื่อถือ
“มี”
“ทำยังไงวะ”
“มึงเงียบไว้นะ อย่าบอกใคร” ธรรนธ์ทำเสียงกระซิบกระซาบทั้งที่ในห้องนี้มีเพียงเขากับอาชวิน
“เออ” เจ้าของห้องรับปากออกไปอย่างรำคาญ เพื่อนมันเห็นเขาเป็นพวกปากสว่างหรือไง ถึงได้กลัวว่าเขาจะเอาไปพูด
“คือ ถ้าเจอกันแล้ว ถ้ากูกับยายเตี้ยนั่นจูบกัน จะกลายเป็นว่าดวงดีทั้งวัน แข่งอะไรก็ชนะ”
“เหี้ย!” อาชวินสบถออกมากับการแก้ดวงที่เกิดมาเพิ่งเคยได้ยิน
“มึงอย่าตะโกนสิ” ธรรนธ์ต้องรีบห้ามเพื่อน
“แม่งหมอไหนบอกมึงให้แก้เคล็ดแบบนี้วะ แล้วน้องเขายอมเหรอ”
“ก็ยอมบ้างไม่ยอมบ้าง” ผู้ชายหน้าโหดผู้ไว้ผมทรงนกหัวขวานที่คนชอบเรียก เวลาเขินมันก็ให้ความรู้สึกขนลุกดี อาชวินมองท่าทางเขินอายของเพื่อนแล้วได้แต่ถอนหายใจ
“ตกลงที่ดึงน้องเขาไปเมื่อกี้คือพาไปจูบ”
“เออดิ”
“อ้าว แล้วเมื่อกี้ทำไมมึงแพ้” อาชวินถามอย่างสงสัย ในเมื่อจูบกันแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมตีป้อมเมื่อตะกี้เพื่อนเขาถึงแพ้ได้
“เขาไม่ให้ใช้ลิ้น”
“เชี่ย!” อาชวินกุมขมับกับสิ่งที่ได้ยิน
“มึงเข้าใจคำว่าจูบไหม จูบมันก็ต้องใช้ลิ้นเปล่าวะ แต่ยายเตี้ยนั่นปิดปากแน่น” ธรรนธ์ยังพูดอย่างไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่ มองไปนอกระเบียงตรงสระว่ายน้ำ ยายเตี้ยยังกระโดดน้ำอย่างกับเด็กเล่นน้ำคลอง
‘เด็กอะไรแม่งปากหวาน’
หลังจากเพื่อนกลับไปแล้ว เหลือเพียงสองหนุ่มสาวนั่งกอดก่ายกันอยู่บนเตียงนุ่ม ทั้งสองสลับหัวสลับเท้ากันอยู่ เท้าของหญิงสาวพาดอยู่บนตักของชายหนุ่ม ส่วนเท้าของเขาวางอยู่ใกล้ ๆ อกของเธอ
ต่างฝ่ายต่างช่วยกันนวดเท้า
“ตรงนี้ ๆ เส้นตรงนี้อัยย์ดูคลิปมา กดและนวดตรงนี้จะช่วยเรื่องกระเพาะอาหาร ตรงนี้ช่วยเรื่องลำไส้” อัยรินทร์กดจุดตรงฝ่าเท้าไปด้วยและบอกเขาไปด้วย
“กดแล้วรู้สึกสบายขึ้นจริงนะ” อาชวินชมคนช่างคิด ถึงอัยรินทร์จะยังอายุน้อย แต่มีความเป็นผู้ใหญ่ในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องดูแลเขา เธอทั้งทำอาหารเก่ง เอาใจเก่ง และขยันดูแลเอาใจใส่เขาในทุกเรื่อง
“พี่อาร์ตชอบใช่ไหมคะ” เธอยิ้มตาหยีให้เขา
“ที่เป็นข่าวอยู่ จะให้พี่จัดการอย่างไร” คำว่า จัดการ ของเขาฟังแล้วหัวใจเธอกระตุกทันที รู้ว่าจุดจบของพวกนั้นจะเป็นอย่างไร แต่เพราะไม่อยากให้เขาต้องลงไปเกลือกกลั้วกับคนพวกนั้น อัยรินทร์เลยอยากปล่อยผ่าน
“อย่าสนใจเลยค่ะ เดี๋ยวคนก็ลืม” เมื่อเราไม่สนใจ เธอเชื่อว่าเดี๋ยวคนก็ลืม แต่เธอคงประมาทไปหน่อย เมื่อคนที่มหาวิทยาลัยเป็นพวกลืมยาก เช้าวันต่อมาข่าวยิ่งเล่นแรงกว่าเดิม
เมื่อมีคนปล่อยข่าวว่าเธอเป็นเด็กเสี่ยบ้างละ
รับงานเอนต์บ้างละ
“ว่ายังไง น้องรับงานไหมคะ เย็นนี้มีคิวไหม” เสียงของรุ่นพี่ที่อยากสนิทชิดเชื้อพูดขึ้น เมื่อหล่อนกล้ามาหาเรื่องถึงหน้าคณะของอัยรินทร์
