พริมาเดินเข้ามาภายในห้องพักคอนโดของตัวเองทั้ง ๆ ที่เธอยังคงมึนงงกับคำพูดของชายหนุ่ม จนเธอพยายามคิดถึงคำพูดของคิมหันต์อย่างซ้ำไปซ้ำมาแม้ว่าจะเดินเข้ามาภายในห้องพักของตนเองแล้ว
“อีตาบ้า…. ยัยพริมเอ่ยยัยพริม ทำไมดวงซวยแบบนี้”
พริมาเอ่ยออกมาก่อนทิ้งตัวเองลงนั่งที่โซฟาอย่างไร้ทางให้เลือก
เมื่อคิมหันต์ดันจำเธอได้และมันอาจจะตั้งแต่ตอนที่อยู่มหาวิทยาลัยแล้วเพียงแต่ชายหนุ่มไม่ได้เข้ามาทักทายหญิงสาวเท่านั้น จากเดิมที่พริมาคิดว่าอีกฝ่ายคงจำตัวเองไม่ได้แต่ความจริงแล้วเขาจำได้ยิ่งกว่าจำได้และยังรู้ลึกไปกว่าที่เธอจินตนาการไว้เสียอีก
“แสดงว่าเขารู้แต่แรกแล้วเหรอ ว่าฉันเป็นขุนศึกซู่ซ่า
อีตาบ้านะอีตาบ้า” พริมาในตอนนี้ทั้งเขินทั้งอายในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เพียงแค่เรื่องบนเตียงที่เกิดขึ้นครั้งก่อน แต่มันเป็นเรื่องที่อีกฝ่ายรู้ตัวตนของหญิงสาวอีกด้วย
“ช่างเถอะ เดี๋ยวค่อยคิดแล้วกัน” พริมาลุกเดินเข้าห้องนอน หลังจากที่คิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นมาได้สักพักแล้ว
ทางด้านของคิมหันต์ เขาเห็นพริมาตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว แต่เพียงขาไม่ได้เข้าไปทักทายเธอ ทั้ง ๆ ที่ใจเขาอยากจะเข้าไปทำความรู้จักเธออย่างเป็นทางการแทบจะอดทนไม่ไหว คิมหันต์ไม่รู้ว่าที่พริมาหายไป เธอหายไปไหนมา และเขาอยากจะเข้าไปถามตรง ๆ ซึ่งเขาก็ไม่สามารถจะทำได้ นอกจากดักรอดูเธอ
และเหตุการณ์ที่ชายหนุ่มมายืนรอขึ้นลิฟต์ก่อนพริมามันไม่ได้เกิดจาดเหตุการณ์บังเอิญเพราะเขาจงใจรอเธอนั่นเอง
“คนสวยขา เธอยังเด็กเบบี๋ทำเป็นคิดอยากจะเล่นกับเสือ” คิมหันต์นั่งลงที่โซฟาพร้อมคิดถึงรสรักของเขากับพริมา จนเขาอยากจะลิ้มลองมันอีกสักครั้ง
“ว่าไงคิม”
“พี่ครีม พี่จำลูกค้าที่พี่ให้ผมไปรับแทนได้ไหมครับ” คิมหันต์กดโทรศัพท์หาพี่สาวของตัวเองทันที เมื่อนึกถึงเรื่องของพริมาแล้ว คิมหันต์อดกังวลใจม่ได้ว่าหญิงสาวจะกลับไปที่บาร์โฮสต์ของพี่สาว
“จำได้ มีอะไรเหรอ หรือมีปัญหาอะไรกัน” ครีมเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลใจ
“เปล่า ผมจะบอกว่าถ้าเธอกลับไปที่บาร์พี่อีก พี่โทรตามผมเลยนะ” คำพูดของคิมหันต์ทำให้พี่สาวอย่างครีมอดคิดไม่ได้ว่าระหว่างทั้งสองคนต้องมีอะไรแน่ ๆ
“มีอะไรกันหรือเปล่าเนี่ย” น้ำเสียงที่แสดงออกมาถึงความอยากรู้อยากเห็นของครีมได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน
“เปล่าครับ ผมล็อกคนนี้เอาไว้แล้ว ถ้าเธอไปอีกผมจะไปตามกลับ” คิมหันต์พูกจบก็ตัดสายพี่สาวทิ้งทันทีอย่างไม่รอให้อีกฝ่ายถามอะไรเขาอีก
“คนสวยขาหยุดมาอยู่ในความคิดพี่ได้แล้ว เธอลงนะหน้าทองหรือไงกัน” คิมหันต์ถอนหายใจออกมาพร้อมพยายามสลัดความคิดของตัวเองที่มีเกี่ยวกับพริมา แต่เหมือนมันจะไม่ได้ทำให้เขาหยุดนึกภาพของหญิงสาว ยิ่งคิมหันต์คิดถึงพริมาตอนอยู่ในนิยายที่เธอเขียน ความคิดของชายหนุ่มยิ่งเตลิดไปไกลมากกว่าเดิม
