ตอนที่ 8 อยากง้อ

1317 คำ
"หายหัวไปไหนมา" "รู้สึกว่าช่วงนี้คุณพ่อจะสนใจเซียเป็นพิเศษเลยนะคะ" เข้ามาในบ้านก็เจอครอบครัวแสนอบอุ่น มีพ่อแม่ลูกอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เฟลิเซียเห็นภาพนี้บ่อยจนชินชา กำลังเดินผ่านเหมือนคนพวกนี้เป็นแค่ธาตุอากาศ แต่ก็ต้องหยุดหันมาสนใจเสียงค่อนแคะจากบิดาบังเกิดเกล้า "ถ้าไม่อยากให้ฉันสนใจแกก็โอนหุ้นให้ฉันสักทีสิ แล้วหลังจากนั้นแกจะไปไหนก็ไป ฉ้นจะไม่นุ่ "เซียกินข้าวนะคะ ไม่ได้กินหญ้า" เฟลิเซียกลอกตามองบน ตั้งแต่บรรลุนิติภาวะพ่อก็คะยั้นคะยอให้เธอโอนหุ้นให้ทุกวี่ทุกวัน "พูดดีๆ กับคุณพ่อหน่อยสิคะคุณเซีย" กลิ่นเกสรเอ่ย "อย่าเสือก!" "เฟลิเซีย!" "เซียรู้ค่ะตัวเองชื่ออะไรคุณพ่อไม่ต้องย้ำ" "นี่ฉันเป็นพ่อแกนะ" องอาจกำหมัดแน่นอย่างเหลืออด "อันนี้เซียก็รู้เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ เซียเหนื่อยอยากพัก" พูดเองเออเองแล้วรีบเดินขึ้นบันไดมา ได้ยินเสียงองอาจตะโกนด่าตามหลังแว่วๆ แต่เฟลิเซียก็ไม่ได้สนใจ เธอยอมไม่ได้หรอกถ้าต้องโอนหุ้นมูลค่ามหาศาลเพื่อให้พ่อไปเสวยสุขกับผู้หญิงกับที่ทำให้แม่เมลานีของเธอต้องตรอมใจตาย ทุกวันนี้กลิ่นเกสรก็ผลาญเงินเดือนพ่อเธอจากตำแหน่งประธานบริษัท NT Group ไม่ใช่น้อยๆ เพราะติดหรู ชอบออกงานสังคมประโคมแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจดเท้า "ไว้พ่อเลิกกับเขาได้เมื่อไหร่เซียจะคิดดูอีกทีก็แล้วกัน" ร่างบางพึมพำออกมา ระหว่างที่นอนแช่น้ำอุ่นในอ่างจากุซซี่ ก่อนปัดเป่าเรื่องพ่อออกจากสมอง แล้วคิดหาวิธีว่าจะทำยังไงให้ชาร์ลหายโกรธ มาคิดๆ ดูแล้วเธอก็งี่เง่าเอาแต่ใจอย่างที่เขาด่าจริงๆ นั่นแหละ ฮืออ~ แล้วพี่ชาร์ลก็เป็นคนหายโกรธยากซะด้วยสิ แล้วจะง้อเขายังไงดีล่ะทีนี้ คิดจนปวดหัวก็คิดไม่ออก เฟลิเซียเลยตัดสินใจปิดไฟนอน "ไว้ค่อยไปปรึกษากับปริมพรุ่งนี้ก็แล้วกัน" เช้าวันต่อมา @มหาวิทยาลัย มาถึงก็เล่าปัญหาหัวใจให้เพื่อนรักทั้งสองฟัง เฟลิเซียสนิทกับวาริสาและเปมิกามาตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง จนตอนนี้พวกเธอก็ขึ้นปีสี่กันแล้ว "ไม่เห็นต้องกลุ้มเลยเรื่องแค่นี้เอง" วาริสาเอ่ยหลังเฟลิเซียเล่าจบ "เรื่องแค่นี้ตรงไหน พี่ชาร์ลง้อยากจะตายไป" "เอ๊ะ ฉันบอกไม่ยากก็ไม่ยากสิ" "พี่ชาร์ลไม่ใช่พี่เวย์นะน้ำหวาน เผื่อแกลืม" เวย์เป็นแฟนของน้ำหวานเรียนอยู่คณะบริหารธุรกิจปีสี่เหมือนกันกับพวกเธอ ส่วนแฟนของปริมเป็นรุ่นพี่คณะวิศวะเรียนจบไปแล้วแต่ก็ยังคบกันอยู่ เวลามีปัญหากับชาร์ล เฟลิเซียถึงได้ชอบมาปรึกษากับเพื่อน "ผู้ชายมันก็เหมือนกันหมดนั่นแหละน่า" เปมิกาเอ่ย "จริงเหรอ?" เฟลิเซียทำหน้าไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ "แกจำได้ปะว่าครั้งที่ก่อนฉันก็ทะเลาะพี่กายจนเกือบจะเลิกกัน ก็ได้คำแนะจากยัยน้ำหวานนี่แหละทุกวันนี้ถึงได้กลับมารักกันหวานชื่น เมื่อคืนนี้ฉันก็โดนพี่กายทำประตูมาตั้งสามประตู" เฟลิเซียหน้าแดงนิดๆ ไม่ได้ใสขนาดจะไม่รู้ว่าการทำประตูของเปมิกาหมายถึงอะไร "แล้วฉันต้องทำยังไงพี่ชาร์ลถึงจะหายโกรธ" เฟลิเซียหันมาถามวาริสา "เอาหูมา" แก้มใสแดงขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อวาริสาบอกวิธีง้อเด็ดดวง >///< "มันจะไม่น่าเกลียดไปเกินไปเหรอ" "ถ้าแกอยากให้พี่ชาร์ลของแกหายโกรธ แกก็ต้องทำ" "ก็ได้ ฉันจะลองดู" "ดีมาก" "เอ่อ เซีย" "มีอะไรรึเปล่า" "คือพอดีช่วงนี้พ่อฉันไม่ค่อยสบายน่ะ แกพอจะมีเงินให้ฉันยืมไปสักสามแสนมั้ย" "นี่คุณลุงไม่สบายอีกแล้วเหรอ" "อืม ที่จริงฉันก็ไม่ได้อยากจะรบกวนแกหรอกนะ แต่ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าจะไปยืมจากใครได้" "โอเค เดี๋ยวฉันโอนให้" ว่าแล้วเฟลิเซียก็จัดการโอนเงินเข้าบัญชีวาริสาเดี๋ยวนั้นเลย หมับ! "ขอบใจมากนะแกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลย" "แล้วฉันล่ะ" เปมิกาว่าอย่างน้อยใจเพื่อน "แกก็เหมือนแหละน่า" "งั้นคืนนี้เราออกไปดริ้งกันมั้ย" ตอนแรกเฟลิเซียจะปฏิเสธ ทว่าไอ้วิธีง้อที่วาริสาบอกมามันต้องใช้ความกล้าพอสมควรเธอเลยตอบตกลง แน่นอนว่าสถานที่จะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากผับสุดหรูของชาร์ล หลังเลิกเรียนเฟลิเซียก็แยกกับเพื่อนทั้งสองเพื่อกลับมาอาบน้ำแต่งตัวที่บ้าน กลับมาก็ตรงขึ้นห้องนอนทันที กุกกัก...กุกัก... "เสียงอะไร" ยังไม่ทันได้เปิดประตูเข้าไปก็ได้เสียงเหมือนมีคนกำลังรื้อข้าวของอยู่ภายในห้อง จะว่าเป็นแม่บ้านขึ้นมาทำความสะอาดเวลานี้ก็ไม่น่าใช่ เฟลิเซียไม่รอช้าเปิดประตูเข้าไปทันที "เข้ามาทำอะไร" "นะ...นี่แกกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่" กลิ่นเกสรหน้าซีดที่ถูกจับได้คาหนังคาเขา "ชีวิตนี้เป็นเมียน้อยก็พอแล้วค่ะ อย่าเป็นขโมยเพิ่มอีกเลย เดี๋ยวเวรกรรมมันจะไปตกที่ลูกของคุณ" เฟลิเซียเดินเข้าไปฉวยเอาสร้อยเพชรมรกตเส้นใหญ่ที่เป็นมรดกตกทอดจากมารดามาจากมือของกลิ่นเกสร "ฉันจะฟ้องพ่อแกว่าแกแช่งน้องชายตัวเอง" กลิ่นเกสรให้กำเนิดลูกชายกับองอาจ องอาจที่อยากได้ลูกชายอยู่แล้วจึงรักและหลงลูกชายคนนี้มาก โอ๋ยิ่งกว่าอะไร ถ้ารู้ว่าเฟลิเซียแช่งชักหักกระดูกลูกชายคนโปรด องอาจต้องโกรธมากแน่ๆ "แล้วแต่เลยค่ะ เพราะฉันก็แจ้งตำรวจว่าคุณขโมยของของฉัน แล้วอย่าคิดนะคะว่าพ่อจะช่วยคุณได้" "ทำไมจะไม่ได้ ผัวฉันเป็นถึงประธานบริษัท NT Group" "เพราะฉันมีหุ้นที่พ่อและคุณอยากได้จนตัวสั่นแต่ไม่ได้ไงคะ" เอ่ยพร้อมยิ้มหวาน ต้องขอบคุณแม่ที่เขียนพินัยกรรมมอบทุกอย่างให้ ไม่อย่างนั้นป่านนี้เธอคงไม่ต่างจากหมาข้างถนนตัวหนึ่ง เพราะเสียเวลาปะทะคารมกับแม่เลี้ยง เฟลิเซียจึงมาถึงผับของชาร์ลเป็นคนสุดท้าย "วันนี้พี่ชาร์ลอยู่รึเปล่า" เธอถามลูกน้องเขาก่อนจะเดินเข้าไปหาเปมิกากับวาริสาที่โต๊ะ "อยู่ครับ" เจ้าของใบหน้าหวานพยักรับรู้แล้วเดินไปหาเพื่อนที่โต๊ะ วาริสากับเปมิกาที่กำลังเต้นเลื้อยไปตามจังหวะเพลง พอเห็นว่าเฟลิเซียมาทั้งคู่ก็หยุดเต้น "กว่าจะมาได้นะยะ พวกฉันเต้นจนจะกระดูกหลุดอยู่แล้วเนี่ย" "โทษที พอดีมีปัญหากับแม่เลี้ยงนิดหน่อย" "อยากเล่ามั้ย" "เอาไว้ก่อน ตอนนี้ฉันอยากง้อพี่ชาร์ลมากกว่า" พูดจบเฟลิเซียก็กวักมือเรียกพนักงานมาสั่งเครื่องดื่มที่แรงที่สุด รอประมาณห้านาทีพนักงานก็เอาสิ่งที่เธอต้องการมาเสิร์ฟ เป็นวอดก้าเพียวๆ เฟลิเซียฮึบแล้วยกแก้วกระดกวอดก้าลงลำคอรวดเดียว เฟลิเซียหน้าหยีเพราะรู้สึกร้อนคอเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่เคยดื่มวอดก้ามาก่อน หน้าและลำคอระหงเป็นสีแดงแทบจะทันที สติสัมปชัญญะลดลงไปเล็กน้อย ทว่าความใจกล้าหรือต่อมไร้ยางอายกลับพุ่งพรวด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม