พริบพราวเดินเข้ามาในร้านหอมละมุน กลิ่นหอมของขนมหวานคละเคล้ากับกลิ่นกาแฟหอมตลบอบอวลไปทั้งร้าน สายตากวาดมองหาเพื่อนรักกำลังก้มๆเงยๆอยู่หน้าตู้ขนม จึงเดินเข้าไปหาพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง
“ทำไรอยู่จ๊ะ แม่ค้าคนสวย”
“แกมาแล้วเหรอ ฉันเพิ่งทำเค้กแครอทเสร็จพอดีเลย แกจะลองชิมไหม”
“อืม ดีเลยกำลังหิว งั้นฉันสั่งเครื่องดื่มแล้วไปรอตรงนั้นนะ”
“ได้เลยแกไปนั่งรอตรงนั้นก่อนเลย เดี๋ยวเซียลก็มาแล้วล่ะ” นาฬิริณทร์ขยิบตาให้ก่อนจะหันไปหยิบจานมาคีบเค้กแครอทใส่จาน เตรียมยกไปเสิร์ฟให้เพื่อนพร้อมเครื่องดื่ม
หญิงสาวเลือกนั่งมุมประจำของตัวเอง โดยหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูข้อความที่ค้างไว้ยังไม่ได้อ่าน ก่อนจะสะดุดที่ข้อความของใครบางคนที่เธอเฝ้ารอมาตลอดทั้งวัน
‘ทำไรอยู่ครับ’ ส่งเมื่อสิบห้านาทีที่แล้ว พริบพราวนิ่งไปเล็กน้อย ความน้อยใจทำให้นึกอยากเล่นตัว ไม่อยากตอบกลับเขาเร็วอย่างเช่นทุกครั้ง เธอคว่ำโทรศัพท์ไว้ แล้วหันไปหาเพื่อนที่ยกขนมกับเครื่องดื่มให้เธอที่โต๊ะแทน พยายามจะไม่สนใจข้อความดังกล่าวแต่สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้ของเธอแทน
“แก สอนเราทำอาหารหน่อยได้ไหม เอาเมนูเดียวก็ได้”
“ได้สิ แกอยากทำเมนูอะไร”
“ข้าวผัดปลาทู”
“อืมได้ อยากทำวันไหนอะ”
“วันนี้แหละ ฉันอยากทำวันนี้ พรุ่งนี้ฉันจะเอาไปกินที่ทำงาน”คิ้วสวยของนาฬิริณทร์เลิกสูงขึ้น มองหน้าเพื่อนสนิทด้วยสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย
“แต่ร้านฉัน ไม่มีปลาทูนะต้องออกไปซื้อ”
“ไม่ต้องหรอกแก ฉันซื้อมาแล้ว” พูดจบก็หยิบถุงบรรจุวัตถุดิบ เตรียมพร้อมสำหรับทำเมนูดังกล่าววางลงบนโต๊ะทันที
“ทำก่อนเซียลมานะ ฉันขี้เกียจตอบคำถาม”
“อ้าว แล้วแกไม่ต้องบอกฉันหรอ”
“อืมบอกสิ แต่เดี๋ยวทำไปเล่าไปนะ ตอนนี้เรารีบไปทำดีกว่า คืนชักช้าเซียลมันมาถึงพอดี” พริบพราวรีบเอ่ยเร่ง คว้าถุงวัตถุดิบเดินนำไปยังห้องครัวของร้านทันที
และแล้วเมนูอาหารที่เธอต้องการทำก็สำเร็จเรียบร้อยใส่กล่องข้าวแบ่งเป็นสองกล่อง ใส่ถุงเรียบร้อยเตรียมตัวหิ้วกลับบ้าน แต่ก็รอที่จะนั่งเล่นพูดคุยกับเคเซียก่อนสักชั่วโมงถึงได้รีบขอตัวกลับโดยอ้างว่าต้องตื่นเช้าเพราะมีออกกองถ่ายทำนอกสถานที่ เคเซียจึงไม่ได้เอ่ยรั้งอะไรทั้งที่ตอนแรกนัดกันไว้ว่าจะนอนค้างด้วยกันแต่กลับเปลี่ยนใจเสียอย่างนั้น
เช้าวันรุ่งขึ้น พริบพราวนำอาหารที่ทำเมื่อวานนี้มาจัดการอุ่นจนร้อน โดยทอดไข่ดาวเพิ่มอีกสองใบจัดใส่กล่องสองกล่อง ถือไปที่ทำงานด้วย แล้ววันนี้เธอก็ไม่ได้คาดหวังที่จะรอใครบางคนมารับอย่างเช่นเมื่อวาน ด้วยนิสัยส่วนลึกเป็นคนกลัวความผิดหวัง จึงตัดสินใจเรียกรถจากแอพพลิเคชั่นชื่อดังให้มารับไปทำงานแทน วันนี้เธอจึงไม่ต้องเข้างานสายเช่นให้รู้สึกเก้อเขินตอนเดินเข้าประตูเหมือนเช่นเคย
