ตอนที่ 10
“เงินจำนวนนั้น พี่ขอชดใช้แทนรัญชน์เอง ได้มั้ย” ธีร์ธวัชเอ่ยขึ้น น้ำเสียงอ่อนโยนแต่หนักแน่น ก่อนจะดึงร่างบอบบางของหญิงสาวเข้ามากอดเพื่อให้กำลังใจเธออย่างบริสุทธิ์ใจ
“รัญชน์รู้ค่ะ ว่าพี่ธีร์คงจะบอกรัญชน์แบบนี้ถ้าวันหนึ่งรัญชน์ได้บอกความจริงกับพี่” รัญชน์รวีมองหน้าเขาด้วยความซาบซึ้งใจ
ร่างบางในอ้อมกอดของธีร์ธวัชสั่นสะท้าน เขาสัมผัสได้ถึงหยาดน้ำตาที่รินรดไหล่ของเขา หัวใจของเขาบีบรัดด้วยความเจ็บปวด เขาไม่เคยคิดว่าชีวิตของรัญชน์รวีจะต้องเผชิญกับเรื่องราวที่โหดร้ายและซับซ้อนถึงเพียงนี้
“แต่เฟิร์สคงไม่ยอมหรอกค่ะ ถ้าเขารู้ว่าเป็นเงินของพี่ธีร์ และถ้ารู้ว่ารัญชน์คบหากับพี่ธีร์เขาต้องไม่ยอมแน่ ๆ” เสียงรัญชน์รวีอู้อี้อยู่กับอกของเขา
ธีร์ธวัชกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น
“ทำไมล่ะ” เขากระซิบถามเบาๆ คำตอบที่ตามมาทำให้หัวใจของธีร์ธวัชชาวาบ ความโกรธเกรี้ยวพุ่งพล่านขึ้นมาในอกจนแทบควบคุมไม่อยู่
“เขาขู่จะปล่อยคลิปอาบน้ำของรัญชน์ที่แม่เคยแอบถ่ายส่งให้เขาค่ะ” ลมหายใจของธีร์ธวัชสะดุด เขาผละออกจากรัญชน์รวีเล็กน้อย ดวงตาคมกริบฉายแววอันตราย
“ถ้างั้นพี่ว่าเราแจ้งความดีมั้ย” เสียงของเขาเริ่มแข็งกร้าวขึ้น เขารู้สึกเหมือนมีไฟลุกท่วมอยู่ในตัว อยากจะพุ่งไปบดขยี้ไอ้สารเลวนั่นให้แหลกคามือ
รัญชน์รวีส่ายหน้าช้าๆ น้ำตาไหลเป็นทาง
“รัญชน์ก็อยากทำแบบนั้นค่ะ แต่แม่ก็ต้องเสียใจ แล้วก็จะมีอาการป่วยซึมเศร้าอีก รัญชน์ไม่อยากเห็นแม่ไปอยู่โรงพยาบาลจิตเวช” เธออธิบายด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอ่อนล้า ความหวาดกลัวต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับแม่นั้นใหญ่หลวงนัก
ธีร์ธวัชรู้สึกหนักใจอย่างแท้จริง เขารับรู้ถึงพันธนาการที่รัดรึงเธอไว้ จนทำให้เธอขยับตัวไปไหนไม่ได้
“แล้วรัญชน์จะเอายังไงต่อไป” เขาลูบผมเธอเบาๆ พยายามปลอบประโลม
“ก็ต้องยอมให้แม่คบหากับเฟิร์สไปเรื่อยๆ ค่ะ” เธอตอบเสียงเหนื่อยหน่าย ความรู้สึกสิ้นหวังฉายชัดในแววตา
“แล้วนายเฟิร์สเค้ายังมาที่บ้านของรัญชน์อยู่มั้ย” ธีร์ธวัชถาม น้ำเสียงจริงจังขึ้นอีกครั้ง
“ก็มาเป็นบางครั้งค่ะ…ช่วงที่รัญชน์โอนเงินช้า เค้าก็จะมา” รัญชน์รวีกัดริมฝีปากล่างแน่น ใบหน้าซีดเผือด
“แต่บางครั้งเขาก็แอบมาหาแม่ค่ะ พี่รู้มั้ยคะ...ว่ารัญชน์เคยกลับบ้านไปแล้วเห็นภาพของแม่ตัวเองกำลังมีอะไรกับนายเฟิร์สนั่น...รัญชน์เจ็บปวดแค่ไหน…แล้วก็ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะแม่หลงรักเฟิร์สหัวปักหัวปำ” เสียงของเธอขาดหายไป สั่นสะท้านด้วยความขยะแขยงและความเจ็บปวดที่ฝังลึก ธีร์ธวัชเห็นภาพความทรมานที่เธอต้องเผชิญ มันเกินกว่าที่ใครจะรับไหว
“รัญชน์!!!...ต่อไปพี่จะเป็นคนผ่อนชำระให้นายเฟิร์สนั่นเอง โดยพี่จะโอนเงินให้รัญชน์อีกที โอเคมั้ย เค้าไม่รู้หรอก” ธีร์ธวัชลองเสนอความช่วยเหลือเธออีกครั้ง พยายามเปลี่ยนเรื่องเพื่อให้เธอได้พักหายใจจากความเจ็บปวดที่เพิ่งเล่าไป
“ค่ะ”
“แล้วทุกเดือน...รัญชน์ส่งให้เค้าเดือนละเท่าไหร่จ๊ะ”
“3,000 บ้าง 5,000 บ้างค่ะ แล้วแต่เฟิร์สเค้าจะขอ แต่ถ้ามากว่านี้รัญชน์ก็ไม่ให้ เพราะรัญชน์ก็หาได้เท่านี้จริง ๆ”
“แล้วผ่อนใกล้หมดหรือยังล่ะ” รัญชน์รวีถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ยังหรอกค่ะ...ยังเหลืออีกเยอะ ประมาณสี่แสนห้าเลย”
ธีร์ธวัชครุ่นคิดเล็กน้อยกับตัวเลขมหาศาลนั้น เขามองรัญชน์รวีที่ดูอ่อนล้าแต่ก็พยายามเข้มแข็ง ดวงตาคู่สวยของเธอมีแววแห่งความสิ้นหวังซ่อนอยู่ลึกๆ เขาไม่สามารถทนเห็นเธอจมปลักอยู่ในวังวนนี้ได้อีกต่อไปแล้ว
“งั้นพี่ขอช่วยผ่อนนะ เดี๋ยวพี่โอนให้รัญชน์เดือนละห้าพัน รัญชน์จะได้มีผ่อนให้เขาทุกเดือน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ไม่ใช่แค่คำเสนอ แต่เป็นคำยืนยันที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจ นี่ไม่ใช่การช่วยเหลือแบบผิวเผิน แต่เป็นการยื่นมือเข้าไปโอบอุ้มชีวิตของเธอทั้งชีวิต
รัญชน์รวีเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตื้นตัน น้ำตาคลอเบ้า
“ก็ได้ค่ะ...ขอบคุณนะคะพี่ธีร์ ที่ช่วยเหลือรัญชน์มาตลอด” เสียงของเธอแหบพร่าด้วยความรู้สึกซาบซึ้งและโล่งใจ เหมือนยกภูเขาออกจากอก
ธีร์ธวัชบีบมือเธอเบาๆ แล้วดึงเธอเข้ามากอดอีกครั้งอย่างอ่อนโยน เขารับรู้ได้ถึงความบอบช้ำในใจของเธอ แต่ในขณะเดียวกัน ก็รู้สึกถึงความเข้มแข็งที่ซ่อนอยู่ภายใน เขาจะไม่ยอมให้เธอแบกรับเรื่องทั้งหมดนี้ไว้คนเดียวอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจะยืนหยัดเคียงข้างเธอจนกว่าฝันร้ายนี้จะสิ้นสุดลง
ในอ้อมกอดของธีร์ธวัช รัญชน์รวีรู้สึกถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยที่ไม่เคยได้รับจากที่ไหนมาก่อน น้ำตาที่รินไหลไม่หยุดบ่งบอกถึงความอัดอั้นที่เธอแบกรับมานานแสนนาน ธีร์ธวัชกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นอีกครั้ง ปล่อยให้เธอได้ปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดออกมา
“รัญชน์ไม่ต้องกังวลนะ” เสียงทุ้มนุ่มนวลกระซิบอยู่ข้างหู
“พี่จะอยู่ข้างๆ รัญชน์เสมอ เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน”
รัญชน์รวีผละออกจากอ้อมกอดเขาช้าๆ ดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้ แต่แววตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ เธอเงยหน้ามองเขาด้วยรอยยิ้มที่เปื้อนน้ำตา
“ขอบคุณนะคะพี่ธีร์ รัญชน์ไม่รู้จะตอบแทนพี่ยังไงดี” ธีร์ธวัชยิ้มอ่อนโยน เช็ดคราบน้ำตาบนแก้มเนียนให้เธอเบาๆ
“ไม่ต้องตอบแทนอะไรหรอก แค่รัญชน์สบายใจขึ้น พี่ก็พอใจแล้ว” เขาหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แต่เรื่องนายเฟิร์ส พี่คงปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้แน่”
รัญชน์รวีใจหายวาบ
“พี่ธีร์หมายความว่ายังไงคะ”
“พี่หมายถึงเรื่องคลิปนั่น” ธีร์ธวัชอธิบาย
“มันเป็นการแบล็กเมล์นะรัญชน์ เราปล่อยให้เขามีอำนาจเหนือเราแบบนี้ไม่ได้”
“แต่ว่า…” รัญชน์รวีพยายามค้าน เพราะเธอกังวลความจริงบางอย่างที่ยังไม่กล้าบอกให้เขาได้รับรู้
“พี่เข้าใจนะว่ารัญชน์ห่วงคุณแม่” ธีร์ธวัชปลอบโยน “แต่ถ้าปล่อยไว้นานไป มันอาจจะยิ่งบานปลายได้ เราต้องหาทางจัดการเรื่องนี้ให้เด็ดขาด” เขาเงียบไปชั่วครู่ ดวงตาคมกริบฉายแววครุ่นคิด “พี่ว่าเราควรจะปรึกษาทนายความ”
“ทนายความเลยเหรอคะพี่ธีร์” รัญชน์รวีตกใจ
“ใช่” ธีร์ธวัชพยักหน้า
“พี่มีเพื่อนเป็นทนายความ เป็นคนเก่งและไว้ใจได้ เขาจะสามารถให้คำแนะนำเราได้ว่าควรทำยังไงต่อไปโดยที่กระทบคุณแม่ของรัญชน์น้อยที่สุด” เขาจับมือเธอเบาๆ
“รัญชน์ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะอยู่ตรงนี้กับรัญชน์ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”