ภายในห้อง 2453
พริมาทิ้งตัวเองลงนอนไปกับเตียงนอนพร้อมในมือของเธอถือปากกาและสมุดอยู่ พริมาจรดปากกาลงบนสมุด พร้อมทั้งในหัวของเธอยังคงคิดถึงเรื่องราวบนเตียงของเธอกับคิมหันต์อยู่
“แตกไปตั้ง 5 รอบทำไมถึงมีท่าถึง 7 ท่าได้ล่ะเนี่ย คนบ้าอะไรกินจุขนาดนั้น” พริมาเขียนท่าที่คิมหันได้ใช้กับเธอเอาไว้เพื่อที่จะไม่ให้ลืม แต่เหมือนว่าท่าที่เธอเขียนเอาไว้เป็นท่าทางที่เธอได้เขียนลงไปในนิยายของเธอแล้วทั้งหมด
“อีตาบ้า อ่านทุกเรื่องเลยไหมเนี่ย” พริมาได้เอ่ยต่อว่าคิมหันต์ออกมาอย่างหงุดหงิดเพราะการหาประสบการณ์ของเธอครั้งนี้แทบไม่ได้ท่าทางใหม่อะไรกลับมาเลย ด้วยที่คิมหันต์เล่นใช้บทรักของเธอที่มีในนิยายทั้งหมด แต่สิ่งที่ยอมรับเต็มปากคือความรู้สึกเสียวซ่านที่รับรู้ได้เองแบบไม่ต้องจินตนาการนั่นเอง แม้กระทั่งตอนนี้ที่นึกถึงเธอยังรู้สึกเสียววาบในท้องน้อยอย่างกับมีผีเสิ้อมาบินในท้อง
“เอาไงดีพริม คราวนี้จะเขียนงานต่อยังไงเนี่ย” พริมาเอ่ยถามตัวเองอย่างไร้หนทาง และวันนี้เธอคงยังไม่ได้ลงงานเหมือนเดิม เพราะเธอยังคิดไม่ออกว่าจะต่องานยังไงไม่ให้มันซ้ำ
“เอาน่า...มันก็ต้องมีซ้ำท่ากันได้นั่นแหละ”
พริมาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอ่านคอมเมนต์ที่ส่งเข้ามา เพื่อให้เธอมาลงตอนต่อใหม่พร้อมทั้งเรียกหาอีบุ๊ค ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้พริมาจะลง *****คไปแล้ว แต่เรื่องนี้เธอไม่รู้ว่าจะเขียนยังไงดี ดันอยากลองเปิดเรื่องไปลงตอนไปทั้งที่ไม่เคยทำ
“คนอ่านก็รอ คนเขียนใจจะขาดแล้วค่ะ” พริมาพูดอย่างประชดก่อนทิ้งโทรศัพท์และเดินเข้าไปภายในห้องน้ำ
หญิงสาวใช้เวลาในการอาบน้ำเพียงไม่นานมากนัก เพราะเสียงเคาะประตูห้องพักของเธอมันดังออกมาอย่างต่อเนื่อง เธอแนบสายตามองผ่านรูประตูพอรู้ว่าเป็นใครจึงใจกล้าเปิดประตู
“มีอะไรคะ” พริมากระชับเสื้อคลุมของตัวเองเข้าหากันเล็กน้อยพร้อมเอ่ยถามด้วยท่าทีประหม่า เมื่อเห็นว่าคนที่มาเคาะประตูห้องเธอเป็นคิมหันต์
“พอดีห้องผมก๊อกน้ำเสีย จะขอรบกวนอาบน้ำที่ห้องคุณหน่อยได้ไหมครับ”
“ยังไม่ได้ตามช่างมาซ้อมเหรอคะ” พริมาถามเพราะ
การที่ชายหนุ่มตามช่างมันคงง่ายกว่าการที่เขามาขอเธออาบน้ำแบบนี้
“ตามแล้วครับ แต่มันดึกมากแล้วครับเขาจะมาให้ผมพรุ่งนี้ครับ” คิมหันต์ที่เตรียมตัวเองมาดีพอสมควรตอบออกมา เขารู้ว่าพริมาต้องตอบปฏิเสธเขาแน่นอน
“เอ่อคือว่า”
“ถ้าผมรบกวนไปก็ขอโทษด้วยนะครับ” คิมหันต์พูดจบก็เตรียมตัวเดินกลับห้องตัวเอง
“ไม่ค่ะ ไม่ได้รบกวน” พริมาเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ ยังไงเสียเธอก็พอจะรู้จักกับคิมหันต์ และที่เธอจะยินยอมให้เข้าห้องตามคำขอร้องนั้น เธอเองก็มีเรื่องที่อยากจะคุยและเคลียร์กับเขาด้วยเช่นกัน
“ครับ ขอบคุณมากเลยนะครับ งั้นเดี๋ยวรอผมสักครู่นะครับ” คิมหันต์เดินกลับเข้าไปภายในห้องของเขาเพื่อหยิบของ
และเมื่อพริมาเห็นแบบนั้นเธอก็เลือกที่จะปิดประตูห้องพักลงก่อน พอชายหนุ่มเคาะประตูอีกครั้งเธอจึงค่อยเปิดให้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูที่ดังออกมาอีกครั้งได้เรียกความสนใจของร่างบางให้หันกลับมาเปิดประตูอีกครั้ง
“ขอโทษที่รบกวนอีกครั้งนะครับ” คิมหันต์เอ่ยออกมาก่อนเดินเข้ามาภายในห้องพักของพริมา
ชายหนุ่มอดที่จะมองสำรวจภายในห้องอย่างให้ความสนใจไม่ได้ การตกแต่งห้องที่เรียบแต่หรูของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มชอบใจไม่น้อย และดูเหมือนเธอจะไม่มีใครอยู่ด้วยอย่างที่ชายหนุ่มคิดเอาไว้
“ห้องน้ำอยู่ที่ห้องนอนของพริมค่ะ”
“ครับ ว่าแต่พริมไม่แต่งตัวก่อนเหรอ” คิมหันต์พูดพร้อมมองหญิงสาว ทำให้เธอได้มองสำรวจตัวเองเล็กน้อย
“อ๋อจริงด้วย งั้นรอสักครู่นะคะ” พริมาพูดจบก็เดินเข้าไปภายในห้องนอนของตัวเองทันที ทำให้ร่างหนาได้มองตามเธอด้วยรอยยิ้ม
“คนสวยขา เธอเนี่ยมันน่ารักจริงๆ เลย” คิมหันต์ละสายตาจากร่างบางก่อนจะให้ความสนใจกับห้องพักของพริมา แม้ว่ามันจะเป็นเพียงโซนรับรองเท่านั้น แต่คิมหันต์พอจะเดาออกมาว่าภายในห้องพักของร่างบางคงมีการตกแต่งไม่ต่างจากด้านนอก
“คุณ….เข้าไปอาบน้ำได้แล้ว” พริมาที่อยู่ในชุดกางเกง ขาสั้น เสื้อยืดเอ่ยเรียกคนตัวโตที่ตอนนี้จับจ้องมองยังรูปถ่ายของ พริมาอยู่
“ครับ” สายตาคู่คมได้มองสำรวจเรือนร่างของหญิงสาวอย่างเผลอตัว ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปภายในห้องนอนของพริมา
“ฉันคิดผิดหรือคิดถูกเนี่ยที่เข้ามาในห้องเธอแบบนี้ อดทนไว้นะเจ้าคิมน้อย” คิมหันต์เอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิดตัวเอง หลังจากเขาเห็นเรือนร่างของพริมที่อยู่ภายใต้ชุดแสนธรรมดา ที่ทำให้เขาคิดไปไกลจนแทบจะกู้ไม่กลับ
ทางด้านของพริมา หลังจากร่างหนาเดินเข้าห้องนอนของเธอไป ทั้งความกังวลและความประหม่าได้ลดลงแต่ไม่ได้หายไปจากเธอ
พริมาทิ้งตัวเองลงนั่งบนโซฟาอย่างครุ่นคิดเรื่องงานเขียนและเรื่องของคิมหันต์ในเวลาเดียวกัน เธอดีใจไม่น้อยที่คิมหันต์เดินเข้ามาภายในห้องของเธอแบบนี้ เพราะพริมามีเรื่องอยากจะคุยกับชายหนุ่มอยู่
จนตอนนี้ความสับสนของเธอมันเริ่มตีกันจนพริมาพยายามสลัดมันออกไป แต่เหมือนจะไร้ประโยชน์
“พริม…เราชื่อพริมใช่ไหม” เสียงทุ้มเอ่ยดังออกมาเมื่อร่างหนาได้เดินออกมาจากห้องนอนของพริมาแล้ว แต่หญิงสาวยังคงนั่งนิ่งราวกับไม่เห็นเขา
“ค่ะ พริมค่ะ” พริมาหันมามองร่างหนาที่ตอนนี้อยู่ในชุดลำลองธรรมดาแต่เขาก็ยังคงดูดีเหมือนเดิม
“เป็นรุ่นน้องของพี่ที่มหาลัยใช่ไหม” คำถามของคิมหันต์ทำให้พริมารู้ทันทีว่าที่เธอคิดเอาไว้ไม่ผิดไปเลยสักนิด ว่าชายหนุ่มต้องรู้ว่าเรียนมหาลัยเดียวกับเธอ
“ไม่รู้สิคะ อาบน้ำเสร็จแล้วใช่ไหมคะ…เอ่อคือว่า พริมมีเรื่องอยากจะคุยด้วย”
คนสองคนต่างมองตากันอย่างท้าทายประหนึ่งรู้จุดประสงค์ของกันละกัน คืนนี้คงต้องมีเคลียร์กันนานแน่นอน