ตอนที่ 8
เสียงหัวเราะใสๆ ของณดาดังคลอไปกับการสนทนาระหว่างธีร์ธวัชและลลินดา ธีร์ธวัชเดินไปนั่งบนโซฟาตรงข้ามกับพี่สาว สายตาเหลือบมองไปยังมุมห้องที่รัญชน์รวีกำลังนั่งสอนณดาวาดรูปอย่างใจเย็น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมและพึงพอใจ
“พี่ลินครับ ผมว่าน้องรัญชน์นี่เข้ากับน้องณดาได้ดีจริงๆ เลยนะครับ ดูสิ น้องณดาดูมีความสุขมากเลย” ธีร์ธวัชเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
ลลินดายิ้มบางๆ
“นั่นสิ พี่ก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน ดูจากท่าทางลูกสาวพี่มีความสุขมากเลยเลยนะ” เธอพยักหน้าเห็นด้วย
“ธีร์นี่ตาถึงจริงๆ ที่ไปเจอพี่เลี้ยงดีๆ แบบนี้มาให้พี่”
“แน่นอนครับ” ธีร์ธวัชยิ้มรับอย่างภูมิใจเล็กน้อย
“พี่ลินได้คุยรายละเอียดกับน้องรัญชน์แล้วหรือยังครับเรื่องงาน”
“ยังเลยจ้ะ ว่าจะคุยกันตอนนี้แหละ” ลลินดาตอบ ก่อนจะหันไปเรียก
“น้องรัญชน์จ๊ะ มาคุยกับพี่หน่อยได้ไหม”
รัญชน์รวีหันมามอง ลลินดากวักมือเรียกอย่างเป็นมิตร รัญชน์รวียิ้มให้ณดาเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นเดินมาหาทั้งสองคนอย่างนอบน้อม
“นั่งก่อนสิจ๊ะน้องรัญชน์” ลลินดาผายมือเชิญไปที่โซฟาเดี่ยวข้างๆ ธีร์ธวัช รัญชน์รวีนั่งลงอย่างเรียบร้อย ท่าทางดูประหม่าเล็กน้อย
“พี่จะขอคุยรายละเอียดเรื่องงานกับน้องรัญชน์นะจ๊ะ” ลลินดาเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“คืออย่างที่ธีร์บอกไปเมื่อคืนนี้ พี่ต้องการพี่เลี้ยงที่จะมาดูแลน้องณดาช่วงเย็นวันจันทร์ถึงศุกร์น่ะจ้ะ ตั้งแต่น้องณดาเลิกเรียนจนถึงช่วงที่พี่กลับจากทำงาน แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่เกินสองทุ่มจ้ะ” รัญชน์รวีพยักหน้ารับฟังอย่างตั้งใจ
“ส่วนเรื่องค่าตอบแทน...” ลลินดาเว้นจังหวะเล็กน้อย
“พี่ให้เดือนละ 15,000 บาท แล้วก็มีค่าเดินทางให้อีกเดือนละ 3,000 บาทจ้ะ”
ดวงตากลมโตของรัญชน์รวีเบิกกว้างเล็กน้อยกับตัวเลขที่ได้ยิน มันเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าที่เธอคาดไว้มาก เธอคิดในใจว่าเงินจำนวนนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลของแม่ได้มากทีเดียว
“น้องรัญชน์คิดว่าไงบ้างจ๊ะ พอไหวไหม” ลลินดาถามด้วยรอยยิ้ม
รัญชน์รวีเงียบไปครู่หนึ่งเพื่อประมวลผล เธอรู้สึกดีใจจนพูดไม่ออก แต่ก็พยายามควบคุมสีหน้าและน้ำเสียง “เยอะไปหรือเปล่าคะพี่ลิน รัญชน์เกรงใจ”
“ไม่เยอะหรอกจ้ะ สำหรับพี่ถือว่าสมเหตุสมผลแล้ว เพราะน้องรัญชน์ไม่ได้แค่ดูแลน้องณดา แต่ยังช่วยสอนวาดรูปให้ด้วยไงจ๊ะ ซึ่งตรงนี้น้องณดาชอบมากจริงๆ” ลลินดาตอบด้วยความจริงใจ
ธีร์ธวัชที่นั่งเล่นอยู่กับหลานสาวก็แอบฟังอยู่เงียบๆ คลี่ยิ้มเล็กน้อย เขารู้ว่าพี่สาวใจดีอยู่แล้ว แต่ก็อดชื่นชมความอ่อนน้อมของรัญชน์รวีไม่ได้
“แล้วก็...ถ้ามีเวลาว่าง อยากให้น้องรัญชน์ช่วยดูงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น จัดเก็บของเล่นน้องณดา หรือช่วยจัดเตรียมอาหารว่างให้ณดาด้วยน่ะจ้ะ” ลลินดากล่าวเสริม
“แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะจ๊ะ”
“ได้เลยค่ะพี่ลิน รัญชน์ยินดีค่ะ” รัญชน์รวีตอบรับทันที เธอรู้สึกซาบซึ้งกับข้อเสนอและน้ำใจของลลินดา
“เยี่ยมเลยจ้ะ งั้นน้องรัญชน์พร้อมมาเริ่มงานวันไหนจ๊ะ” ลลินดาถามอย่างกระตือรือร้น
“พรุ่งนี้เลยก็ได้ค่ะ เป็นวันจันทร์พอดี” รัญชน์รวีตอบด้วยรอยยิ้มที่สดใสอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอรู้สึกเหมือนกับว่าแสงสว่างกำลังสาดส่องเข้ามาในชีวิตของเธออีกครั้ง
ลลินดายิ้มอย่างพึงพอใจ
“ดีเลยจ้ะ เดี๋ยวรายละเอียดพี่ให้คุยกับธีร์อีกครั้งก็ได้ว่า น้องณดาจะถึงบ้านกี่โมง”
ธีร์ธวัชมองรัญชน์รวีด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสุข เขาเห็นรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าหวานของเธอแล้วรู้สึกอบอุ่นในใจอย่างประหลาด นี่คงจะเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่มากกว่าแค่การเป็นนายจ้างกับลูกจ้างสินะ เขานึกในใจ
หนึ่งเดือนต่อมา
บรรยากาศยามเย็นหลังมื้อค่ำอบอุ่นเป็นพิเศษ น้องณดานอนหลับปุ๋ยไปแล้วหลังจากที่เล่นสนุกมาทั้งวัน ส่วนลลินดาเธอไปสัมมนาที่ต่างจังหวัดกับพนักงานในออฟฟิศ รัญชน์รวีมานอนค้างที่บ้านของลลินดาเพื่อดูแลลูกสาวให้เธอ
ธีร์ธวัชและรัญชน์รวีกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หวายที่ระเบียงบ้าน ลมพัดเอื่อยๆ แสงจันทร์นวลผ่องสาดส่องลงมาอาบร่างของทั้งคู่ โรยตัวด้วยความเงียบสงบที่ทั้งคู่ต่างคุ้นชิน แต่เป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้น
“วันนี้น้องณดาหลับเร็วนะคะ” รัญชน์รวีพูดเบาๆ พร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้า ดวงตากลมโตมองไปยังประตูห้องนอนของเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู
ธีร์ธวัชหันมามองเธอ สายตาคมกริบจับจ้องใบหน้าหวานอย่างไม่คลาดสาย
“นั่นสิ ปกติกว่าจะยอมนอนก็ต้องเล่านิทานหลายเรื่อง” เขายิ้มตอบ
“ช่วงนี้พี่เห็นน้องรัญชน์วาดรูปเยอะเลย มีออเดอร์เยอะเหรอจ๊ะ?”
“ออเดอร์ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ แต่มีหนี้เยอะเสียมากกว่า” เธอพูดติดตลก
“มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย”
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ธีร์ช่วยรัญชน์มาเยอะแล้ว แค่ให้รัญชน์เป็นพี่เลี้ยงน้องณดา รัญชน์ก็เกรงใจจะแย่แล้วค่ะ”
“อีกอย่างรัญชน์ก็แค่วาดไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ใจมันไม่ฟุ้งซ่าน” เธอมองไปยังดวงจันทร์เต็มดวงที่ลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้าสีดำสนิท
“น้องรัญชน์มีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า”
“ก็มีบ้างค่ะ ตามประสา ห่วงก็แต่คุณแม่ กลัวจะไปสร้างเรื่องอีก”
“ท่านเป็นไงบ้าง พี่ลืมถามเลย”
“อาการก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้วค่ะ”
ทั้งคู่เงียบไปชั่วขณะ ปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุม แต่เป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยความสบายใจ ไม่ใช่ความอึดอัดที่มักเกิดขึ้นระหว่างคนแปลกหน้า
“พี่รู้สึกดีนะที่มีรัญชน์มาอยู่ด้วยแบบนี้” ธีร์ธวัชเอ่ยขึ้นมาเบาๆ เสียงทุ้มนุ่มนวลราวกับกระซิบ สายตาจับจ้องไปที่เธออย่างลึกซึ้ง
“บ้านดูมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะเลย ตั้งแต่รัญชน์เข้ามา”
รัญชน์รวีใจเต้นเล็กน้อยกับคำพูดนั้น ใบหน้าหวานเริ่มมีสีแดงระเรื่อขึ้นมาจางๆ เธอยิ้มอ่อนโยน
“รัญชน์เองก็รู้สึกอบอุ่นค่ะ ทุกคนในบ้านใจดีกับรัญชน์มาก โดยเฉพาะพี่ลินดา”
“แล้ว…พี่ล่ะ?” ธีร์ธวัชถามเสียงนุ่มนวล ใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มอบอุ่นประดับอยู่ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
รัญชน์รวีเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ใบหน้าของเธอแดงก่ำขึ้นอีกนิด เธอรู้ว่าเขากำลังรอคำตอบอะไรบางอย่าง
“พี่ธีร์ก็…ใจดีค่ะ แล้วก็ดีกับรัญชน์มาตลอด” เธอตอบเสียงแผ่วเบาใบหน้าขึ้นสีเล็กน้อย