“เพิ่งรู้นะว่าเงินที่โกงไปไม่พอ จนต้องเป็นแม่เล้าเหรอ” อัยรินทร์กระแทกแก้วน้ำในมือลงกับโต๊ะ ดีที่แก้วรูปหน้าผู้หญิงสีเขียวเข้มนี้ทำจากเหล็กอย่างดี เลยไม่บุบสลาย
“อีอัยย์ มึงว่ากูเหรอ”
“อ้าวป้า เห็นอยู่ว่าป้ามาหาเรื่อง” จีจี้ลุกขึ้นมากันเพื่อนกับยายป้ามหาภัยรุ่นพี่ปีสาม สายป่านได้ยินเด็กปีหนึ่งเรียกป้าแล้วอยากจะร้องกรี๊ด แต่ก็อายคนที่อยู่แถวนี้
“สายป่าน ทางที่ดีเธออยู่ห่าง ๆ อย่าหาเรื่องฉันดีกว่า เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด” อัยรินทร์บอกกับฝ่ายนั้นเสียงเรียบ ถ้าฉลาดก็น่าจะรู้จักคิดบ้าง ไม่ใช่ทำตัวเหมือนนางร้ายข้างถนนแบบนี้
แต่ก็นั่นแหละ คนเป็นบัวหลายเหล่า และสายป่านคงเป็นเหล่าที่อยู่ใต้ตม
“ทำไม มึงอายเหรอ อายก็ไม่ควรทำ”
“ไม่ได้อาย รถที่นั่งของแฟนฉัน” อัยรินทร์บอกความจริงออกไปเพราะไม่อยากให้มีเรื่องซุบซิบนั่นอีก
เสียงหัวเราะของสายป่านบ่งบอกว่าเธอตลกขบขันกับสิ่งที่อัยรินทร์บอก แฟนอย่างนั้นเหรอ รถหรูราคาหลายสิบล้านวนเวียนมารับตลอดสัปดาห์ ต้องรวยระดับไหนถึงจะมีรถมากมายขนาดนั้น
และคนรวยระดับนั้นเขาจะมาเอาอีเด็กไร้ญาติแบบนังนี่เหรอ ยิ่งฟังที่นังเด็กแก่แดดนี่พูด เธอยิ่งอยากรู้ว่าถ้าต้อนมันจนมุม มันจะอายแค่ไหน
“แฟน หรือคู่ขา ใครจะรวยขนาดมีรถหลายคันอย่างนั้น มึงอย่ามาตอแหล อีอัยย์”
“อ้าว! อีนี่ นั่นปากเหรอ” วาดเมษาที่ทนฟังไม่ได้ถึงกับเข้าไปผลักไหล่รุ่นพี่
“น้อง นี่รุ่นพี่นะ” เพื่อนของสายป่านประคองเพื่อน ท่าทางพร้อมจะหาเรื่องกลุ่มของอัยรินทร์อย่างจงใจ
“ถ้ารุ่นพี่แม่งไม่ได้เรื่องแบบนี้ อย่ามีเลยดีกว่า อีกอย่างเราอยู่คนละคณะ มาหาถึงนี่เรียกว่ามาหาเรื่องถึงที่เถอะค่ะ” นิชาที่ปกติจะพูดน้อย แต่เพราะวันนี้คงเหลืออดเต็มที ถึงจะตัวเล็ก แต่หัวใจมันก็ยอมไม่ได้
“เอาจริง ๆ นะ ถึงใครเขาจะขายไม่ขาย ก็ไม่ได้เกี่ยวกับป้าเปล่า หรือว่าป้ากลัวโดนแย่งอาชีพ”
“อีกะเทยควาย!” เสียงของสายป่านดังจนคนแถวนี้เริ่มหันมามอง
“อ้าว อีป้านี่ กะเทยแล้วไง ขอแม่ตบอีป้าปากเสียสักหน่อยดีไหม” จีจี้ที่ได้เปรียบเรื่องรูปร่างปรี่เข้าไปหา นังป้ามหาภัยไม่สวยแล้วยังปากหมา
อัยรินทร์กลัวว่าเรื่องราวจะไปกันใหญ่ เธอรีบดึงเพื่อนไว้
“อย่าห้าม อีอัยย์”
“อย่าจีจี้ มึงเพิ่งทำเล็บมา เล็บแพง” คำพูดเตือนสติของเพื่อนทำให้จีจี้มองเล็บสีสวยบนนิ้วมือตัวเอง ใช่ เธอเพิ่งไปทำเล็บมาจากร้านดัง ถ้าตบอีป้าผีบ้านี่ รับรองเล็บเธอพังแน่ เพราะความหน้าหนาของคู่กรณี
“นี่! สายป่าน ต่างคนต่างอยู่ ไว้เจอกันที่ศาลพอ” ศาลที่อัยรินทร์หมายถึงไม่ใช่ศาลพระภูมิ แต่เป็นศาลตุลาการ เรื่องราวการเสียชีวิตของพ่อแม่และพี่ชายของเธอถูกอาชวินและพ่อของเขาสืบค้นถึงเบื้องลึก
เรื่องของเรื่องเพราะความผิดปกติจากการตายของพีรพล ผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งคือธีรกิต พ่อของสายป่าน