บทที่ 1 บทนำ

2164 คำ
บทที่ 1 บทนำ ทั้งหมดเข้ามาในห้องผู้บริหารคลับที่ดูโอ่อ่าและแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน มีชายสวมสูทยืนด้วยท่าทีนอบน้อมคอยต้อนรับอยู่สองคน ทัดเทพบอกผู้หญิงที่มาด้วยให้นั่งรอบนโซฟารับแขก ส่วนที่เหลือก็เข้ามายังห้องทำงานที่มีกระจกใสกั้น ร่างสูงเด่นเป็นสง่านั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน ยิ่งเดินเข้าใกล้อ้ายก็ยิ่งใจเต้น ที่ไทป์บอกว่าทาวน์หล่อมากคือไม่จริง แต่หล่อแบบเหี้ยๆ ต่างหาก หล่อแบบวัวตายควายล้ม เป็นลมแปดตลบ อ้าย! เธอกำลังใจเต้นแรง! “บอกแล้วใช่มั้ยว่าห้ามหวั่นไหว เก็บอาการหน่อยสิ” ไทป์ก้มลงกระซิบ เมื่อเห็นแฟนสาวหน้าแดง อาการล่องลอยคล้ายใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ห่า! พากลับตอนนี้ได้ไหมวะ เริ่มหึงพี่ชายแล้วกู “อะ..อ้ายไม่ได้เป็นอะไร พี่ก็พูดไปเรื่อย” “หน้าโคตรออก เฮ้อ..พี่ก็หล่อนะอย่าลืม และที่สำคัญพี่คือผัวเรานะอ้าย” “แหะๆ รู้แล้วน่า” ทั้งคู่หย่อนสะโพกนั่งลงเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของทาวน์ ส่วนทัดเทพเดินไปนั่งโซฟามุมห้อง ปรายตามองลูกชายทั้งสองด้วยใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงความรู้สึก “พ่อไม่เห็นบอกว่าจะมา” เสียงทุ้มของเจ้าของห้องทักทาย หลังจากยกมือไหว้บุพการีพอเป็นพิธี เชี่ย! ขนาดเสียงยังน่าฟัง ตายๆ คนอะไรหล่อพิฆาตมาก “อ้าย อ้ายครับ!” “คะ! ว่าไงนะคะ” อ้ายหน้าเหลอหลาเมื่อแฟนหนุ่มสะกิดแขนเรียกเสียงดุ “พี่แนะนำเรากับพี่ทาวน์ ทำไมไม่สวัสดี ไม่น่ารักเลยนะ” อยากจะบ้า..เมียคงชอบคนหล่อขั้นสุด มองพี่กูอย่างกับจะกลืนกิน ชักน้อยใจแล้วนะเว้ย “อ่อ ขอโทษค่ะ อ้ายไม่ทันได้ยิน สวัสดีค่ะพี่ทาวน์ชื่ออ้ายนะคะ คืออ้ายเป็นฟะ..” “เมียผมเองครับพี่ทาวน์” ไทป์ชิงพูดก่อน อ้ายจึงได้แต่อ้าปากค้าง มองทาวน์แล้วยิ้มแห้ง เฮ้อ..ถ้าเจอพี่ก่อน ก็คงดี อุ้ย! ไม่ๆ อ้ายรักพี่ไทป์คนเดียว “สวัสดีครับอ้าย ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวเดชสิทธิ์นะครับ” ทาวน์ส่งยิ้มบางๆ ให้สาวน้อยหน้าตาน่ารัก ทำเอาเธอหน้าแดงระเรื่อแล้วรีบหลบสายตา จนเขาแอบขำแต่เมื่อเจอสายตาไม่พอใจของน้องชายก็รีบหุบยิ้มทันที ทำเป็นหวง..เมื่อก่อนยังเคยแชร์ผู้หญิงกับเขามาเยอะแยะ สงสัยคนนี้รักจริง ไปทำงานต่างจังหวัดแค่ไม่กี่เดือน ไอ้แสบชิงมีเมียตัดหน้าไปเสียแล้ว “ก่อนจะต้อนรับ พวกแกถามฉันหรือยัง” เสียงทัดเทพทำให้ทุกคนหันมอง ทาวน์กับไทป์ส่ายหน้าแล้วมองบน ส่วนอ้ายหน้าซีดทำเหมือนจะร้องไห้จนไทป์ต้องโอบไหล่แล้วลูบเบาๆ “พ่ออย่ากวน ทีตัวเองยังพาเด็กมาด้วยเลย” ไทป์ชี้ไปยังหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านนอก ทำให้ทาวน์มองตาม จังหวะนั้นเธอเงยหน้าขึ้นพอดี จึงทำให้ทั้งคู่ประสานตาเข้าอย่างจัง หญิงสาวเป็นฝ่ายก้มหน้าหลบด้วยท่าทีขวยเขิน จนทาวน์สงสัยว่าเป็นเด็กพ่อจริงหรือเปล่า ดูไม่เหมือนเด็กเอ็นหรือคนทำอาชีพบริการสักนิด จึงถามด้วยความสงสัย “เด็กใหม่หรือครับ พ้นคุกยัง?” “อายุยี่สิบสอง เพิ่งเรียนจบปริญญาตรี” ทัดเทพตอบยิ้มๆ ด้วยท่าทางกรุ้มกริ่ม “อย่าบอกว่าเป็นแม่ใหม่นะครับ!! ไม่เอานะพ่อ!” ไทป์ทำท่าขนลุก ตั้งใจพาแฟนมาเปิดตัว แต่พ่อดันพาเมียเด็กมาเซอร์ไพร้ส์ พระเจ้าช่างไม่เข้าข้างเสียเลย “แกก็เลอะเทอะ อย่าถามเรื่องฉันเลย เอาเรื่องแกก่อน กับแม่หนูคนนี้ถึงไหนกันแล้ว” ทัดเทพมองสาวน้อยอย่างพินิจอีกครั้ง ปกติลูกชายชอบคนสวยปราดเปรียว แต่คนนี้ออกแนวน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม ผิดทางไปเยอะ “บอกไปเมื่อกี้ว่าเมีย ถ้าไม่ติดว่ายังเรียนไม่จบก็แต่งงานไปแล้ว” ไทป์ตอบอย่างสบายอารมณ์ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ กระดิกเท้ายักคิ้วให้พี่ชายอย่างยียวน จนได้รับนิ้วกลางมาเป็นการตอบแทน “คิดว่าเอาปลาไหลอย่างมันอยู่เหรอ” ผู้สูงวัยถามหญิงสาวหนึ่งเดียวในวงสนทนา “เอ่อ..ก็น่าจะเอาอยู่นะคะ” อ้ายตอบเสียงไม่มั่นคง แต่เมื่อสบตากับคนถาม เธอก็เริ่มใจชื้นเมื่อได้รับรอยยิ้มตอบกลับมา “มันเจ้าชู้จะตาย ถ้าแต่งงานแล้วมันแอบมีเมียน้อย ฉันคงช่วยไม่ได้ ขอเตือนไว้ก่อน” “เอ้า..ทำไมพ่อพูดงี้” ไทป์ทำหน้าเซ็งหันมองคนข้างกายที่หัวเราะคิกคัก “พี่ไทป์ไม่กล้าหรอกค่ะ เพราะอ้ายมีวิธีทำให้หลงจนโงหัวไม่ขึ้น” ตอบอย่างมั่นหน้าและมั่นใจ จนทำให้คนอื่นหัวเราะขบขันกับท่าทีน่ารักของเธอ เมื่อไม่เกร็งทุกอย่างก็ดูเป็นธรรมชาติ อ้ายจะเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งนิสัยตรงนี้ทำให้ไทป์คิดว่าเธอโคตรน่ารัก “ไม่ต้องทำก็หลงแล้วป่ะ หื้ม..” ไทป์ซุกหน้าตรงซอกคอขาว กดจูบเบาๆ ทำท่าออดอ้อน จนพ่อกับพี่ชายเบือนหน้าหนี และทาวน์ก็ได้ประสานสายตากับหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มด้านนอกอีกครั้ง เธอทำท่าตกใจแล้วรีบก้มหน้า อยู่ไกลขนาดนี้ยังเห็นว่าแก้มเป็นสีระเรื่อ ยังไงดี? คือเธอแอบมองเขาอยู่งั้นหรือ? “ถ้าหนูมั่นใจฉันก็ไม่ขัดข้อง จะให้ไปสู่ขอเมื่อไหร่ล่ะ วันนี้เลยมั้ยหรือยังไง” ทัดเทพยกมือเรียกบอดี้การ์ดเพื่อขอน้ำ ก่อนหันมาถามอ้ายพร้อมส่งยิ้มให้เธอ “เอ่อ คือ..” อ้ายอึกอัก “อ้ายขอเรียนให้จบก่อนครับ ถึงจะวางแผนมีครอบครัว” ไทป์เป็นคนตอบ ก่อนหอมแก้มของแฟนสาวอย่างไม่แคร์สายตาพ่อกับพี่ชาย จนอ้ายต้องทุบไปหนึ่งทีเขาถึงยอมขยับออกห่าง “พ่อแม่หนูไม่มีปัญหาใช่มั้ย ที่คบลูกชายของฉัน” “ไม่มีปัญหาค่ะ แม่ชอบพี่ไทป์มาก ส่วนพ่อเสียไปแล้ว” “เสียใจด้วยนะเรื่องพ่อ ถ้าแม่หนูไม่มีปัญหาฉันก็ไม่ติด เมื่อกี้แค่แกล้งเล่น อย่าถือสาคนแก่เลยนะ” ทัดเทพมองอ้ายอย่างเอ็นดู เมื่อเธอปิดปากทำตาโตที่รู้ว่าถูกแกล้ง “ว่าแต่คนนั้นใคร พ่อยังไม่บอกพวกผมเลย” ไทป์วกกลับมาเรื่องผู้หญิงแปลกหน้าอีกครั้ง และคราวนี้เขาทำสีหน้าจริงจัง ทัดเทพจึงกระแอมในลำคอก่อนพูด “ลูกสาวของลูกหนี้รายใหญ่ บังเอิญพ่อเด็กเพิ่งเสีย แม่เลี้ยงเลยให้มาขัดดอก” “ห๊า! ขัดดอก” ไทป์พูดเสียงดัง พอๆ กับอ้ายที่ตกใจไม่แพ้กัน ส่วนทาวน์มีท่าทีเฉยเมย อยู่วงการสีเทาเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ ตัวเขาเองก็ได้ดอกเบี้ยเป็นสาวสวยอยู่บ่อยครั้ง แต่เป็นประเภทไม่เลี้ยงดูใคร จึงกินแค่ชั่วคราว พอเบื่อก็ปล่อย แล้วหักเงินต้นหรือหักดอกให้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของตัวบุคคล “ตกใจทำไมวะไอ้ลูกคนนี้” “ยังกับในละคร ตกลงพ่อจะรับเลี้ยงเด็กว่างั้น” ไทป์ถามต่อ “ป่าว..ว่าจะเอามาให้แก!” ทัดเทพยักคิ้วให้ไทป์ “เดี๋ยวๆ พ่ออย่าหางานให้ผมสิ” ไทป์รีบโอบไหล่แฟนสาวที่ตอนนี้หน้าเจื่อนลง ฤกษ์ไม่ดีจริงๆ ตอนออกจากห้องกูก้าวเท้าข้างไหนก่อนวะ ทำไมผิดแผนผิดรูปแบบไปหมด พ่อก็นะ..เห็นอยู่ว่าพาแฟนมาแนะนำ แต่ดันบอกตรงๆ ว่าพาเด็กมาให้ ด่าพ่อตัวเองจะบาปไหมเนี่ย! “เห็นว่ารุ่นราวคราวเดียวกับแกเลยพามาให้ดูเผื่อสน แต่คงไม่ได้สินะ” คนพูดปรายตามองทาวน์เพื่อเสนอ แต่อีกฝ่ายส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ผมรักเมียคนเดียวครับ รักนะคะอ้าย..อย่าทำหน้าบึ้งสิ โอ๋ๆ” ไทป์เขี่ยแก้มคนหน้างอ ก้มลงคลอเคลียเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่สนใจคนที่พ่อพามาแน่นอน “ทาวน์ว่าไง รับมั้ย?” หันไปถามลูกชายคนโต ซึ่งนั่งทำหน้าขรึมอยู่บนโต๊ะทำงาน “พ่อก็รู้ว่าผมมีเยอะ แต่ละวันลูกหนี้ก็พามาไม่ต่ำกว่าสิบ ผมไม่มีเวลาขนาดนั้นหรอก” ทาวน์ตอบเลี่ยง “แต่น่ารักนะ ไม่สนบ้างเหรอ” คนพูดมองไปยังหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าด้วยสายตานิ่งเรียบไม่แสดงความรู้สึก “พ่อก็รับไว้เองสิครับ พามาแล้วหนิ” ทาวน์เสนอ “ฉันไม่ได้อยู่เมืองไทย จะให้หอบหิ้วไปอเมริกาด้วยมันใช่ที่มั้ย” “พามาทำไมตั้งแต่แรก” ไทป์สงสัย “เห็นเงียบๆ ดูอ่อนต่อโลกเลยสงสาร แม่เลี้ยงก็เขี้ยวลากดิน ไม่รู้จะพาไปเสนอใครอีกหรือเปล่าหากฉันไม่รับไว้ หน้าตาพาซื่อขนาดนั้นเลยอดช่วยไม่ได้ ใครจะใจดำลงคอวะ” ทัดเทพยังคงพูดด้วยท่าทีสบายใจไม่ทุกข์ร้อน ต่างจากลูกชายสองคนที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่เข้าใจการกระทำของผู้ให้กำเนิด “น่าสงสารจัง” อ้ายพึมพำกับตัวเอง ไม่รู้ผู้หญิงคนนั้นเจออะไรมาบ้าง ถึงได้กลายเป็นของขัดดอก อายุยี่สิบสองแต่ดูไร้เดียงสา ไม่มีจริตมารยา ไม่มีท่าทีกร้านโลก กลับตื่นกลัวด้วยซ้ำเมื่อถูกจับจ้องจากคนในห้อง “พี่ทาวน์ก็รับไว้เถอะ เอาไว้แก้ขัด หน้าตาน่ารักมากนะครับ ลองเปลี่ยนแนวดู โอ๊ย!” ไทป์สะดุ้งเมื่อถูกแฟนสาวบิดเนื้อตรงหน้าท้อง “พี่ไม่ต้องออกความคิดเห็น ให้พี่ทาวน์กับคุณพ่อคุยกันเอง” “ครับๆ พี่จะเงียบ” ไทป์ทำท่ารูดซิปปาก ท่าทีเอาอกเอาใจที่มีต่อแฟนสาวทำให้ททาวน์กับทัดเทพมองหน้ากันแล้วยิ้ม เสือไทป์คงสิ้นลายเพราะสาวน้อยคนนี้เป็นแน่แท้ “ว่าไงทาวน์ ถ้าไม่รับก็ให้ทำงานที่คลับก็ได้ เด็กมันมีความรู้ เรียนจบบัญชีมา” คนเป็นพ่อพยายามโน้มน้าวไม่หยุด “พ่ออย่างตื้อสิครับ ไม่ก็คือไม่ พากลับไปเลย” ทาวน์เริ่มหงุดหงิด