“ก็ได้ค่ะ ฉันจะไปพักก่อน แล้วพรุ่งนี้ฉันจะไปหาลูกแต่เช้า แต่ถ้าหากว่าคืนนี้มีอะไรเกิดขึ้น คุณต้องบอกฉันนะ อย่าปิดบังฉันเด็ดขาด”
“งั้น...ฉันขอเบอร์เธอไว้หน่อยได้มั้ย ฉันจะได้...”
“ไม่จำเป็นค่ะ ในห้องพักก็มีโทรศัพท์ คุณใช้โทรศัพท์ภายในโทรมาก็ได้” บอกแค่นั้นเธอก็เดินไปทางลิฟต์แล้วกลับขึ้นไปพักบนห้องอย่างรวดเร็ว
ธาวินทำได้แค่ส่ายหน้าน้อยๆ เพราะดูเหมือนว่าแม้จะอยู่ในเวลาที่แทบไม่เหลือสติและไร้ซึ่งเรี่ยวแรง แต่เธอก็ยังไม่ยอมหลงกลเขาโดยง่าย แต่ก็ช่างเถอะ อย่างน้อยตอนนี้เขาก็กล่อมให้เธอพาลูกไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลของเขาได้แล้ว ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องทำให้เธอยอมรับในฐานะพ่อของลูกให้ได้
ไม่ว่ามันจะยากเย็นแสนเข็ญยังไงก็ตาม...
หลังจากเขาตามไปดูลูกชายในห้องไอ.ซี.ยู.แล้ว หมอหนุ่มก็ไปพักบนห้องพักแพทย์ที่ภูมิภัทรเตรียมไว้ให้เสมอเวลาที่เขามารับเคสผ่าตัดแทน แต่คืนนี้ความอ่อนเพลียจากการผ่าตัดไม่ได้ช่วยกล่อมให้เขาหลับสนิทได้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะทันทีที่หลับตาภาพความทรงจำในวันวานก็ย้อนเข้ามาให้ได้ระลึกถึง
แม้ว่ามันจะเป็นความทรงจำอันแสนเลวร้ายในชีวิตของเธอ แต่มันกลับเป็นความทรงจำแสนวิเศษที่เขาไม่เคยลืมได้เลยแม้เวลาจะผ่านมานานแค่ไหนก็ตาม
ห้าปีก่อนหน้านี้...
“พี่ธารามีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าครับ ชวนผมมากินข้าวด้วยกันแท้ๆ แต่ทำไมถึงได้เอาแต่นั่งเขี่ยข้าวในจานแบบนี้ล่ะ”
“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ พี่แค่...กำลังคิดว่าพี่ควรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตห่วยๆ นี่ดีน่ะ”
“หมายความว่ายังไงครับ”
ธารากานต์มองหน้าน้องชาย ก่อนจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมาแล้วเปิดไปที่แอปพลิเคชันรูปภาพ ก่อนจะยื่นส่งให้น้องชายของเธอได้ดูพร้อมกับบอกสิ่งที่ทำให้เขาตกใจไม่น้อย
“พี่กรเค้ามีคนอื่น เค้านอกใจพี่น่ะไทม์ ดูเหมือนว่าเค้าจะเลี้ยงเด็กคนนี้มาหลายปีแล้วด้วย ไม่แน่ว่า...อาจจะก่อนที่เราสองคนตกลงแต่งงานกันด้วยซ้ำ” เธอบอกเสียงสั่นก่อนที่น้ำตาหยดหนึ่งจะไหลออกมา ทำให้เธอต้องรีบนำผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาตัวเอง
“อะไรนะครับ”
เขารีบก้มลงดูรูปถ่ายในโทรศัพท์ของพี่สาวก็เห็นเป็นรูปของสิปปกรกับเด็กสาวคนหนึ่งในชุดมัธยมปลายซึ่งดูจากมงกุฎดอกไม้บนศีรษะของผู้หญิงคนนั้นกับช่อดอกไม้ในมือ ก็เดาได้ว่าอาจจะเป็นวันที่เธอจบการศึกษา แถมภาพถ่ายนั้นพวกเขายังยิ้มให้กันแล้วก็เอาแก้มชิดกันอย่างสนิทสนมด้วย
“มีหลายรูปเลยนะ ไทม์เลื่อนดูไปเรื่อยๆ สิ รูปพวกนี้พี่บังเอิญไปเห็นในมือถือของพี่กรตั้งแต่เดือนก่อนน่ะ”
เขาเลื่อนดูรูปถ่ายของพี่เขยกับผู้หญิงคนนั้นไปเรื่อยๆ จนพบว่าโลเคชั่นในภาพส่วนใหญ่เป็นบ้านหลังหนึ่งและเป็นหลังเดิมเสมอ เพียงแต่อาจจะต่างมุมกันไป
“ผมว่า...บางทีพี่อาจจะเข้าใจผิดก็ได้นะครับ แค่รูปพวกนี้มันอาจจะยืนยันอะไรไม่ได้ คนในรูปอาจจะเป็นญาติพี่กรรึเปล่า”
เพราะเห็นว่าพี่สาวกำลังเสียใจมากเขาจึงพยายามปลอบใจ แม้ว่ารูปพวกนี้มันจะชวนให้เข้าใจผิดอยู่ไม่น้อยเลย
“ถ้ามันเป็นแค่รูปพี่ก็คงไม่เจ็บปวดขนาดนี้หรอกไทม์ แต่มันยังมีข้อความในไลน์อีกเยอะแยะเลย ที่บอกว่าพวกเค้าแอบไปหากันแบบลับๆ เป็นข้อความที่อ่านแล้วมันคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้จริงๆ พี่แอบถ่ายรูปข้อความพวกนั้นมาด้วยนะ ไม่เชื่อไทม์ลองดูอ่านดูสิแล้วบอกพี่ทีว่าพี่เข้าใจผิดอยู่รึเปล่า” แล้วเธอก็เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาเพื่อเลื่อนไปยังรูปข้อความจากแชตไลน์ของสามีที่เธอแอบถ่ายเอาไว้
‘เย็นนี้พี่กรจะแวะมาหาหนูมั้ยคะ ไม่เจอกันตั้งสองอาทิตย์แล้วคิดถึงจังเลยค่ะ’
‘เย็นนี้พี่มีนัดกับแฟนน่ะ เอาไว้พรุ่งนี้พี่จะไปหานะ’
‘โอเคค่ะ แฟนเผลอแล้วเจอกันนะ 555’
‘เหงาล่ะสิเรา อดทนหน่อยนะ แต่พี่บอกเรื่องของเราให้ใครรู้ไม่ได้จริงๆ’
‘หนูเข้าใจค่ะ หนูจะอยู่ในที่ของหนูอย่างที่สัญญาไว้ พี่ไม่ต้องห่วงว่าหนูจะทำให้พี่หรือครอบครัวของพี่ลำบากใจนะคะ’
‘ขอบใจนะ เดี๋ยววันเกิดปีนี้พี่จะหาของขวัญไปให้’
‘ไม่ต้องมีของขวัญหรอกค่ะ แค่พี่กรแวะมาอวยพรวันเกิดหนู อยู่กับหนูสักชั่วโมงสองชั่วโมง หนูก็ดีใจแล้ว’
‘งั้นพี่จะหาเค้กกับดอกไม้ไปให้ เราชอบดอกกุหลาบนี่พี่จำได้’
‘รู้ใจหนูที่สุดเลยคนนี้น่ะ รักนะคะ รักพี่กรมากๆ เลย’
‘พี่ก็รักเรา รักมากๆ เหมือนกัน’
นอกจากข้อความนี้ก็เหมือนจะมีข้อความก่อนหน้าที่ทั้งสองคนบอกคิดถึงกัน รวมถึงมีการนัดแนะแอบไปเจอกันอีกหลายครั้งโดยแต่ละข้อความมันชี้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้คือคนในความลับที่สิปปกรจะให้ใครรู้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด หลังจากอ่านข้อความแล้ว ธาวินก็ได้แต่กัดฟันกรอด เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่สาวของเขาถึงได้ปักใจเชื่อขนาดนี้
“นอกจากข้อความพวกนี้ก็ยังมีสลิปโอนเงินอีกเยอะมากที่โอนไปให้คนชื่อสุณิชาทุกเดือนเดือนละเป็นหมื่น บางเดือนก็มียอดหลายหมื่นพี่เดาว่าคงเป็นค่าเทอมของเด็กคนนั้น รู้มั้ยว่า...อาทิตย์ก่อนพี่แอบตามพี่กรไปบ้านหลังนั้นด้วยนะเพราะพี่อยากไปดูให้เห็นกับตาว่าเค้ามีคนอื่นจริงมั้ย หรือเป็นพี่ที่เพ้อเจ้อไปเอง แล้ว...พี่ก็เจอเด็กคนนั้นด้วย พวกเค้าโอบกอดกัน หอมแก้มกันอย่างสนิทสนมแล้วพี่กรก็เข้าไปในบ้านอยู่นานเกือบสองชั่วโมง ตอนที่เค้าจะขึ้นรถกลับเด็กนั่นก็วิ่งเอาเข็มขัดที่เค้าลืมไว้มาให้ ไม่ต้องบอกก็พอจะเดาได้ว่าพี่เค้าทำอะไรถึงต้องถอดเข็มขัดออก ไทม์...หัวใจของพี่น่ะ...หัวใจของพี่มันเจ็บมากเลย พี่ไม่เคยคิดเลยว่าคนดีๆ อย่างพี่กร จะทำแบบนี้กับพี่ได้ ถ้าเค้าไม่รักพี่แล้วทำไมไม่บอกกันตรงๆ ทำไมจะต้องมีคนอื่นลับหลังพี่แบบนี้ด้วย ทำไม...ฮือ...”