“อ้าวพราว ถืออะไรมาเยอะแยะเลย” เสียงทักของพี่พอร์ชเอ่ยขึ้นขณะที่รุ่นน้องสาวกำลังเดินผ่านห้องลิฟวิ่งรูมไปยังห้องทำงานของตนเอง ร่างเล็กชะงักฝีเท้าหันมามองก่อนจะส่งยิ้มให้กับรุ่นพี่คนดังกล่าวและคนอื่นๆ ในห้อง ก้าวเท้าเข้าไปหา
“อาหารกลางวันของพราววันนี้ค่ะแล้วก็ขนมจากร้านเพื่อนพราว เอามาฝากพี่ๆทุกคนด้วยนะคะ” เธอบอกพร้อมกับแจกจ่ายขนมต่างๆที่อุดหนุนมาจากร้านของนาฬิริณทร์ ให้กับพี่ๆที่กำลังนั่งเล่น จิบกาแฟกันอยู่ในห้องลิฟวิ่งรูม
“มีของพี่ด้วยไหมครับ” เสียงห้าวทุ้มคุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลัง เป็นเสียงที่ทำให้พริบพราวยืนอึ้ง นิ่งค้างไปหลายวินาที ไม่ยอมหันไปมองร่างสูงที่มาหยุดยืนอยู่ข้างหลังของเธอแล้วในตอนนี้
“มีค่ะ พราวเอามาเยอะเผื่อทุกคนที่อยากทานค่ะ พี่คิณณ์ลองเลือกดูเลยค่ะว่าอยากทานอะไร”
“งั้นพี่ทานข้าวกล่องของพราวได้ไหม พี่เห็นมีสองกล่อง” ท้ายที่สุดก็หันไปมองหน้าเขา เห็นรอยยิ้มกับนัยน์ตาขี้เล่นเปล่งประกายวิบวับ ริมฝีปากบางเม้มแน่น เหลือบสายตาสบตาเขานิ่ง
“ได้ค่ะ ถ้าพี่คิณณ์อยากทาน”
“เห้ย! ไอ้คิณณ์มึงจะไปแย่งน้องเขาทำไม น้องเขาทำมากินของเขา”
“ก็กูเห็นแล้วกูอยากกินนี่ ได้ไหมพราว” เขาหันไปตอบเพื่อนสีหน้าเรียบเฉย แต่น้ำเสียงมีความกวนประสาท ก่อนจะหันมาถามเธอเสียงนุ่มขึ้น
“ได้ค่ะ พอดีพราวทำมาเผื่อกินมื้อเช้าด้วย เลยมีสองกล่อง ถ้าพี่คิณณ์จะทานก็ได้ค่ะ เพราะพราวยังอิ่มขนมอยู่เลย” เธอบอกพร้อมกับหยิบกล่องข้าวที่เตรียมมายื่นให้เขาโดยไม่ยอมสบตา
“พี่ๆคะ พราวขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ ยังทำงานที่พี่ยุทธบอกไม่เสร็จเลยค่ะ”
“จ้า ขอบใจขนมมากน๊า” พี่เอิร์ทตอบด้วยรอยยิ้ม พลางชูขนมในมือให้ ส่วนพี่ๆคนอื่นก็ส่งยิ้ม พูดคุยหยอกล้อเธอพอเป็นพิธี ก่อนที่เธอจะเดินเลี่ยงไปโดยไม่แม้แต่หันมามองหน้าเขาสักนิด จนเขาต้องหันมองตามแผ่นหลังบางไปจนสุดสายด้วยความรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
จนเวลาพักเที่ยงพริบพราวที่เอาอาหารกล่องมาทานเองทำให้ไม่ได้เดินไปทานส้มตำกับปั้นแป้งและพี่ๆคนอื่นๆ ทั้งห้องจึงเหลือแค่เธอที่นั่งทานข้าวอยู่ที่โต๊ะคนเดียว ด้วยสีหน้ามีความสุขเล็กๆเมื่อนึกถึงอาหารกลางวันที่ตัวเองทาน และอาหารอีกกล่องที่เธอยกให้ใครอีกคนไป แม้ว่าจะยังไม่ได้คุยหรือเคลียร์กันเรื่องที่เขาอยู่ๆก็เงียบหายไปตลอดหนึ่งวัน รวมไปถึงเมื่อคืนที่เธอน้อยใจจนไม่อยากรับโทรศัพท์ แต่พอเช้ามาเขามาหยอก มาขออาหารเธอไปทาน มันก็อดมีความสุขไม่ได้ เพราะในส่วนลึก จริงๆแล้วเธอก็อยากทำให้เขาทานนั่นแหละ แต่เพียงแค่ไม่กล้าที่จะเริ่มต้นก่อน แต่ในเมื่อเขาเอ่ยปากเองเธอเลยยิ่งดีใจที่เขาจะได้ทานฝีมือที่เธอทำครั้งแรก ที่ตั้งใจทำเป็นพิเศษ