ไม่เข้าใจทำไมต้องยัดเยียด ถ้าเป็นของขัดดอกทั่วไปก็ไม่เห็นต้องเป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนี้ “ฉันจะทิ้งไว้ที่นี่ พวกแกจัดการด้วยแล้วกัน” พูดจบทัดเทพก็เดินไปคุยกับผู้หญิงที่นั่งก้มหน้าอยู่สองสามประโยค ก่อนเดินจากไปทิ้งให้คนที่เหลือมองหน้ากันอย่างคิดไม่ตก "อ้าว..สรุปยังไงเนี่ย" ไทป์เกาท้ายทอยมองพี่ชายอย่างขอคำปรึกษา ตั้งใจพาแฟนมาเปิดตัวแต่พ่อทำแสบพาผู้หญิงมาทิ้งไว้ให้ซะงั้น "ไม่รู้เหมือนกัน" ทาวน์ยักไหล่ “งั้นผมกลับดีกว่า” ไทป์โอบเอวแฟนสาวให้ลุกยืน “เดี๋ยวดิวะ จะไม่ช่วยคิดเรื่องผู้หญิงคนนั้นหน่อยเหรอ” ทาวน์จิ๊ปาก “ไม่ครับ อยากนอนกกเมีย ไปนะพี่ชาย..” ไทป์โบกมือและอ้ายก็รีบไหว้ลาก่อนถูกโอบเอวเดินออกไป ทิ้งให้หนุ่มหล่อสบถอย่างหัวเสียอยู่คนเดียว สายตาคมกริบมองไปยังร่างในชุดเดรสสีขาวยาวคลุมข้อเท้า ได้แต่ส่ายหน้าระอากับความเอาแต่ใจของบุพการี เอาภาระมาทิ้งไว้แล้วก็สะบัดก้นหนี เขาควรทำอย่างไร? เมื่อคิดไม่ตกก็ลุกเดินตรงไปยังบุคคลต้นเรื่อง พอเธอเห็นเขาก็รีบงุดหน้าลงต่ำ ทาวน์หยุดยืนอยู่ไม่ไกล จากมุมนี้สามารถมองเห็นโครงหน้าจิ้มลิ้ม ขนตางอนยาวเป็นแพรของคนที่นั่งอยู่บนโซฟาได้ชัดเจน และในวินาทีที่เธอเงยหน้าสบตา คนตัวสูงก็ถึงกลับนิ่งไปชั่วขณะ ตากลมโตบ้องแบ๊ว จมูกเล็กโด่งรั้น ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ ดูราวตุ๊กตามีชีวิตกำลังมองเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ ไม่ได้ตะลึงเพราะความสวย คนระดับเขามีสาวงามให้กินไม่เคยขาด แต่เธอทำให้นึกถึงคำพูดของใครบางคนเมื่อหลายปีก่อน ริมฝีปากหนาได้รูปกระตุกยิ้ม โลกช่างกลมเสียเหลือเกิน ตั้งใจส่งคืนให้พ่อเอากลับไปจัดการเองก็เปลี่ยนความคิดทันที ..อยู่ๆ ก็มีเรื่องสนุกให้เล่น เขาจะไม่ปล่อยโอกาสหลุดมือเด็ดขาด.. “ชื่ออะไร” เสียงทุ้มเอ่ยถาม พร้อมหย่อนสะโพกนั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน เว้นระยะห่างไม่ให้อีกคนอึดอัด แต่ไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อหญิงสาวนั่งตัวแข็งทื่อนิ่งเงียบจนทาวน์ถามอีกครั้ง “ชื่ออะไร” “สะ..สายขิมค่ะ” “หึ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม