2 | DENIS - ต้นเรื่อง

1641 คำ
2 [DENIS] ต้นเรื่อง เดมี่หยิบมือถือออกมาเล่น เธอง่วนพิมพ์เร็วๆอยู่คนเดียว ฉันฟังเสียงแป้นพิมพ์และเสียงถอนหายใจของเธอก็รู้แล้ว ตอนนี้คงกำลังฟ้องใครสักคนอยู่ ไม่คุณพ่อ ก็คุณแม่ หรืออาจจะเป็นคุณปู่คนที่สปอยล์เธอสุดๆ แต่ฉันไม่สนใจหรอก จะใครก็เข้ามาได้เลย เพราะฉันทำในสิ่งที่ถูกต้อง และเป็นสิ่งที่พี่ควรจะทำเพื่อปกป้องน้อง ••• -ตึกไลออน- "เดนิสไม่ควรมีเรื่องในที่สาธารณะ" ใช่... เธอฟ้องคุณพ่อ และตอนนี้ท่านก็ขึ้นมาถึงห้องเพนท์เฮาส์เพื่อตักเตือนฉัน "หนูรู้ดีค่ะว่าไม่ควร แต่คุณพ่อต้องสอนลูกสาวคนเล็กของคุณพ่อให้หยุดทำตัวทดสอบชีวิตสักที" เดมี่เกาะแขนคุณพ่อและเดินไปแอบอยู่ด้านหลัง เธอโผล่แค่ตาออกมาให้ฉันเห็นเท่านั้น "เดมี่แค่อยากลองทำอะไรใหม่ๆบ้าง เดมี่อยากมีชีวิตของตัวเอง" "ถ้างั้นก็ให้บอดี้การ์ดติดตาม" ฉันเอ่ยอย่างเด็ดขาด จนยัยเด็กนั่นทำตาโต "นะ นั่น... ไม่ต่างอะไรกับขังคุกนะคะเจเจ้" ฉันตวัดตามองน้องสาวด้วยสายตาราบเรียบ พูดไม่ฟัง เตือนไม่จำ ถ้าไม่ใช่น้องสาวฉัน ฉันจับโยนลงจากตึกไปแล้ว "เอาล่ะ หยุดทะเลาะกัน ต่อไปนี้เดมี่ต้องให้บอดี้การ์ดติดตาม ส่วนเดนิสต้องมีความอดทนมากกว่านี้" ฉันก้มคำนับเล็กน้อยรับฟังคำเตือนของคุณพ่อ แต่เดมี่หน้างอ และที่สำคัญรีบหันหลังเดินเข้าห้องทันที ซึ่งนั่นทำให้คุณพ่อนวดหว่างคิ้วกลุ้มใจ ท่านคงเหนื่อยที่รีบมาเคลียร์ปัญหาให้ เพราะไม่ได้อยู่ที่นี่ พอฉันโตช่วยเหลือตัวเองได้ก็ออกไปสร้างบ้านอยู่กับคุณแม่ข้างนอก ยกเพนท์เฮาส์ให้ฉันกับเดมี่อยู่ด้วยกัน "เดนิสพ่อมีอะไรจะคุยกับลูก" "ได้ค่ะคุณพ่อ" ฉันเดินไปนั่งที่โซฟาแล้วรินวิสกี้ให้ท่าน จากนั้นรินให้ตัวเอง มือใหญ่ของเจ้าพ่อมาเฟียคลึงวิสกี้กับก้อนน้ำแข็งช้าๆ ขณะที่สายตาจ้องมองไปที่ของเหลวสีชาราวกับใช้ความคิด "คุณพ่อมีธุระอะไรจะคุยกับหนูคะ" ฉันเข้าเรื่อง "พ่อจะพาแม่ไปอยู่ที่จันทบุรีสักสองเดือน" คุณแม่เป็นคนจังหวัดจันทบุรี ท่านจะกลับไปเยี่ยมคุณยายบ่อยแทบจะทุกเดือนอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ฉันแปลกใจทำไมไปอยู่ตั้งสองเดือน "ที่จันทบุรีมีอะไรรึเปล่าคะ" "ยายของลูกไม่ค่อยสบาย ไม่ได้ป่วยเป็นโรคร้ายแรงแต่แม่เราไม่สบายใจอยากไปดูแลด้วยตัวเอง ซึ่งพ่อไม่อยากขัดใจ ไม่อยากให้แม่คิดมาก ก็เลยจะไปอยู่ที่นั่นจนกว่าคุณยายจะหายดี" เข้าใจแล้ว... "ไปเถอะค่ะ คุณพ่อไม่ต้องห่วงทางนี้ หนูจัดการได้" "ตอนแรกพ่อก็คิดแบบนั้น แต่วันนี้ลูกกับเดมี่มีปัญหากัน ถ้าพ่อไม่อยู่จะไม่มีปัญหากันอีกใช่ไหม?" ฉันยิ้มที่มุมปากแล้วยกวิสกี้ออนเดอะร็อคดื่ม เรื่องฉันกับเดมี่ถือเป็นเรื่องปกติ ถ้าขืนเธอยังไม่ฟังฉันต้องบังคับเธอเหมือนวันนี้อยู่แล้ว "สบายมากค่ะ แค่เดมี่หนูคุมได้" "ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี พ่อจะได้สบายใจ" หลังจากนั้นฉันก็นั่งดื่มกับคุณพ่อคุยเรื่องธุรกิจที่กำลังรับผิดชอบอยู่ กลุ่มไลออนเป็นมาเฟียที่รักความถูกต้อง สายขาว ทำแค่ธุรกิจถูกกฎหมายเท่านั้น เราทำโลจิสติกส์ และทำอสังหาริมทรัพย์ซื้อตึกปล่อยเช่า ทำโครงการบ้าน นอกจากนั้นยังมีธุรกิจร้านอาหารของคุณพ่อคุณแม่หลายสาขา รวมถึงการศึกษาอย่างมหาวิทยาลัย LDZ ที่เดมี่กำลังเรียนอยู่ด้วย คุณพ่อมีน้องอีกสองคน นอกจากท่านจะเป็นคนโต ยังมีอาแทนขวัญที่ไปแต่งงานกับมาเฟียดรากอนที่ตอนนี้เป็นพันธมิตรกันอยู่ ส่วนอาแทนทิวคนเล็กสุดนอกจากจะเอาดีเรื่องธุรกิจรถนำเข้ายักษ์ใหญ่ ยังให้ลูกชายคนโตอย่างเท็กซัสมาช่วยฉันบริหารไลออนด้วย จริงๆญาติฉันเยอะกว่านี้ ให้พูดถึงคงสิบหน้ากระดาษ 'ก๊อก ก๊อก ก๊อก' "คุณเดมี่คะ ออกมาทานมื้อค่ำได้แล้วค่ะ" 'ก๊อก ก๊อก ก๊อก' "คุณเดมี่ คุณเดนิสรอแล้วนะคะ" ฉันหยิบส้อมกับช้อนขึ้นมาแล้วมองไปที่แม่บ้านที่เคาะประตูห้องเดมี่อยู่ "ไม่ต้องเรียก อยากอดให้อดไป" "แต่ว่า..." "ไม่ฟังที่ฉันพูดรึไง?" "ค่ะๆ" แม่บ้านก้มหน้าลงทันที ก่อนที่จะรีบถอยออกไปห่างๆจากประตูห้องเดมี่ การอดข้าวประท้วงไม่ใช่ครั้งแรก ฉันล่ะเบื่อยัยเด็กนี่จริงๆ เอาแต่ใจชะมัด ถ้าเป็นลูกฉันนะจะตีให้ตายคามือ ••• ช่วงบ่ายวันต่อมา... "เรือเข้าท่าแล้วครับคุณเดนิส ตอนนี้กำลังเช็คความเรียบร้อยก่อนนำส่งลูกค้าครับ" ฉันรับเอกสารจากมือขวามาดู "ไม่เจออะไรผิดปกติใช่ไหม" "ไม่มีครับ และไม่เจอยาเสพติดที่ซุกซ่อนเข้ามา ทางเราใช้สุนัขดมกลิ่นดมสำรวจทุกพื้นที่แล้วครับ" ฉันพยักหน้าแล้วอ่านเอกสารอย่างละเอียด เรื่องนี้พลาดไม่ได้ ถึงฉันจะเป็นมาเฟียที่ทำธุรกิจถูกกฎหมาย แต่บางครั้งความสำเร็จก็ชอบไปขัดขาคนอื่น เรื่องของผิดกฎหมายจึงต้องระวังเป็นพิเศษ พวกไม่หวังดีอาจจะนำมาซุกไว้และแจ้งตำรวจตรวจค้นเมื่อไหร่ก็ได้ "นอกจากตู้คอนเทนเนอร์ ให้สุนัขดมกลิ่นลงไปใต้ท้องเรือ เช็คห้องพักคนงาน ห้องน้ำอย่างละเอียด และต่อไปนี้ต้องมีขั้นตอนนี้ทุกครั้งที่เรือเข้า" "เอ่อ... ผะ ผมเกรงว่าจะทำให้เรือที่รอเข้าท่าเกิดการล่าช้าครับ" ฉันมองหน้ามือขวาตัวเองทันที "ช้ากับชัวร์ควรเลือกอะไร? ฉันต้องการให้ทุกคนรอบคอบที่สุด นี่คือคำสั่ง" "ครับคุณเดนิส" ฉันไม่เซ็นเอกสารส่งคืนให้มือขวา เพราะต้องการออกไปกำชับที่ท่าเรือด้วยตัวเอง จึงหยิบปืนในลิ้นชักออกมาเช็คกระสุนแล้วซ่อนเก็บไว้ที่สายรัดตรงขาอ่อนเหมือนเคย ก่อนจะเดินนำออกไปจากห้องทำงานไปที่ลิฟต์ "เดมี่ออกไปเรียนรึยัง" ฉันถามระหว่างที่ลิฟต์เคลื่อนลง "ออกไปตั้งแต่เช้าตรู่แล้วครับ มีบอดี้การ์ดติดตามสองคนครับ" "ดี บอกบอดี้การ์ดเว้นระยะห่างด้วย เดี๋ยวอึดอัดแล้วมาโวยวายอีก" "ได้ครับคุณเดนิส" 'ติ๊ง~' ลิฟต์เปิดที่ชั้นหนึ่ง แต่เมื่อฉันก้าวออกไปก็เห็นเดมี่อยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งที่ใส่ชุดนักศึกษาเหมือนกัน แต่การแต่งตัวแตกต่างกับน้องสาวฉัน กระโปรงทรงเอสั้นเสมอหู ผมสีฉูดฉาด ริมฝีปากทาลิปสติกสีแดงแต่งหน้าจัดจ้าน ฉันไม่ตัดสินคนที่ภายนอก เดินไปหาน้องสาวตัวเองที่ทำหน้างออยู่ "ทำไมวันนี้กลับมาเร็ว" ฉันถาม "ก็เดมี่โดนสั่งห้ามไม่ให้ทำอะไรตามอำเภอใจนี่คะ" "แล้วนี่ใคร?" ผู้หญิงคนนั้นยกมือไหว้ฉันแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ "สวัสดีค่ะหนูชื่ออ้อแอ้ เป็นเพื่อนเดมี่ค่ะ" เพื่อน? นี่น้องสาวฉันคบเพื่อนที่แซ่บขนาดนี้เลยเหรอ "เจเจ้วันนี้มีงานเลี้ยงสายรหัส หนูขอไปงานเลี้ยงนะคะ เจเจ้จะให้บอดี้การ์ดทั้งไลออนตามติดก็ได้" "จะไปเมื่อไหร่ กลับตอนไหน?" "ไปหนึ่งทุ่มกลับไม่เกินสี่ทุ่มค่ะ แต่เป็นที่ผับนะคะ" ฉันหันไปพยักหน้ากับมือขวาของตัวเอง ซึ่งแค่นั้นมือขวาของฉันก็กดที่หลังใบหูเตรียมบอดี้การ์ดชุดใหญ่ทันที "ฉันไม่ห้าม แต่บอดี้การ์ดต้องตามคุ้มกันทุกมุมผับ" เดมี่จับกระโปรงพลีทของเธอและถอนสายบัวอย่างประชดประชัน "ขอบพระคุณค่ะคุณพี่สาว" ฉันไม่ตอบอะไรเดินออกไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ แต่เมื่อบอดี้การ์ดปิดประตูรถ ฉันหยุดมองน้องสาวกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เลย ผู้หญิงคนนั้นดูสอดรู้หันมองรอบๆล็อบบี้ แถมเห็นบอดี้การ์ดเดินผ่านยังปัดผมเผ้าตัวเองหว่านเสน่ห์ยั่วยวน "ธณิน" ฉันเรียกมือขวาที่นั่งอยู่ที่เบาะหน้า "ครับคุณเดนิส" "สืบประวัติผู้หญิงที่มากับเดมี่ให้ฉัน" "ได้ครับ ผมขอเวลาสามสิบนาทีแล้วคุณเดนิสจะรู้ทุกอย่าง" รถเคลื่อนออกจากตึกไลออนระหว่างที่มือขวาจัดการสืบเรื่องผู้หญิงคนนั้นไปด้วย หวังว่าเดมี่จะไม่หาเรื่องมาให้ฉันปวดหัวอีกนะ ความสดใสไร้เดียงสาที่ไม่ทันคนของเธอ ต่อให้เป็นทายาทมาเฟียก็เถอะ ยังไงก็อันตรายอยู่ดี ฉันกลัวว่าใครจะมาหาผลประโยชน์จากน้องฉัน และเธอก็กางแขนปกป้องเต็มที่ ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันนี่แหละจะฝังมันด้วยมือฉันเอง ••• -TT LOGISTIC- "เรือเข้าท่าเยอะและของเต็มทุกรอบเลยครับคุณเดนิส เพราะตอนนี้มีนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นมาลงทุนในไทย" ฉันหันมองตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกยกขึ้นจากเรือ "ทั้งหมดนี้เป็นของนักธุรกิจญี่ปุ่นกี่คน?" "คนเดียวครับ แถมมีเรืออีกสามลำกำลังเข้าท่าด้วย เอ่อ... ผะ ผมได้ข่าวว่าเป็นยากูซ่าครับคุณเดนิส" คิ้วฉันขมวดชนกัน ยากูซ่า? ให้ตาย... ขึ้นชื่อว่ายากูซ่าฉันมองไม่เห็นเรื่องดีเลย เพราะคนพวกนี้ทำธุรกิจมืดกันทุกกลุ่ม เก็บส่วย คลับบาร์ เงินกู้ โสเภณี เข้ามาทำธุรกิจในไทยจะพ้นเรื่องพวกนี้ไปได้เหรอ?
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม