“แต่ท่านก็ควรจะบอกข้าก่อน” นางเอ่ยเสียงเย็นออกมาด้วยความไม่พอใจ “หากข้าบอกเจ้า แล้วเจ้าจะยินยอมรึ” เป็นลู่จื้อที่นิ่งเงียบไป หากเขาบอกเรื่องนี้กับนางก่อน นางไม่มีทางยอมอย่างแน่นอน “เช่นนั้น ท่านก็รีบไปเดินลมปราณได้แล้ว จะมานั่งทอดอารมณ์เพื่ออันใด” “เข้าใจแล้วขอรับนายหญิง” ลู่จื้อลุกหนีไปเก็บเกี่ยวผลผลิตและเริ่มเพาะปลูกใหม่อีกครั้ง โจวหรงเฉิงเองก็เดินลงไปในสระบัว ก่อนจะนั่งเดินลมปราณ ผ่านมาได้หลายวันลู่จื้อนางเริ่มจะชินที่เห็นโจวหรงเฉิงอยู่ภายในมิติของนางแล้ว แต่ยังนับว่าเขายังรู้ความหากเมื่อใดที่ลู่เพ่ยและหวังเหอรุ่ยเข้ามาอ่านตำราในมิติ วันนั้นเขาจะไม่เข้ามาด้านใน เรื่องนี้ก็ทำให้ลู่จื้อแปลกใจเช่นกันว่าเขารู้ได้อย่างไร หากลู่จื้อนางรู้ว่าเสี่ยวเฮยกับโจวหรงเฉิงสามารถสื่อสารผ่านจิตกันได้ ตัวนางคงได้ถลกหนังเสี่ยวเฮยออกมาแน่ เมื่อถึงวันสอบจิ้นซื่อ ภายในเมืองหลวงก็ครึกครื้นไม่น้อย ลู่จื้